9 ต.ค. 2021 เวลา 00:00 • ความคิดเห็น
สมัยผมเป็นเด็ก เวลามีอะไรกิน ก็สวาปามหมดเกลี้ยง เพราะของกินมีจำกัด คนผอมในเวลานั้นคือคนยากจน
4
ไม่นึกว่าเมื่อโตขึ้นจะพบเห็นค่านิยม "กินน้อยเพื่อผอม" และ "ผอมคือสวย"
1
มนุษยชาติกินเต็มที่มาสองแสนปี เพราะไม่รู้ว่าจะได้กินมื้อต่อไปเมื่อไร
จนกระทั่งไม่ถึงร้อยปีที่ผ่านมา เราจึงกลัวและรังเกียจความอ้วน
นิตยสาร Cosmopolitan มีอายุกว่าครึ่งศตวรรษ ตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา หน้าปกนิตยสารเป็นรูปหญิงสาวสวย หุ่นเพรียวบาง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ 'ความงาม'
จนกระทั่งฉบับเดือนตุลาคม 2018 รูปปกก็เปลี่ยนไปหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคือเป็นรูปหญิงสาวที่เป็นโรคอ้วน (obese) ชื่อ Tess Holliday
สิ่งที่ตามมาก็คือคำวิพากษ์อย่างรุนแรง ข้อหา : "โปรโมตคนเป็นโรคอ้วน" "ทำให้โรคอ้วนเป็นเรื่องดี" "สร้างค่านิยมอันตราย" ฯลฯ
สิ่งที่น่าสนใจคือคำแย้งจากนางแบบ
เธอบอกว่า โจมตีผิดประเด็นแล้วละ เพราะปกนี้มิได้ต้องการส่งสารออกไปสู่สังคมว่า "เราจงมาอ้วนกันเถอะ" สารที่ส่งคือ "เราจงรักตัวเราเองเถอะ" "จงหัดรู้สึกดีกับตัวเองบ้าง"
คนอ้วนในระดับ obese มักมีปมด้อย และรู้สึกว่าตนเองด้อยค่าที่ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ หรือหยุดกินไม่ได้ การเห็นภาพคนอ้วนบนปกนิตยสารฉบับนี้อาจทำให้รู้สึกเป็นครั้งแรกว่า แม้จะคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ ก็สามารถรู้สึกดีต่อตัวเองได้
2
จะมีใครกี่คนในโลกที่รู้สึกดีกับตัวเอง?
3
ตัวอย่างมีมากมาย คนสวยผอมเพรียวหน้าตาดีจำนวนมากที่ไม่รู้สึกดีกับตัวเอง บ้างถึงขั้นฆ่าตัวตาย
1
ก็มาถึงประเด็นถัดมา นั่นคือใครกำหนดคำจำกัดความของความงาม? ความงามจำเป็นต้องเป็นเรื่องผอมเพรียวหรือไม่?
2
สมัยผมเป็นเด็ก สังคมไม่นิยมผู้หญิงผอมๆ ผู้หญิงในยุคก่อนต้องออกท้วมจึงเรียกว่าสวย
1
ในทางการแพทย์และสุขภาพ เป็นเรื่องจริงที่คนอ้วนมักมีปัญหาทางสุขภาพมากกว่าคนผอม แต่การเปลี่ยนเรื่องสุขภาพเป็นค่านิยมผอม ก็อาจจะไปถึงจุดสุดโต่งได้ หลายคนไม่มีความสุขในการกินอาหารอีกต่อไป กินนี่ก็กลัวอ้วน กินนั่นก็กลัวอ้วน
หลายปีก่อนปฏิทิน Pirelli ซึ่งถือเป็นปฏิทินนู้ดเกรด A ของโลก ฉีกแนวไม่ถ่ายเซ็กซี่ แต่ถ่ายตัวตนจริงของนางแบบ ไม่ต้องแต่งหน้านางแบบ เรียกว่า “more naked than a nude.”
ไม่กี่ปีก่อนก็มีกระแสใหม่ของผู้หญิงที่จำต้องตัดเต้านมทิ้งเพราะมะเร็ง แต่ไม่ยอมทำศัลยกรรมสร้างเต้านมเทียมด้วยซิลิโคน (Reconstruction) เพราะ “เต้านมไม่ได้เป็นเครื่องบ่งชี้ความเป็นผู้หญิง” กระแสนี้เรียกว่า ‘Going Flat’
นี่ชี้ว่าสิ่งที่เรียกว่าความสวยความงามเป็นเรื่องนานาจิตตัง เป็นค่านิยมที่เปลี่ยนไป
Tess Holliday บอกว่าตลอดชีวิตมีแต่คนบอกว่า "คุณสวมชุดนี้ไม่ได้" "คุณควรปกปิดตัวเอง" "ไม่มีใครอยากเห็นคุณใส่ชุดนี้หรอก" ฯลฯ
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นต้องทำตัวเป็นเจ้าของร่างกายของเธอ ใครเล่าอยากอ้วนจนมีปัญหาสุขภาพแบบนี้ แต่ขณะที่ยังแก้ปัญหาทางกายภาพไม่ได้ ก็ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองด้วยการมองโลกหดหู่ไปตลอดชีวิต
2
นางแบบ Cosmopolitan คนนี้บอกว่า เราทุกคนมีปัญหากับร่างกายทั้งนั้น ทำไมจึงนำมาลดทอนค่าตัวเอง หรือทำให้ตนเองรู้สึกด้อยค่า
1
สภาพทางจิตสำคัญกว่าสภาพทางกาย
รู้สึกดีกับตัวเองอาจสำคัญกว่าสวย
2
เห็นทัศนคติของนางแบบคนนี้แล้ว รู้สึกว่าผู้หญิงฉลาดอาจสวยกว่าผู้หญิงสวย
2
[ติดตามข้อเขียนของ วินทร์ เลียววาริณ ได้ทุกวันที่เพจ https://bit.ly/3amiAvG และ blockdit.com]
โฆษณา