5 ต.ค. 2021 เวลา 03:57 • การศึกษา
เด็กบางคนเท่านั้นที่เรียนเกินระดับได้โดยไม่มีผลเสีย มีแต่ผลดี แต่บางคนไม่ได้ เกิดผลเสียในระยะยาวแน่นอน
ที่โพสต์หมายถึงอะไร
ผลดีระยะสั้น คือ ถ้าเราพาน้องเรียนเกินระดับไป เนื้อหามันไม่ลึก เช่น พาเด็ก ป.2 ไปเรียนเศษส่วน ป.4-ป.5 หรือ พาเด็ก ป.3 ไปแก้สมการ โดยใช้ตัวแปร x , y เป็นต้น ลำพังสอนพื้นฐานไม่ใช่ปัญหา สอนยังไงให้บวกเป็น สอนยังไงให้แก้สมการเป็น แต่พอ ไปสอบจริงไม่ได้ใช้ เกิดประโยชน์อะไร หรือ ทางบ้านต้องการรางวัล เลยต้องเรียนเกินเยอะๆ แล้วไปสอบไม่เห็นผล แล้วถามน้องว่าทำไมไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ผิด มาตั้งแต่วางไว้แล้ว
แต่กลับกัน ถ้าเราหาโจทย์ หรือ ฝึกเขาทำโจทย์แบบในวัยของเขา ด้วย pattern เดิมบ่อยๆ เขาจะจำได้และทำได้เองโดยอัตโนมัติ บางท่านอาจจะบอก โจทย์ไม่มีแล้วทำหมดแล้ว แนะนำแบบนี้ครับ เอาของเดิมที่เคยทำ มาเปลี่ยนชื่อตัวละคร ลบที่เคยทดทิ้งไว้ไม่ให้เห็นรอย ก็ได้โจทย์ใหม่ละ บางบ้านคุณพ่อคุณแม่มีความรู้เรื่องคณิตศาสตร์ ก็เปลี่ยนตัวเลขด้วยเลย
ผลเสียระยะยาว คือ น้องบางคนชอบที่จะทำแต่โจทย์พื้นฐาน คือ พวก บวก ลบ คูณหาร และการดำเนินการเท่านั้น เวลาเจอโจทย์ วิเคราะห์ หรือโจทย์ปัญหา ตายคาที่ เพราะอะไร เพราะเขาฝึกมาจนชิน ไม่เคยฝึกอย่างอื่น ดังนั้น ควรฝึกคู่กันไป เรียนเกินไปสัก 1 ชั้น เท่าที่จำเป็นต้องใช้ก็พอ กับโจทย์ในระดับของน้อง
ที่โพสต์ เพราะเป็นห่วง
หลายท่านมักถามผมว่าทำไมน้องทำไม่ได้
เพราะน้องไม่ชอบที่จะคิด ไม่ชอบที่จะวิเคราะห์ การที่จะทำให้เขาชอบคิด ชอบวิเคราะห์ ต้องให้เขาฝึกบ่อยๆ จนชิน แล้วเขาก็จะทำได้
นี่คือเหตุผลที่ผมชอบสอนโจทย์ปัญหา และ พาเด็กแก้โจทย์ปัญหาด้วยวิธีเดิมๆ
ผ้าขาว ใส่สีอะไรก็เป็นสีนั้น สถาบันกวดวิชา แต่ละที่ก็แต่ละสี ถ้าท่านจับน้องละเลงสี ก็เท่ากับ สีนั้นกำลังจะเละและเน่า
โฆษณา