5 ต.ค. 2021 เวลา 02:21 • นิยาย เรื่องสั้น
เอี้ยก่วยภาคปัจฉิมบท
(ตอนจบ)🔚
.
...ประสบเคราะห์กรรมนับเป็นชะตา
.
หลังจากที่ทั้งเอี้ยก่วยเเละเซียวเล้งนึ่งเเเต่งงานกันในภาคที่เเล้วนะครับ
ต่อมาทั้งคู่กลับไปรักษาตัวอยู่ที่สำนักสุสานโบราณ
เอี้ยก่วยสอนให้เซียวเล้งนึ่งโคจรพลังบังคับชีพจรย้อนกลับ
อยู่บนเตียงหยกเย็น กรุยจุดสำคัญตลอดทั้งร่าง 36 แห่งตามลำดับ
.
เป็นลี้มกโช้วที่บุกรุกเข้ามาที่สำนักสุสานโบราณพร้อมกับ
พวกอึ้งย้ง ก๊วยพู้ เยลุกชี้ ซึ่งดำน้ำเข้ามาอีกกลุ่มหนึ่ง
.
เอี้ยก่วยกับเซียวเล้งนึ่งเมื่อปะทะกับลี้มกโช้ว ในขณะรักษาอาการบาดเจ็บ
เอี้ยก่วยและเซียวเล้งนึ่งจึงถูกฝ่ามือเบญจพิษของลี้มกโช้ว
สุดท้ายเอี้ยก่วยต้องใช้ยุทธวิธีแกล้งตายลงไปหลบอยู่ในโลงกับเซียวเล้งนึ่ง
เเต่ดังเวรกรรมของเอี้ยก่วยเเละเซียวเล้งนึ่งมีมาเเต่ชาติปางก่อน
...ก๊วยพู้กับสองพี่น้องตระกูลบู๊ และเยลุกชี้ค่อยๆ
เดินเข้ามาในสำนักสุสานโบราณ เมื่อเข้าสู่ห้องนอนของเซียวเล้งนึ่ง
เห็นบนพื้นมีเข็มเงินน้ำแข็งเย็นหลายเล่ม
ก๊วยพู้จึงใช้ผ้าพันมือเก็บมาสองเล่ม กล่าวว่า
.
“ รอสักครู่ ข้าพเจ้าจะใช้เข็มพิษนี้คืนสนองนางมารนั้น ”
.
ขณะนั้นเอี้ยก่วยใช้กำลังภายในช่วยขับพิษออกจากร่างเซียวเล้งนึ่ง
เห็นปลายนิ้วมือของนาง มีน้ำสีดำไหลซึมออกมาเล็กน้อย
ขอเพียงใช้เวลาอีกชั่วหม้อข้าวเดือด♨️ ก็จะขจัดหมดสิ้น
พลันได้ยินเสียงฝีเท้ามาตามทางอุโมงค์ มีคนเดินเข้ามา 5 คน
เอี้ยก้วยกับเซียวเล้งนึ่งอยู่ในโลงหิน ได้ยินเสียงก๊วยพู้กล่าวว่า
“ พวกเราที่นี่มี 5 คน ประจวบมีโลงห้าใบ ”
ทั้งคู่พลันคิดพร้อมกัน “ ไฉนเป็นนาง ”
.
เอี้ยก่วยพลังเร่งขับพิษออกมา
แต่ก็คลายใจว่าแม้มีก๊วยพู้อยู่ด้วยแต่พวกทั้ง 5 คน
คงไม่ถือโอกาสทำร้ายซ้ำเติม
.
ยามนั้นสงบสุ้มเสียงตั้งใจโคจรพลังขับพิษให้เซียวเล้งนึ่ง
เยลุกชี้ฟังออกว่า ในโลงหินมีเสียงลมหายใจ
คิดว่าเป็นลี้มกโช้ว ซ่อนตัวอยู่ภายในโลง
.
ยามนั้นยกมือทำท่าให้ทุกคนรายล้อม
อยู่ทั้ง 4 ด้านของโลงหิน ก๊วยพู้เห็นฝาโลงกับตัวโลงปิดไม่สนิท
เมื่อมองผ่านรอยร่องเข้าไป สามารถเห็นชายเสื้อ
คาดว่าเป็นลี้มกโช้วซ่อนตัว ต้องลอบหัวร่อ ครุ่นคิดขึ้น
“ เราจะใช้ซัดหอกคืนสนองผู้ใช้ ”
.
นางใช้มือซ้ายผลักดันเปิดฝาโลงออก
ซัดเข็มเงินทั้งสองเล่มแหวกพุ่งเข้าไป
พลันได้ยินเสียงหนุ่มสาวร้องโอย⁉️
เยลุกชี้ตวัดเท้าซ้าย เตะฝาโลงเสียงโครมดัง‼️
.
เป็นเอี้ยก่วยกับเซียวเล้งนึ่งส่ายโงนเงนลุกขึ้นยืน❗️
.
ก๊วยพู้ไม่ทราบว่าครั้งนี้นางก่อเหตุเภทภัย
ยิ่งกว่าฟันแขนเอี้ยก่วยข้างหนึ่งในใจรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
.
“เอี้ยตั่วก่อ เล้งเจ้เจ๊ ผู้น้องไม่ทราบว่าเป็นพวกท่านทั้งสอง
พลั้งมือซัดเข็มทำร้าย...”
.
นางได้รับการตามใจตั้งแต่เล็ก คิดถึงแต่ตัวเองเป็นศูนย์กลาง
หาคิดถึงผู้อื่นไม่
.
นางหาทราบไม่ว่า ขณะที่เซียวเล้งนึ่งถูกเข็มเงินซัดใส่
ประจวบกับพิษภายในกายกำลังถ่ายเทออกมาตามพลังลมปราณ
แต่แล้วถูกทิ่มแทงอย่างรุนแรงเช่นนี้
พิษของฝ่ามือเบญจพิษล้วนไหลย้อนกลับ
แทรกซึมเข้าสู่จุดสำคัญทั้วทั้งร่าง
.
สถานการณ์เช่นนี้ร้ายแรงสุดเปรียบปานแล้ว
เป็นเอี้ยก้วยคับแค้นเดือดาลถึงที่สุด🤬
สายตาดุจดั่งคบเพลิงพลันยกกระบี่หนักเหล็กดำ
ฟันฝ่าโลงหินด้วยความคับแค้น
.
ทั้งหมดล้วนแตกตื่นตกตะลึง ❗️ ❗️
.
เมื่อเอี้ยก่วยนำเซียวเล้งนึ่งและก๊วยเซียง (ยังเป็นเด็กทารก)
ออกจากสุสานโบราณ
.
เห็นทหารมองโกลจุดไฟเผาภูเขา
ไม่นานให้หลังเห็นก๊วยพู้ถูกลี้มกโช้วลอบทำร้าย
🔥อัคคีเพลิงกำลังจะเผาไหม้ถึงข้างกายนาง เอี้ยก่วยจึงกล่าว
“เล้งยี้ โกวเนี้ยนางนี้ทำร้ายข้าพเจ้ายังไม่พอเพียง
ถึงกับทำร้ายท่านอีก
ในที่สุดวันนี้ต้องรับกรรมสนอง”
.
เซียวเล้งนึ่งลืมตาที่สุกใสมองเอี้ยก่วย กล่าวอย่างสงสัยใจว่า
“ ก่วยยี้ หรือว่าท่านไม่ไปช่วยเหลือนาง ”
.
เอี้ยก่วยกล่าวอย่างแค้นเคืองว่า
“ นางทำร้ายเราถึงเพียงนี้ ข้าพเจ้าไม่ฆ่านางกับมือ
ถือว่ามีคำกล่าวต่อนางแล้ว ”
เซียวเล้งนึ่งทอดถอนใจกล่าวว่า
“ พวกเราประสบเคราะห์กรรมนับเป็นชะตา
ให้ผู้อื่นสุขสำราญมิใช่ประเสริฐยิ่งหรอกหรือ “
.
เอี้ยก่วยจะอย่างไรไม่อาจหักใจอำมหิต กล่าวด้วยความขมขื่นว่า
“ ตกลงพวกเรามีชะตาอาภัพ ผู้อื่นมีชะตาโชคดี ”
.
พลันช่วยเหลือก๊วยพู้จากเปลวอัคคีให้รอดตาย
.
ต่อมาด้วยอุบายของอึ้งย้งว่ามีแม่ชี้เทพยาน่ำไฮ้รักษาเซียวเล้งนึ่ง
กอรปกับเซียวเล้งนึ่งเขียนอักษรบนผนังผาลำไส้ขาด
ด้วยปลายกระบี่สลักอักษรแถวใหญ่ว่า
.
“สิบหกปีผ่านไปพบใหม่ อย่าให้มีผิดคำมั่น “🍂
.
ลงท้าย...
“เซียวเล้งนึ่งกำชับเอี้ยนึ้งผู้เป็นสามีถนอมตัวไว้ หวังให้อยู่ร่วมสัมพันธ์ "
.
เอี้ยก่วยเหม่อมองอักษรจิตใจสับสน เมื่อรออยู่เดือนเศษ
ไม่มีข่าวคราวหรือร่องรอยของเซียวเล้งนึ่ง จึงพลิ้วกายจากไป
.
1
🌎ลิขิตเเห่งฟ้า🪐
.
🍂 🍂
กาลเวลาล่วงเลยมา 16 ปี..
.
สุภาษิตว่า ความลับย่อมไม่มีในโลก
.
เอี้ยก่วยจึงทราบจากอึ้งเอี๊ยะซือว่า
ไม่มีแม่ชีเทพยดาน่ำไฮ้แห่งเกาะมหายาน
นี่เป็นวาจาที่อึ้งย้งปั้นแต่งขึ้น
.
แต่กระนั้นข้อความที่เซียวเล้งนึ่งสลักบนหน้าผาทิ้งไว้กลับไม่แปลกปลอม
พลันนึกถึงลำนำของ ซูตงปอ กวีเอก แห่งราชวงศ์ซ่ง ซึ่งรจนาลำนำว่า
“ สิบปีพลัดพราก เป็นตายเลือนรางไกล
แม้ไม่รำลึกถึง
.
ดวงจิตคำนึง ยากลืมเลือน
.
หลุมโดดเดี่ยว ไกลลับตา
.
สงัดงันโศกานัก
.
แม้ประสบพานพบ ไม่รู้จัก
.
ใบหน้ามักหมองคล้ำ
.
จอนผมขาว ราวน้ำแข็ง
.
วิกาลหลับฝัน คืนกลับสถาน
.
อยู่ริมบานหน้าต่าง ประทินโฉมช่างไฉไล
.
สบสายตา ไร้วจี เพียงกรีดน้ำตาลาจากไป
.
ครุ่นคิดล้ำไส้ขาดทุกพรรษา คืนจันทร์กระจ่างฟ้า
สันเขาพนาสณฑ์
.
เอี้ยก่วยนั้น ยิ่งรอคอยยิ่งเจ็บปวด พลันร้องว่า
.
“ เหตุใดท่านไม่รักษาคำมั่นสัญญา ”
.
พลันถีบเท้าทั้ง 2 ลอยตัวกลางอากาศกระโดดลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง
.
เมื่อกระโดดลงกลับเจอบึงน้ำ มีต้นไม้ใหญ่ มีผึ้งทำรังอยู่หลายสิบรัง
ผึ้งที่บินล้วนเป็นผึ้งหยกซึ่งเป็นพันธุ์พิสดารที่เซียวเล้งนึ่ง
เพาะเลี้ยงไว้ในสุสานโบราณ
.
ทำให้เอี้ยก่วยเกิดความหวังขึ้น เมื่อดำดิ่งลงในบึง
แหวกว่ายผ่านกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก🌊
พบถ้ำน้ำแข็ง ในที่สุดเอี้ยก่วยพบกระท่อม 🏚
พลันผลักประตูไม้เบา เมื่อประตูเปิดออก
.
เอี้ยก่วยพลันสั่นสะท้านทั้งร่าง
มันพบเห็นห้องตกแต่ง มีโต๊ะสูง 1 โต๊ะเตี้ย 1
ด้านซ้ายมือเป็นเตียงคล้ายเตียงหยกเย็น
สภาพคล้ายห้องในสุสานโบราณ
.
กระท่อมแห่งนี้จำลองมาจากสุสานโบราณ
ยิ่งเห็นเอี้ยก่วยยิ่งมิอาจสะกดกลั้น
น้ำตาไหลหลั่งออกมา
.
พลันมีมือนุ่มนวลลูบไล้👋
ไปตามผมของมันอย่างแผ่วเบา
“ก่วยยี้ เรื่องใดไม่สุขสมใจ”
.
เอี้ยก่วยพลันพบเห็นหญิงสาวอาภรณ์ขาวอนงค์หนึ่งยืนชดช้อยอยู่
ผิวพรรณยังผุดผาดเหมือนเดิม
รูปโฉมที่คุ้นตาย่อมเป็นเซียวเล้งนึ่งยอดรักของมันเพียงผู้เดียว
หลังจากทั้งสองกอดกันอยู่เนิ่นนาน
ต่างสนทนาถึงเรื่องราวที่แปรเปลี่ยนในช่วงเวลาถึง 16 ปี
เอี้ยก่วยทราบจากเซียวเล้งนึ่งว่า
ด้วยความประสงค์ยับยั้งเอี้ยก่วยมิให้ฆ่าตัวตาย
จึงใช้กระบี่สลักข้อความที่ผาลำไส้ขาด
.
จากนั้นนางพลันกระโดดลงมายังหุบเหวเบื้องล่าง
พลันหมดสติและถูกกระแสน้ำพัดพาลอยขึ้นสู่ถ้ำน้ำแข็ง
.
จากนั้นพิษของนางกำเริบจึงดื่มน้ำผึ้งหยกที่เฒ่าทารกนำมาเลี้ยงไว้
ที่หุบเขาสิ้นไมตรี บวกกับปลาขาวที่อยู่ในบึง
อาการเจ็บปวดจึงทุกเลาลง
เมื่อผ่านไปนานวันอาการจึงทุเลาหายดี
จึงใช้หนามเล็กบนต้นไม้สลักข้อความว่า
“เราอยู่ก้นหุบเขาสิ้นไมตรี “บนปีกผึ้ง🐝
นี่เป็นอานิสงส์ที่เซียวเล้งนึ่งกำนัลผึ้งหยกให้แก่เฒ่าทารกจิวแป๊ะทง
ทำให้ได้น้ำผึ้งหยกรักษาโรคภัย
.
มิฉะนั้นโรคของนางอาจไม่ทุเลา และยังทำให้อึ้งย้ง
ได้รับรู้ข้อความของนางผ่านผึ้งหยกด้วย
บทสรุปของทั้งสองพลันสวยงามยิ่ง
🪐 💫
“ #ในห้วงจักรวาลอันเวิ้งว้างย่อมมีลิขิตของฟ้ากำหนดไว้ ”
.🌷 🌹
ความทุกข์หมองเศร้าใน 16 ปีนี้ล้วนสลายเป็นควันเถ้าถ่าน ..🌫
บทสรุปเเห่งความเเเค้น🌗
.
หลังไต่ขึ้นมาจากผาเอี้ยก่วยทราบว่า
เมืองเซียงหยางเกิดเหตุคับขัน
และก๊วยเซียงโดนกิมลุ้นก๊กซือคร่ากุมไว้
และถูกพันธนาการอยู่บนหอสูง ทั้งสองจึงรีบรุดไปช่วยเหลือ
.
และเป็นเอี้ยก่วย ใช้🤚#ยอดวิชาฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลาย 🌑
พลิกสถานการณ์ที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบกิมลุ้นก๊กซือ
กลับมาเป็นฝ่ายชนะได้ หลังจากนั้นจึงช่วยก๊วยเซียงออกมา
(ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายข้าพเจ้าขอเล่าเป็นภาคเเยกครับ)
.
ต่อมาเอี้ยก่วยพลันเห็นด้านทิศตะวันตกมีทหารมองโกลพันกว่านาย
รายล้อมกองกำลังของเยลุกชี้สามร้อยกว่าคนไว้
.
ทหารมองโกลเหล่านี้ล้วนใช้ดาบโค้งยาวสี่เชี่ยะฟันคนของเยลุกชี้พลิกร่วงจากหลังม้าทีละคน ก๊วยพู้นำทหารกองหนึ่งคิดโถมเข้าไปช่วยเหลือ
กลับถูกทหารมองโกลสองกองพันสกัดกั้นไว้
สองสามีภรรยาจ้องกันแต่ไกล แต่มิอาจรวมตัวได้
.
ก๊วยพู้ทราบดีว่าสามีนางยากรอดชีวิตได้ เอี้ยก่วยเห็นดังนั้นกล่าวว่า
.
“ ก๊วยโกวเนี้ย ท่านโขกศีรษะคำนับข้าพเจ้าสามครั้ง
ข้าพเจ้าจะเข้าไปช่วยเหลือสามีท่านออกมา ”
.
ด้วยนิสัยที่ถือดีของก๊วยพู้ อย่าว่าแต่โขกศีรษะ
มาตรว่าต้องตาย ก็ไม่ยอมแพ้ต่อเอี้ยก่วยในเชิงฝีปาก
แต่ตอนนี้เห็นสามีอยู่ในสภาวะคับขัน จึงไม่รีรอลังเล
งอเข่าทั้งสองคุกลง คิดหมายโขกศีรษะคำนับ
.
เอี้ยก่วยใจหายวาบ รีบยื่นมือประคองนางขึ้นมา
สำนึกเสียใจที่ตนเองกล่าววาจาเหลวไหล รีบกล่าวว่า
.
“ เป็นข้าพเจ้าไม่ถูกต้อง ข้าพเจ้ากล่าวเหลวไหล ท่านอย่าได้ยึดถือเป็นจริงจัง เยลุกเฮียกับข้าพเจ้าพอแรกพบก็ถูกชะตา
ไหนเลยไม่ช่วยเหลือได้?? "
.
พลันใช้พลังฝีมือและ🐎🐎 #ขบวนม้าหน่วงลูกโซ่ (เลี้ยงฮ้วงกะเบ๊)
เอี้ยก่วยใช้วิชาตัวเบากระโดดไปอยู่บนหลังม้า
.
จากนั้นช่วงชิงธงใหญ่ เมื่อทหารมองโกลขัดขวางพลันโบกธงกวาดขวาง กวาดกระแทกนายทัพทั้งสามร่วงลงจากหลังม้า
และร่วมมือกับเยลุกชี้ช่วยเหลือคนอีก
70-80 คนโถมทะลวงออกจากวงล้อม
ก๊วยพู้เห็นดังนั้น เดินถึงเบื้องหน้าเอี้ยก่วย ย่อกายลงกราบกราน กล่าวว่า
.
“ เอี้ยตั่วกอ ในชีวิตข้าพเจ้ากระทำผิดต่อท่าน แต่ท่านถือเมตตาคุณธรรม หยิบยื่นพระคุณแทนการแก้แค้น ช่วยเหลือ... ”
.
เอ่ยถึงตอนนี้ สุ้มเสียงเปลี่ยนเป็นสั่นเครือ
ซึ่งความจริงกาลก่อน เอี้ยก่วยเคยช่วยชีวิตนางหลายครั้ง
.
แต่ก๊วยพู้ยังกินแหนงแคลงใจ แม้ทราบดีว่าเอี้ยก่วยมีพระคุณต่อนาง
แต่ความรู้สึกเคียดขึ้งยังไม่เสื่อมคลาย เห็นว่าเอี้ยก่วยถือดีในฝีมือ
จงใจหยิบยื่นพระคุณอวดโอ่ความสามารถ ไม่แน่ว่ามีกุศลจิตต่อนาง
จวบจนกระทั่งครั้งนี้ เอี้ยก่วยช่วยชีวิตสามีนาง
ก๊วยพู้ค่อยบังเกิดความตื้นตันสำนึกความผิดที่แล้วมา
.
เอี้ยก่วยรีบคาระกล่าวตอบว่า
“พู้ม่วย พวกเราทั้งสองเติบโตขึ้นมาด้วยกันตั้งแต่เล็ก
มาตรแม้นมีข้อขัดแย้งกัน แท้ที่จริงผูกพันฉันเฮียม่วย
ขอเพียงท่านนับแต่นี้ไม่รังเกียจข้าพเจ้า แค้นเคืองข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าก็พึงพอใจแล้ว”
.
พริบตานั้น ความหลังเมื่อครั้งวัยเด็กของก๊วยพู้
ผ่านวูบเข้ามาครุ่นคิดว่า
“ หรือว่าเรารังเกียจเขา แค้นเคืองเขาจริงๆ
.
ในห้วงสมองความคิดดุจสายฟ้า⚡️ ก๊วยพู้พลันครุ่นคิด
.
“... สองพี่น้องตระกูลบู๊แม้เอาอาเอาใจนางอย่างไม่คิดชีวิตเขา
กลับไม่สนใจเรา ขอเพียงเขาคล้อยตามเราสักเล็กน้อย
เราแม้ตายเพื่อเขาก็ยินยอมพร้อมใจ
เราไฉนแค้นเคืองเขาโดยไร้ต้นสายปลายเหตุถึงเพียงนี้ ❓
เป็นเพราะเราลอบคิดถึงเขา คำนึงถึงเขา
แต่เขาไม่ใส่ใจเราแม้แต่น้อยหรือ ❓
.
20 ปีมานี้ นางไม่ล่วงรู้ความในใจของตัวเอง
ทุกครั้งที่คิดถึงเอี้ยก่วยมักยึดถือเอี้ยก่วยเป็นครู่อริ
แท้ที่จริงส่วนลึกของหัวใจ💟 บังเกิดความเกื้อกูลห่วงใยต่อเอี้ยก่วย
อย่างที่ไม่อาจบรรยายเป็นถ้อยร้อยวาจาได้
แต่มิเพียงเอี้ยก่วยไม่เข้าใจความในใจของนาง
แม้กระทั่งนางเองก็ไม่เข้าใจ
.
ยามนี้ความเคียดขึ้ง🖤ซึ่งกีดขวางอยู่ในจิตใจพอถูกขจัด
ก๊วยพูพลันฉุกคิดว่า ที่แท้นางบังเกิด
ความกังวลต่อเขาอย่างลึกซึ้งถึงเพียงนี้
.
ยามนั้นนางพลันคิด
“ ขณะที่เขาโถมเข้าวงล้อมข้าศึกไปช่วยเหลือชี้กอ
เราที่แท้ห่วยใยผู้ใดมากกว่า แม้แต่เราก็บอกไม่ถูก”
.
🥀 🥀
“ ในงานวันเกิดของเซียงม่วย เขาส่งมอบของขวัญวันเกิดมาให้แก่นาง
(ก๊วยเซียง) สามสิ่ง เราไฉนแค้นเขาจับใจ เขาเปิดโปงแผนร้ายอุบายชั่วของฮั่วตู่ ช่วยให้ชี้กอได้เป็นหัวหน้าพรรคกระยาจก เราไฉนลอบขุ่นเคืองใจ
ก๊วยพู้เอย เจ้ากำลังริษยาม่วยม่วยร่วมสายเลือดของตัวเอง
เขาเอาอกเอาใจต่อเซียงม่วย แต่ไม่เคยปฏิบัติต่อเราเช่นนี้ "
🥀 🥀
.
นึกถึงตอนนี้พลันอดบังเกิดโทสะอีกครามิได้ แล้วฉุกใจคิดว่า
เหตุใดนางยังนำพากับเรื่องเหล่านี้ ก๊วยพู้ทอดถอนใจอย่างลืมตัว
.
🍁 🍁
มาตรว่าในชีวิตนางไม่ขาดทุกสรรพสิ่ง แต่ส่วนลึกของจิตใจกลับบังเกิดความเสียใจอย่างไม่ถูก ที่แล้วมาเป็นนางต้องการสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น
.
นางจึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดตัวเองมีอารมณ์ฉุนเฉียวเพียงนั้น
ขณะที่ทุกผู้คนล้วนยินดีปรีดา เหตุใดต้วเองกลับขุ่นเคืองใจ
นี่เป็นความย้อนแย้งในจิตใจตลอดมาของก๊วยพู้
🍁 🍁
เมื่อไม่สมหวังในรักกลับแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชังต่อเอี้ยก่วย
ทำให้เกือบเกิดโศกนาฎกรรมขึ้นหลายรอบในชีวิตเอี้ยก่วย 💔
พิษรักแรงหึงนี้นับว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง....
ผยองประจิม
.
ในศึกครานี้ เอี้ยก่วยได้สังหารมองเกอข่าน สร้างความดีความชอบอย่างใหญ่หลวง ทำให้ได้รับการยกย่องเทิดทูนจากเหล่าผู้กล้าทั้งแผ่นดิน ทหารและพลเรือนล้วนสำนึกตื้นตันในบุญคุณของจอมยุทธเจ้าอินทรีเป็นอย่างยิ่ง
.
การชุมนุมวิจารณ์กระบี่บนยอดเขาฮั้วซัวครั้งที่สาม
เอี้ยก่วยแม้ยังเยาว์วัยกว่าปรมาจารย์ท่านอื่น แต่ด้วยฝีมือเป็นเลิศ
และวีรกรรมเลื่องลือจึงได้รับการยกย่องให้เป็น
1 ใน 5 ยอดฝีมือแห่งยุค ประจำ #ทิศประจิม
แทนบิดาบุญธรรมนาม
.
🦸‍♂️“ #ผยองประจิม #เอี้ยก่วย “🦅
ขอจบเรื่องของเอี้ยก่วยไว้เพียงเท่านี้
มีภาคเเยกคือ ฝ่ามือกำสรดวิญญาณสลายครับ
ขอบคุณทุกท่านที่กดไลค์👍 กดเเชร์👈 เเละกดติดตาม🤟มากครับ
ความเห็นเเละกำลังใจที่ดี ทำให้ข้าพเจ้ามีเเรงเขียนต่อครับ
🍶ขอคารวะชาวยุทธทุกท่าน🍶
อนันตทวิ☯️
.
ขอบคุณภาพจาก มังกรหยกภาค 2
เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี (The Return of the Condor Heroes) 2006
return of the condor heroes 1983 เเละภาพจากอินเทอร์เน็ท
โฆษณา