7 ต.ค. 2021 เวลา 07:33 • ธุรกิจ
Nestlé ออกเมนู “กุ้ง” และ “ไข่” แบบ Plant-based วางขายที่ยุโรปแล้ว
Nestlé ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กุ้งและไข่ ในรูปแบบอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ ที่ทำมาจากพืช (Plant-based) เอาใจสายวีแกน และสายรักษ์โลก
พร้อมแสดงความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นี้ มีรสชาติและสารอาหารใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุดในตลาด
ผลิตภัณฑ์ไข่จากพืช จะวางขายภายใต้แบรนด์ Garden Gourmet vEGGie ในยุโรปก่อน
ซึ่งตัวไข่วีแกนจากพืชนี้ ประกอบด้วยไปด้วยโปรตีนถั่วเหลือง และกรดไขมันโอเมก้า 3
โดยตัวไข่วีแกน จะสามารถกวน หรือใช้ใน Frittata (เมนูอาหารอิตาเลียนที่มีไข่เป็นส่วนประกอบหลัก)
หรือเป็นส่วนผสมในเค้กและคุกกี้ ได้เหมือนกับไข่ปกติอีกด้วย
ส่วนทางด้าน กุ้งวีแกน จะวางขายภายใต้ชื่อแบรนด์ Vrimp ซึ่งปล่อยออกมาหลังจากวางขายเนื้อทูน่า ที่ทำมาจากพืชไปเมื่อปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ทางคุณ Stefan Palzer ซึ่งเป็น CTO ของ Nestlé กล่าวว่า เขาใช้เวลาไม่ถึงปี ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ขึ้นมา ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์พืช เพื่อสร้างโปรตีนถั่วที่ไม่มีรสชาติของถั่วอยู่เลย
เนื่องจากเขาต้องการให้รสชาติของผลิตภัณฑ์นี้ ออกมาใกล้เคียงกับเนื้อจริง ๆ มากที่สุด เพราะมันจะเป็นประโยชน์กับลูกค้า ที่จะสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมหันมากินอาหารวีแกนได้ง่ายขึ้น
โดยผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 แบบ เริ่มแรกจะวางจำหน่ายในบางประเทศในยุโรปก่อน ซึ่งรวมถึงสวิตเซอร์แลนด์ด้วย
นอกจากนี้ คุณ Mark Schneider ประธานบริหารของ Nestlé ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางบริษัทมีการทำเนื้อทดแทนที่ทำมาจากพืช อยู่มากมาย เช่น เนื้อทดแทนสำหรับเบอร์เกอร์, ไส้กรอกจากพืช ที่ต่างก็มียอดขายเติบโตเสมอมา
และตลาดเนื้อเทียมในตอนนี้ ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่กำลังเป็นเทรนด์อาหารกระแสหลักที่เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย
1
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ยอดขายจะเติบโตดี แต่ยอดขายเนื้อจากพืช หรือกลุ่ม Plant-based ก็ยังนับเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ๆ เมื่อเทียบกับภาพรวม
โดยมีสัดส่วนเพียง 7.3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดขายรวม 3 ล้านล้านบาท ของทั้งบริษัท Nestlé
ถึงแม้ยอดขายจะยังเป็นสัดส่วนที่น้อยอยู่ แต่ทาง Nestlé ก็มีความเชื่อมั่นว่าตลาดนี้จะเติบโตได้อีกมาก
และถ้าหากมาดูผู้เล่นในตลาดนี้ ก็จะมี Beyond Meat และ Impossible Foods เป็นผู้นำและคู่แข่งหลัก
แต่ทาง Nestlé ก็มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้
ด้วยชื่อเสียงและฐานลูกค้าเดิมที่เชื่อมั่นในบริษัท รวมถึงคุณภาพของรสชาติที่เหมือนจริง และคุณค่าทางโภชนาการ ที่ดีกว่าแบรนด์อื่น ๆ
นอกจากนี้ Nestlé ยังมีผลิตภัณฑ์วีแกนอื่น ๆ เช่น KitKat วีแกน อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นสัญญาณที่เห็นได้ชัดว่า วงการอาหารกำลังเป็นไปในทิศทางใด
ถึงแม้ว่าตอนนี้อาหารวีแกนหรือ Plant-based ยังมีราคาที่แพงกว่าเนื้อจริงอยู่
แต่ก็ไม่แน่ว่า วันใดวันหนึ่ง เราอาจจะได้กินเนื้อเทียมเป็นอาหารหลัก
เพราะวันนั้น ราคาของเนื้อเทียม อาจจะถูกกว่าเนื้อจริง ๆ ก็เป็นได้..
โฆษณา