หนังทำเงินในเกาหลีสุดสัปดาห์ 1-3 ตุลาคม: ‘No Time to Die’ ครองอันดับ 1 ในสุดสัปดาห์ที่เงียบเหงาของโรงภาพยนตร์
รายงานหนังทำเงินในเกาหลีสุดสัปดาห์ 1-3 ตุลาคม จากวาไรตี้ - หนังเจมส์ บอนด์ตอนใหม่เปิดตัวด้วยอันดับ 1 ในตาราง ในแบบที่คว่ำบรรดาหนังเข้าใหม่เรื่องอื่น ๆ ราบคาบ แต่ ‘No Time To Die’ ก็ไม่สามารถทำให้บ็อกซ์ออฟฟิศของเกาหลีกลับมามีชีวิตชีวาได้สำเร็จ
หนัง ’No Time to Die’ เปิดตัวด้วยรายได้ 3.30 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์ คิดเป็น 63% หรือเกือบ ๆ 2 ใน 3 ของรายได้รวมทั้งหมดในตลาด แล้วหากนับรวมรายได้ตั้งแต่วันเปิดตัว หนังก็ยังมีส่วนแบ่งการตลาดในระดับเดียวกัน หลังจากฉายไปแล้ว 5 วัน ‘No Time to Die’ ทำรายได้ไปแล้ว 4.55 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปกติแล้วหนังบอนด์ไม่ใช่งานที่ทำรายได้ดีนักในตลาดเกาหลี หนังเรื่องก่อนหน้า ‘Spectre’ เมื่อปี 2015 ก็ทำรายได้น้อยกว่า ‘Skyfall’ ที่ออกฉายในปี 2012 โดย ‘Spectre’ มีผู้ชมทั้งหมด 1.82 ล้านคนทำรายได้ 14.2 พันล้านวอน หรือ 12 ล้านเหรียญสหรัฐตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในตอนนั้น ส่วน ‘Skyfall’ มีผู้ชม 2.37 ล้านคน ทำรายได้ 17.5 พันล้านวอน หรือ 14.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในปัจจุบัน
หนังแชมป์สัปดาห์ก่อน ‘On The Line’ ที่ฉายมาเป็นสัปดาห์ที่สาม รายได้ตกลง 50% ทำเงินไป 770,000 เหรียญสหรัฐในช่วงสุดสัปดาห์ ตกมาเป็นอันดับ 2 นับจากวันเปิดตัว 15 กันยายน หนังทำรายได้ไปแล้ว 9.31 ล้านเหรียญสหรัฐ
หนัง ‘Miracle‘ อยู่ในอันดับ 3 ทำรายได้ 362,000 เหรียญสหรัฐ รายได้รวมสามสัปดาห์อยู่ที่ 4.23 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับที่ 4 ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’ ทำรายได้เพิ่มมาอีก 168,000 เหรียญสหรัฐ และรายได้ของหนังที่ฉายมาแล้ว 1 เดือนอยู่ที่ 14.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
อะนิเมะ ‘Belle: The Dragon and the Freckled Princess’ เปิดตัวด้วยอันดับ 5 รายได้สุดสัปดาห์เท่ากับ 129,000 เหรียญสหรัฐ ส่วนรายได้ 5 วันอยู่ที่ 180,000 เหรียญสหรัฐ
รายได้รวมบ็อกซ์ออฟฟิศเกาหลีสุดสัปดาห์นี้ ทำได้เพียง 5.22 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ทำไว้ต่ำมาก ๆ 3.58 ล้านเหรียญสหรัฐ
สถานการณ์ที่ย่ำแย่ของธุรกิจโรงภาพยนตร์ ส่วนหนึ่งคือมาตรการป้องกันโควิด ที่กลับมาเข้มข้นอีกครั้งหลังมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นถึงกว่า 2,000 รายต่อวัน โดยมาตรการนี้จะประกาศใช้ราว ๆ 15 วัน ซึ่งทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของโซลอยู่เขตการควบคุมระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ที่โรงภาพยนตร์ต้องจำกัดเวลาเปิดบริการ และจำนวนที่นั่ง ขณะที่พื้นที่อื่น ๆ ในประเทศอยู่ในระดับ 3
ในช่วงเทศกาลชูช็อกตอนกลางเดือนกันยายน สถานการณ์ของโรงภาพยนตร์ดูดีขึ้น แต่หลังจากนั้นก็วูบลงไปต่ำสุดในรอบสามเดือน เมื่อขาดหนังเจ้าถิ่นเรื่องเด่น ๆ แถมคนดูส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าที่จะเข้าโรงภาพยนตร์
#moviestory: แม้ ‘สงครามเวียดนาม’ คือสงครามแรกที่ สหรัฐอเมริกาต้องพ่ายแพ้ แต่เรื่องราวการรบ ความเป็นไปของสงคราม รวมถึงผลกระทบ ก็ถูกนำมาบอกเล่าเป็นภาพยนตร์มากมาย และนี่คืองานหนังสงครามเวียดนามที่บอกเลยว่า ‘ห้ามพลาด’ และ ‘ต้องหามาชม’ มีเรื่องอะไรบาง คลิกอ่านกันได้เลย > https://bit.ly/3t9MWLL #Sadaos #VietnamWar
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
