5 ต.ค. 2021 เวลา 03:55 • สุขภาพ
ทำไมเราจึงควรนอนกลางวัน นอนอย่างไรให้ Productive?
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับผู้ที่รักสุขภาพทุกท่าน
เคยสงสัยกันมั้ยว่าทำไมตอนเราเด็กๆ ที่โรงเรียนต้องบังคับให้นอนกลางวัน หรือทำไมชาวจีนต้องนอนกลางวันกัน???
เอาจริงๆ ในคนไทย ถ้าจะบอกเพื่อนว่า “ขอไปนอนกลางวันก่อนนะ” เราอาจจะรู้สึกเขินอาย หรือโดนเพื่อนล้อว่าทำตัวเป็นเด็กอนุบาลก็เป็นได้
ผู้เขียนก็เคยรู้สึกตกใจตอนที่ไปประเทศจีนครั้งแรก เพราะช่วงกลางวัน ตามสถาณที่ทำงานต่างๆ โรงอาหาร เพื่อนชาวจีน หรือแม้กระทั่งอาจารย์ตามมหาลัยต้องขอตัวไปนอนกลางวันกันทุกคน
ทั้งนี้ไม่ใช่พวกเค้าขี้เกียจ หรือทำตัวเป็นเด็กๆหรอกนะ จริงๆแล้วพวกเค้ากำลังมีศิลปะการใช้ใช้ชีวิตให้เป็นไปตามหลักหยิน-หยางกันต่างหาก
วันนี้เพจ TCM for life จะพาทุกท่านมาไขข้อสงสัยกันค่ะ
ในหลายท่านที่ยังไม่รู้จักหยิน-หยาง ก็ขอให้มองหยิน-หยาง สองสิ่งนี้เป็นพลังที่ตรงกันข้ามกัน เช่น ความมืด-ความสว่าง ความเย็น-ความร้อน ความสงบข-การเคลื่อนไหว เป็นต้น ทั้งนี้ต้องขอเน้นนะคะว่า หยิน-หยางนั้นเกิดขึ้นจากการเปรียบเทียบ เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนค่ะ หยิน-หยางสามารถ ส่งเสริม ต่อต้าน และแปรเปลี่ยนซึ่งกันและกัน และไม่อาจแยกจากกันได้ ฟังแล้วเหมือนหลักธรรมะเลยเนอะ ^^
เอาเป็นว่าเมื่อเราพูดถึงเวลานอนและทำกิจกรรมของมนุษย์แล้ว มนุษย์เราใช้ชีวิตตามหลักของหยิน-หยาง เราตื่นนอน และเริ่มทำกิจกรรมต่างๆเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และเข้าสู่นิทรายามดึกเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ในแต่ละช่วงเวลาของวันนั้น หยิน-หยางจะมีปริมาตรและปริมาณไม่เท่ากัน (นี่คือกิจวัตรการใช้ชีวิตของมนุษย์เรา ก่อนที่จะมีการคิดค้นและประดิษฐ์หลอดไฟขึ้น)
ตามหลักการสร้างเสริมสุขภาพแล้ว การนอนและการตื่นนอนเกิดขึ้นจากการแปรเปลี่ยนของหยิน-หยางในตัวเรา เมื่อหยินก่อตัวมาก(เทียบกับหยาง)เราก็เข้าสู่ห้วงนิทรา และตื่นนอนขึ้นและมีพลังทำกิจกรรมต่างๆเมื่อหยางก่อตัวมากขึ้น(เมื่อเทียบกับหยิน) และเวลาที่หยิน-หยางมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนที่สุด นั่นก็คือเวลาเที่ยงคืนและเที่ยงวันนั่นเอง
ในภาษาจีนเราเรียกว่า เวลา “จึ”กับเวลา “อู่” ซึ่งทางแพทย์แผนจีนมองสองเวลานี้ว่าเป็นเวลาที่หยิน-หยางเกิดการเปลี่ยนแปรมากที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายเรามี หยางสูงสุด และหยินสูงสุด จึงเหมาะสุดในการ บำรุงหยิน และหยาง
- เวลา “จึ” (子时)คือกลางคืนช่วงเวลาระหว่าง ห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง (23:00น.-1:00น.) เป็นช่วงเวลาที่พลังหยินในตัวเราเพิ่มจำนวนขึ้นมากที่สุด และพลังหยางในตัวเราอ่อนแอที่สุด
- เวลา “อู่” (午时)คือกลางวันช่วงเวลาระหว่าง สิบเอ็ดโมงเช้าถึงบ่ายโมง (11:00น.-13:00น.) เป็นช่วงเวลาที่หยางในตัวเราก่อตัวมากสุด และหยินอ่อนแอที่สุด
ในช่วงกลางวัน เวลาสิบเอ็ดโมงเช้าถึงบ่ายโมง เป็นช่วงเวลาที่พลังหยางในตัวเราก่อตัวขึ้นถึงจุดสูงสุด ในขณะที่หยินนั้นอ่อนแอมากๆ(เป็นช่วงเวลาคร่าวๆ ในแต่ละคนจะเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน ขึ้นอยู่กับกิจวัตรการนอนและตื่นของแต่ละคน) ทำให้เลือดลมในร่างกายเราแปรปรวนไม่สมดุล ดังนั้นในช่วงเวลานี้ของวัน เราจึงควรหยุดทำกิจกรรมและนอนพักเพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้น และปรับตัวเข้าสู่สมดุลอีกครั้ง แต่หากใครไม่สามารถหาที่นอนพักได้ อย่างน้อยก็ควรเอนตัวและหลับตาเพื่อพักสายตา จะดีต่อสุขภาพมาก
**เวลาในการนอน และข้อควรระวัง
ถึงแม้ว่า การนอนพักในช่วงเวลานี้จะดีต่อร่างกาย แต่ก็ไม่ควรนอนนานเกินไป เพราะจะส่งผลเสียทำให้เมื่อยล้ากว่าเดิน หรือนอนไม่ตื่นก็เป็นได้ ช่วงเวลาที่เหมาะในการนอนกลางวันไม่ควรจะนานเกินไป เวลาในการนอนที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 15-30นาที ไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายเราเหนื่อยล้า สมองไม่แล่น ไม่ Productiveแล้ว อาจจะทำให้กลางคืนคุณนอนไม่หลับอีกต่างหาก
งานวิจัยพบว่า ในผู้สูงอายุพบว่า การนอนกลางวันช่วยลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ อีกทั้งยังช่วยป้องกัน และส่งเสริมสุขภาพ
ในช่วงกลางวันช่วงที่สมองล้าที่สุด ลองวางโทรศัพท์ลงและเอนตัวงีบสักนิด รับรองว่าคุณจะมีช่วงบ่ายที่ทำงานได้Productiveกว่าเดิมแน่นอน
ท้ายที่สุด การป้องกันโรคโควิด-19 ที่ได้ผลอย่ายั่งยืนก็ยังคงหนีไม่พ้น “4อ” อารมณ์ อากาศ อาหาร และออกกำลังกาย
และอย่าลืม กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และใส่แมสกันนะคะ
ด้วยความปรารถนาดีจาก TCM for life สุขภาพดีไปกับแพทย์จีน
โดย: พจ. วชิราภรณ์ ผดุงเกียรติวงษ์
อ้างอิง
1.《中医养生康复学》作者:章文春,郭海英出版社:人民卫生出版社
โฆษณา