5 ต.ค. 2021 เวลา 15:13 • ความคิดเห็น
23 ทรัพย์สินที่ควรครอบครอง
เพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงิน
23 Assets To Own for Financial Freedom
2
คุณจะมีอิสรภาพทางการเงินได้ ก็ต่อเมื่อคุณมีกระแสเงินสดเป็นรายได้ที่แน่นอนจากทรัพย์สินของคุณ โดยปราศจากความกังวล
2
มี 2 ทางที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน
1. เก็บเงินจำนวนมากเพื่อใช้จ่าย มีจำนวนให้มากพอกับการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งชีวิต
2. ครอบครอง หลักทรัพย์พวก paper assets เช่น หุ้น กองทุนรวม โดยมีปันผลอย่างสม่ำเสมอ หรือ สินทรัพย์ให้เช่า พวก physical assets สร้างรายได้ให้คุณอย่างต่อเนื่อง
ฟังใน youtube https://youtu.be/Z4UCzPLzOLI
บทความนี้ขอยกตัวอย่างสินทรัพย์ 23 รายการ
ใน 2 กลุ่มนี้ ที่คุณควรมีเพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงิน
1
23. เหมืองขุดทอง (Mining)
ในปี 1948 คนกว่า 300,000 คน มุ่งตรงไปยังรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อแย่งกันขุดทอง ในอดีตคือ เหมืองขุดทองจริงๆ แต่ปัจจุบัน หมายถึง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่รันตลอด (กินไฟมาก) เพื่อขุดเหรียญคริปโต (crypto coin) ในแง่ของการเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า asset ก็อาจเรียกได้ เพราะคุณลงทุนไปกับมัน และปล่อยให้มันรันไปเพื่อสร้างเงินให้กับคุณ
22. ค่าเช่า (Renting)
ยกตัวอย่างมนุษย์เงินเดือน เก็บออมรายได้จากการทำงาน มาผ่อนซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถปล่อยเช่าได้ในทุกๆปี จนถึงระยะเวลาหนึ่ง เขาสามารถมีค่าเช่า เพียงพอเลี้ยงตัวเขา จนไม่ต้องพึ่งพารายได้จากการทำงานประจำได้
วิธีนี้ไม่ใช่จะทำได้ทุกคน เพราะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน และวินัยในการออมสูงมาก เนื่องจากเป็นการเก็บจากเงินก้อนเล็กๆ สะสมเพื่อลงทุนในทรัพย์สินชิ้นใหญ่จนสามารถสร้างรายได้แบบ passive ในระยะยาวได้ ดังนั้น ไปดูวิธีต่อไปกันดีกว่า
2
21. ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)
1
คือการนำเงินของเราไปลงทุนทรัพย์สินให้เช่าโดยผ่านกองทรัสต์ ที่เรียกว่า Real Estate Investment Trust (REIT) โดยถือเป็นตราสารการลงทุนไว้ ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับ มาจาก ค่าเช่านั่นเอง
1
20. คอร์สเรียนออนไลน์ (Digital Course)
ถ้าคุณมีทักษะด้านไหนเป็นพิเศษ แล้วคุณสามารถนำมาสอน ถ่ายทอด สร้างขึ้นมาเป็นคอร์สออนไลน์ สามารถนำมาทำการตลาดให้คนสนใจสมัครเรียนได้ คุณก็จะมีรายได้จากการลงแรงครั้งเดียว ที่อาจจะสร้างรายได้มหาศาล และต่อเนื่องในช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว (จนกว่าความรู้ในส่วนนั้นจะ out หมดอายุไป)
2
19. หุ้นปันผล (Dividend-paying stocks)
หุ้นปันผล คือ หุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนในรูปแบบกระแสเงินสดให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ ด้วยอัตราผลตอบแทนในระดับที่มีความเหมาะสม
ที่สำคัญบริษัทที่จ่ายเงินปันผลได้จะต้องเป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสด และ ฐานะการเงินที่แข็งแรง
1
18. โลหะมีค่า พวกเงิน ทองคำ (Precious metals like gold and silver)
บางคนมองทองคำ เป็นทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่าในระยะยาว จึงสะสมเก็บไว้
บางคนมองว่า การถือทองคำไว้นานๆ เสียโอกาสการลงทุน เพราะตัวทองคำเองไม่ได้สร้างรายได้ด้วยตัวเองได้ เราจะได้ประโยชน์เมื่อมูลค่าของมันขยับขึ้นเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปราคาทองคำไม่ค่อยมีความผันผวน จึงมีค่าในลักษณะการเก็บรักษามูลค่าเท่านั้น ดังนั้น อยู่ที่ใครจะมองว่าจะเก็บทองคำ ไว้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร
17. เงินสด (Cash)
เราต้องมีเงินสดปริมาณเท่าไหร่ เราถึงจะได้รับผลตอบแทนจากเงิน เป็นดอกเบี้ยที่เพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายประจำวันให้เราได้?? ต้องมากมายเลยทีเดียวนะ !!
2
16. หนังสือออนไลน์ (EBooks )
ถ้าคุณสามารถเขียน Ebooks ได้ คุณก็นำไปขายได้โดยไม่ต้องใช้โรงพิมพ์ ซึ่งต้นทุนการผลิต Ebooks ต่ำมาก แต่คุณต้องเป็นคนมีความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนนำมาเขียนเป็นหนังสือได้
15. นำรถออกให้เช่า (Rent out your car)
ในต่างประเทศ มีพนักงานออฟฟิสที่ไม่ค่อยใช้รถในวันทำงาน นำรถไปปล่อยให้นักท่องเที่ยวเช่ารถรายวันโดยผ่านบริษัทจัดการ เป็นรายได้เสริมทางหนึ่ง ในช่วงเวลาหนึ่ง
14. ไร่สวนเกษตร (Farming)
ถ้าคุณมีที่ดินที่สามารถทำการเกษตรได้ คุณอาจจะบริหารจัดการเพิ่มมูลค่าให้ที่ดินโดยการทำการเกษตร โดยจ้างเกษตรกรดูแล และเก็บเกี่ยวรายได้จากการปลูกพืชผล
1
13. ที่ดิน (Land)
หรือ นำที่ดินไปปล่อยให้เช่า เช่น ทำลานเช่าจอดรถ หรือ ลานจัดอีเว้นท์ต่างๆ
12. ทักษะที่สร้างรายได้สูงได้ (High-income skills)
คือ ทักษะที่เป็นที่ต้องการของตลาด ถ้าคุณเก่งโดดเด่น จะมีคนยอมจ่ายค่าจ้างให้ในราคาสูง ซึ่งอาจจะทำเป็น freelance ก็ได้ เช่น นักพัฒนาแอพ หรือ เวป
2
11. อาชีพอิสระทั่วไป (Freelancing)
งานอะไรก็ตามที่คุณมีทักษะเฉพาะ คุณสามารถรับจ้างได้ ซึ่งเดี๋ยวนี้บริษัท นิยมจ้าง out source ในบางแผนก โดยไม่ใช้พนักงานประจำ เช่น ช่างซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ พนักงานส่งของ ถ้าคุณสามารถมี connection และได้รับความไว้วางใจเชื่อถือในผลงาน คุณก็สร้างรายได้ได้
10. เขียนแอพขาย (Create an application)
ถ้าคุณมีทักษะเป็นนักเขียนหรือพัฒนาแอพ คุณจะสามารถหารายได้ได้อีกมากมาย เพราะคนต้องการความสะดวกในการใช้ชีวิต แอพใหม่ๆถูกพัฒนาขึ้นมาตลอดเวลา หากเป็นที่นิยมขึ้นมา มีบริษัทใหญ่ๆมาซื้อไปพัฒนาต่อ คุณอาจเป็นเศรษฐีได้เลย
9. เป็นนายหน้าขายสินค้าออนไลน์ (Affiliate Marketing)
คือ การนำสินค้าของคนอื่น มาโปรโมทบนช่องทาง social ที่คุณมี และให้ผู้บริโภคไปซื้อกับผู้ขายโดยตรง โดยผ่านการ click link ของคุณ คุณก็จะได้ค่าคอมมิสชั่นจากผู้ขาย
1
คุณจะมีรายได้จากการเป็นนายหน้าแนะนำ โดยไม่ต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง หรือมีการบริการหลังการขาย
1
8. เป็นเจ้าของช่อง Youtube (Owning a Youtube channel)
รายได้จะมาจากค่าโฆษณาของ youtube ที่มาปรากฏบนช่องของคุณ หรือ มาจากสปอนเซอร์ที่ติดต่อมาโดยตรง หรือมาจากคุณแสดงผลงานบน youtube ให้เห็น และมีคุณจ้างคุณไปทำงานให้เขา เช่น ไปบรรยายให้ความรู้ หรือ ไปเป็นที่ปรึกษา
แต่นั่นคือ คุณต้องสร้าง content ดีๆได้ และมีผู้ติดตามจำนวนมาก
7. ค่าลิขสิทธิ์ (Royalty)
ถ้าคุณเป็นศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงาน หรือ นักเขียน คุณจะได้รับค่าลิขสิทธิ์อย่างต่อเนื่องจากคนที่นำผลงานของคุณไปเผยแพร่เชิงพาณิชย์
6. พันธบัตร (Bonds)
4
ถ้าคุณคิดว่าการลงทุนในบริษัทเอกชน ผ่านหุ้นสามัญ หุ้นกู้ คือความเสี่ยง คุณก็มาเลือกลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล คือ เอาเงินไปให้รัฐกู้ ซึ่งความเสี่ยงต่ำ และให้ดอกเบี้ยมากกว่าการฝากธนาคาร
5. นายหน้า (Agents)
รายได้จากการเป็นตัวแทนประกันชีวิต เมื่อคุณขายกรมธรรม์ลูกค้า 1 ฉบับ คุณจะมีรายได้ไปตลอดสัญญาที่ลูกค้าชำระเบี้ย โดยจะมีรายได้สูงปีแรก และลดหลั่นลงไปในปีท้ายๆ
1
4. สื่อโฆษณาออนไลน์ (Digital Advertising)
ถ้าคุณสามารถสร้าง ads โฆษณาขายสินค้าที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการเขียนขายที่ดึงดูด ทำให้มีลูกค้าสั่งซื้อตลอดเวลา และ ads ก็ทำงานไปอย่างอัตโนมัติ รวมถึงใช้ affiliate marketing ให้คนมาช่วยขายสินค้าให้คุณ และแบ่งค่าคอมให้เขา
หากคุณ set ระบบนี่ได้ มันก็จะเป็นทรัพย์สินที่สร้างรายได้ให้คุณได้อย่างต่อเนื่องทีเดียว
3. การลงทุนในธุรกิจ Start Up (Angel investing)
หากคุณลงทุนสนับสนุนธุรกิจ Start Up ได้ถูกต้อง เงินลงทุนของคุณจะเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นหลายเท่าตัวเลย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุนไปเปล่าๆเช่นกัน
2. กิจการธุรกิจ (Business)
เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุด ในการสร้างรายได้ เพื่อไปสู่การมีอิสรภาพทางการเงิน เพราะหากก่อตั้งธุรกิจสำเร็จ ก็จะมีรายได้จากกิจการ ซึ่งเป็น scale ที่ใหญ่กว่าการใช้แรงของเราทำงานเพียงอย่างเดียว
1. ความรู้ (Knowledge)
นี่คือ asset ที่สำคัญที่สุดที่คุณต้องมี เป็นรากฐานของการสร้าง asset อื่นๆ ดังคำกล่าวของ วอร์เรน บัฟเฟตที่ว่า "การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด คือ ลงทุนกับตัวเอง" ดังนั้น Keep learning ค่ะ
เรียบเรียงจากบทความ
เสริฟความรู้ทางการเงินให้คุณในทุกวัน
โฆษณา