Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
6 ต.ค. 2021 เวลา 02:19 • ประวัติศาสตร์
“ฮันนิบาล (Hannibal)” หนึ่งในผู้นำทางทหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์
เมื่อ 219 ปีก่อนคริสตกาล “ฮันนิบาล (Hannibal)” ขุนพลชาวคาร์เธจโบราณ ได้นำทัพเข้าโจมตีเมืองซากุนโต เมืองที่เป็นพันธมิตรของกรุงโรม และเป็นเหตุการณ์ที่จุดประกายให้เกิด “สงครามพิวนิกครั้งที่สอง (Second Punic War)”
1
ฮันนิบาลได้นำทัพบุกเข้าไปถึงตอนกลางของอิตาลี และเหตุการณ์นี้จะได้รับการบันทึกว่าเป็นหนึ่งในสงครามที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์
ภายหลังจากได้รับชัยชนะหลายครั้ง ฮันนิบาลก็ได้ยึดทางใต้ของอิตาลีเป็นฐานที่มั่น หากแต่ก็ไม่สามารถโจมตีกรุงโรมได้
3
แต่โรมันก็ได้โต้กลับ โดยสามารถขับไล่กองทัพคาร์เธจออกจากสเปน และบุกแอฟริกาเหนือ
203 ปีก่อนคริสตกาล ฮันนิบาลก็ได้ทิ้งฐานที่มั่นในอิตาลีเพื่อไปป้องกันแอฟริกาเหนือ ก่อนจะต้องพ่ายแพ้
1
ถึงแม้ว่าสุดท้ายอำนาจของคาร์เธจต้องสิ้นสุดลง แต่ฮันนิบาลก็ยังคงไม่หยุดทำตามความฝันที่ฝันมาตลอดชีวิต
นั่นคือ “การทำลายกรุงโรม” ซึ่งเขาก็มุ่งที่จะทำตามฝันนี้ตลอดชีวิต
1
ฮันนิบาลเป็นใคร มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ลองไปหาคำตอบกันครับ
ฮันนิบาลเกิดที่แอฟริกาเหนือ เมื่อ 247 ปีก่อนคริสตกาล โดยตามตำนานนั้น พ่อของเขา นั่นคือ “ฮามิลคาร์ บาร์คา (Hamilcar Barca)” แม่ทัพคนหนึ่งของกองทัพคาร์เธจ ได้พาฮันนิบาลไปสเปนตั้งแต่ฮันนิบาลยังเด็ก
ต่อมา ฮามิลคาร์เสียชีวิตเมื่อ 229 ปีก่อนคริสตกาล และ “ฮัสดรูบาล (Hasdrubal)” ลูกชายคนหนึ่งของฮามิลคาร์ ก็ได้ขึ้นมารับตำแหน่งแทนผู้เป็นพ่อ และได้แต่งตั้งฮันนิบาลเป็นทหารคนหนึ่งในกองทัพคาร์เธจ
221 ปีก่อนคริสตกาล ฮัสดรูบาลถูกสังหาร กองทัพจึงได้เลือกฮันนิบาลวัย 26 ปี ขึ้นเป็นผู้บัญชาการอาณาจักรคาร์เธจในสเปน
เมื่อขึ้นสู่อำนาจ ฮันนิบาลก็ได้ทำการรวมอำนาจในดินแดนแถบนี้ โดยรวมจากบริเวณการ์ตาเกนา อีกทั้งยังแต่งงานกับเจ้าหญิงสเปนอีกด้วย
219 ปีก่อนคริสตกาล ฮันนิบาลได้นำทัพคาร์เธจโจมตีซากุนโต ซึ่งเป็นเมืองอิสระ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของชายฝั่งทะเลสเปนทางตะวันออก และก็ได้แสดงตัวเป็นศัตรูกับเมืองคาร์เธจในบริเวณใกล้เคียง
ซากุนโตนั้นเป็นพันธมิตรกับกรุงโรม ดังนั้นการนำทัพเข้าโจมตีซากุนโต ก็เหมือนการประกาศสงคราม
กองทัพคาร์เธจได้ทำการปิดล้อมเมืองซากุนโตเป็นเวลากว่าแปดเดือน ก่อนที่เมืองจะแตกในที่สุด
1
กรุงโรมได้สั่งให้ฮันนิบาลยอมแพ้ แต่ฮันนิบาลก็ไม่ยอม และวางแผนจะเข้ารุกรานอิตาลี ซึ่งนี่จะกลายเป็นสิ่งที่จุดประกายสงครามพิวนิกครั้งที่สอง
1
ฮันนิบาลได้สั่งให้น้องชายที่ชื่อ “ฮัสดรูบาล (Hasdrubal)” (ชื่อเดียวกับฮัสดรูบาลแรก) ดูแลดินแดนในสเปนและแอฟริกาเหนือ ส่วนฮันนิบาลก็รวบรวมกองทัพ เตรียมพร้อมทำสงคราม
กองทัพของฮันนิบาลประกอบด้วยทหารราบ 90,000 นาย ทหารม้า 12,000 นาย ช้างอีกเกือบ 40 เชือก
กองทัพของฮันนิบาลเดินทัพเป็นระยะทางกว่า 1,600 กิโลเมตรเข้าไปถึงตอนกลางของอิตาลี
กองทัพของฮันนิบาลได้ปะทะกับกองทัพของ “ซีปีโอ อาฟริกานัส (Scipio Africanus)” ซึ่งเป็นแม่ทัพฝ่ายโรมัน
กองทัพทั้งสองกองได้ปะทะกัน โดยกองทหารม้าของฮันนิบาลได้ชัยชนะ และทำให้ซีปีโอได้รับบาดเจ็บ
1
218 ปีก่อนคริสตกาล กองทัพคาร์เธจก็ได้เอาชัยเหนือโรมันที่บริเวณฝั่งแม่น้ำทรีเบีย และทำให้ฮันนิบาลได้พันธมิตรมาเพิ่มเป็นจำนวนมาก
1
ฤดูใบไม้ผลิ 217 ปีก่อนคริสตกาล ฮันนิบาลก็ได้นำทัพบุกไปถึงแม่น้ำอาร์โน และถึงแม้จะได้รับชัยชนะในยุทธการที่ทะเลสาบทราซิเมเน (Battle of Lake Trasimene) แต่ก็ไม่สามารถนำทัพบุกไปสู้กับกองทัพโรมได้
1
ฤดูร้อนปีต่อมา กองทหารม้าโรมันจำนวน 16 กอง มีกำลังทหารเกือบ 80,000 นาย ซึ่งมากกว่ากองทัพของฮันนิบาลมาก ได้มาเผชิญหน้ากับกองทัพคาร์เธจในบริเวณใกล้กับเมืองกันไน
3
แต่ถึงแม้จะมีจำนวนมากกว่า ฮันนิบาลก็สามารถจัดทัพได้อย่างยอดเยี่ยม เกิดเป็นค่ายกลที่แข็งแกร่งและสามารถเอาชนะโรมันได้ในที่สุด
2
ความพ่ายแพ้ของกองทัพโรมันสร้างความตกตะลึงไปทั่วภาคใต้ของอิตาลี และทำให้พันธมิตรของโรมจำนวนมากแปรพักตร์ มาเข้ากับคาร์เธจ
แต่โรมันภายใต้การนำของ “ซีปีโอ (Scipio)” ลูกเขยของซีปีโอ อาฟริกานัส (Scipio Africanus) (ชื่อเดียวกัน) และแม่ทัพที่ชื่อ “แมซิมัส (Maximus)” ก็ได้แข็งแกร่งขึ้น และเริ่มจะเข้ามาเทียบรัศมีฮันนิบาล
1
กองทัพโรมันได้ใช้กลศึกต่างๆ ทำให้สามารถขับไล่กองทัพของฮันนิบาลออกไปจากทางใต้ของอิตาลี และยึดดินแดนคืนได้เป็นจำนวนมากเมื่อ 209 ปีก่อนคริสตกาล
ทางภาคเหนือของอิตาลีเมื่อ 208 ปีก่อนคริสตกาล ทัพโรมันก็เอาชนะกองทัพเสริมของฮันนิบาลได้
ทัพโรมันได้รุกรานแอฟริกาเหนือ ทำให้ฮันนิบาลต้องถอนทัพจากภาคใต้ของอิตาลีเมื่อ 203 ปีก่อนคริสตกาล เพื่อไปป้องกันแอฟริกาเหนือ
ปีต่อมา ทัพของฮันนิบาลได้พบกับทัพโรมันในสนามรบ บริเวณไม่ไกลจากคาร์เธจ
ศึกนี้ทัพโรมันเป็นฝ่ายชนะ สามารถฆ่าทหารคาร์เธจได้กว่า 20,000 นาย ในขณะที่สูญเสียทหารเพียง 1,500 นาย
1
เมื่อสิ้นสุดสงคราม ก็ต้องมีการทำสัญญาสันติภาพซึ่งเป็นอันสิ้นสุดสงครามพิวนิกครั้งที่สอง โดยคาร์เธจได้รับอนุญาตให้เก็บดินแดนในแอฟริกาเหนือไว้ได้ แต่ต้องเสียอาณาจักรของคาร์เธจในดินแดนอื่นไปจนหมด อีกทั้งต้องจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามเป็นจำนวนมาก และห้ามประกาศสงครามหากไม่ได้รับความยินยอมจากโรม
3
ทางด้านฮันนิบาลซึ่งพ่ายแพ้ ก็ยังคงได้รับอนุญาตให้รักษาตำแหน่งไว้ได้ แต่ฮันนิบาลก็ยังคงตั้งความหวังจะเอาชนะโรมให้ได้
1
ภายหลัง มีเหตุการณ์ทางการเมืองที่ผันผวน ทำให้ฮันนิบาลต้องเร่ร่อนไปยังดินแดนอื่น และไม่ยอมจำนนต่อโรมัน ก่อนจะกินยาพิษเพื่อฆ่าตัวตายเมื่อ 183 ปีก่อนคริสตกาล
References:
https://www.history.com/topics/ancient-history/hannibal
https://www.thecollector.com/9-facts-hannibal-barca-of-carthage-great-general/
https://www.nationalgeographic.com/culture/article/hannibal
https://www.biography.com/military-figure/hannibal
23 บันทึก
40
3
23
23
40
3
23
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย