9 ต.ค. 2021 เวลา 02:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
CareDx (Nasdaq: CDNA) บริษัทชั้นนำที่โฟกัสค้นคว้าพัฒนาโซลูชันในการเฝ้าระวังผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ ตลอดทั้งเส้นทางการรักษาของผู้ป่วย เริ่มตั้งแต่ระบบการจัดการการรอก่อนการเปลี่ยนถ่าย โซลูชั่นการจับคู่ผู้บริจาค ตรวจเลือดวิเคราะห์ผลด้วย AI พร้อมทั้งประเมิณความเสี่ยงของการปฏิเสธอวัยวะ และระบบการเฝ้าติดตามผู้ป่วยหลังได้รับการปลูกถ่ายแล้ว
#Factเรื่องการปลูกถ่ายอวัยวะ
 
อย่างที่เรารู้กัน การปลูกถ่ายอวัยวะจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งให้สำเร็จถือว่าเป็นเรื่องที่ยาก มีค่าใช้จ่ายที่สูง ทั้งค่าผ่าตัด ค่าอุปกรณ์การแพทย์ และค่าดูแลผู้ป่วยที่ต้องทำไปตลอดชีวิต
 
ซึ่งค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของสหรัฐในปี 2020 สำหรับการปลูกถ่ายหัวใจใหม่จะอยู่ที่ราว 1.66 ล้านเหรียญ และ สำหรับการปลูกถ่ายไตอยู่ที่ 440,000 เหรียญ
 
ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ดูว่าสูงแล้ว คือ ในเคสที่มีการปลูกถ่ายสำเร็จ แต่หากการปลูกถ่ายทำไม่สำเร็จ ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นสูงกว่านี้ถึง 500%เลยทีเดียว
นอกจากนี้ วิธีที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันสำหรับการเฝ้าระวังการปฏิเสธอวัยวะหลังจากการปลูกถ่ายนั้น คือ การต้องตัดชิ้นเนื้อส่วนนั้นออกมาแล้วส่องดูด้วยกล้องจุลทรรศน์
 
ให้เรานึกภาพตาม ในเคสที่เราต้องการติดตามผลการเปลี่ยนถ่ายหัวใจในผู้ป่วย เราจะต้องตัดชิ้นเนื้อหัวใจออกมาส่องดู ซึ่งในกระบวนการ จะต้องมีการสอดสายสวนเข้าไปในหลอดเลือดดำตรงคอด้านใน และเกลียวเข้าไปในช่องด้านขวาของหัวใจ และตัดเนื้อเยื่อออกจากผนังหัวใจ แล้วค่อยส่งเข้าห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบโดยนักพยาธิวิทยาที่จะใช้กล้องจุลทรรศน์ในการส่องดูความผิดปกติ
แค่คิดดูเราก็รู้แล้วว่า มันน่าจะเป็นวิธีการที่ทรมานผู้ป่วยมาก ทั้งยังต้องใช้ทรัพยากร ทั้งแพทย์ พยาบาล อุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายสูง และนี่ยังไม่รวมถึงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น จากการมองเห็นและการตีความของบุคคลากร ข้อผิดพลาดในการสุ่มตัวอย่างเนื้อเยื่อ ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
 
และ..กระบวนการนี้ไม่ได้ทำครั้งเดียวจบ ผู้ป่วยยังต้องเข้าสู่กระบวนการการตัดชิ้นเนื้อเพื่อทดสอบอีกหลายครั้งโดยเฉพาะในปีแรกหลังการเปลี่ยนถ่าย ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่อวัยวะได้
 
และแม้จะผ่านพ้นช่วงปีแรกที่ถือว่าเป็นช่วงวิกฤติที่สุดไปได้ วิธีการที่แพทย์ใช้ต่อมา คือ การให้ยากดภูมิ ซึ่งเมื่อไม่ได้มีการตรวจชิ้นเนื้อส่องดูแล้ว แพทย์ก็จะเลือกให้ยาแบบ one size fits all ซึ่งอาจนำไปสู่การให้ยามากเกินไป ทั้งที่ผู้ป่วยอาจไม่ต้องการยามากขนาดนั้น
.
😁CareDx เกิดมาเพื่อแก้ปัญหานี้
 
CareDx บอกเลยว่า ตัวเองเป็นบริษัทที่โฟกัส 100% อยู่กับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ บริษัทตั้งเป้าว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ชั้นนำในการสร้าง ecosystem สำหรับการปลูกถ่ายอวัยวะ และมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรม พัฒนาแนวทางใหม่ๆ ที่จะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ตลอดการเดินทางการรักษาของผู้ป่วยปลูกถ่าย
.
💎CareDx มีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง?
 
CareDx มีชุดโซลูชั่นแบบ end-to-end service ตลอดทั้งเส้นทางการรักษาของผู้ป่วย ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ Testing Service, Products และ Digital and Other
 
💎1. Testing Service
ผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้ ได้แก่ AlloSure®Kidney, AlloSure®Heart, AlloMap®Heart, AlloSure®Lung
 
AlloMap ใช้สำหรับวัดการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
AlloSure ใช้สำหรับวัดการบาดเจ็บของอวัยวะที่ปลูกถ่าย
 
ซึ่งทั้งสองอย่างทำได้ง่ายๆ เพียงตรวจเลือด โดยโซลูชันของ CareDx จะสร้างอยู่บน Next-generation sequencing technology (์NGS) โดยจะวัดค่า dd-cfDNA (donor-derived cell-free DNA) ที่อยู่ในกระแสเลือด ซึ่งสารเหล่านี้จะเล็ดลอดออกมาจากอวัยวะของผู้บริจาค ซึ่งถือเป็น indicator สำคัญตัวหนึ่งในการเฝ้าระวังหลังการปลูกถ่าย ซึ่งจะทำให้กระบวนการดูแลผู้ป่วยดีขึ้น และการให้ยากดภูมิคุ้มกันที่เหมาะสมโดยไม่ต้องตรวจชิ้นเนื้อ
CareDx เคลมว่า AlloSure®Kidney ได้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในการเฝ้าระวังผู้ปลูกถ่ายไตที่เกิดขึ้นใหม่แล้ว ซึ่งถูกใช้ในศูนย์ปลูกถ่ายไตกว่า 150 แห่งของสหรัฐฯ และในผู้ป่วยกว่า 30,000 ราย
 
และ AlloMap®Heart ก็มีการใช้โดยศูนย์ปลูกถ่ายหัวใจมากกว่า 90% และมีการใช้มากกว่า 150,000 ครั้งในผู้ป่วยเกือบ 30,000 ราย
😀รายได้ในส่วนนี้ถือเป็นรายได้หลักของ CareDx
 
หลักๆ มาจากการได้รับเงินคืน (reimbursement) จากหน่วยงานรัฐ อย่าง Medicare และ บริษัทประกัน องค์กรสุขภาพต่างๆ อย่าง Aetna, Cigna, Health Care Services Corporation, Humana, Kaiser Foundation Health Plan, BCBS, UnitedHealthcare, Palmetto MolDx Medicare, Noridian Healthcare Solutions
 
Medicare ถือว่าเป็นผู้ชำระเงินคืนให้รายใหญ่ที่สุด คิดเป็นสัดส่วนถึง 67%ของรายได้ส่วน Testing Services ทั้งหมด โดยมีอัตราการชำระคืน
 
AlloSure®Kidney 2,841 เหรียญ
AlloMap®Heart 3,240 เหรียญ
AlloSure®Heart 2,753 เหรียญ
ส่วน AlloSure®Lung ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเงินคืนจาก Palmetto MolDx และ Medicare
.
💎2. Products
 
ผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้ ได้แก่ QTYPE®, Olerup SSP®, AlloSeq®Tx 17, AlloSeq cfDNA, TruSight HLA ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เพิ่มโอกาสในการปลูกถ่ายให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น ช่วยในการจับคู่ระหว่างผู้บริจาคอวัยวะกับสเต็มเซลล์ของผู้รับทำให้การจับคู่ที่ดีขึ้น และช่วยในการเฝ้าระวังผู้รับหลังการปลูกถ่าย
.
💎3. Digital and Other
CareDx เพิ่งเริ่มให้บริการ Digital Solution ในปี 2019 หลังการเข้าซื้อกิจการ Ottr Complete Transplant Management และ XynManagement
 
Ottr ผู้ให้บริการชั้นนำด้านซอฟต์แวร์ติดตามผู้ป่วยปลูกถ่าย สามารถทำงานซิงค์ข้อมูลร่วมกับเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบ EMR ของ Cerner และ Epic ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่ได้ OTTR ถูกใช้ไปแล้วในศูนย์ปลูกถ่ายชั้นนำกว่า 60 แห่งในสหรัฐอเมริกา
 
XynManagement ผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชันการจัดการการรอการปลูกถ่าย เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมสำหรับการปลูกถ่ายและรักษาสิทธิ์ของผู้ป่วย
ปี 2020 บริษัทยังได้ launch -- AlloCare แอพพลิเคชั่นจัดการประสานงานกับผู้ดูแลผู้ป่วย จัดกำหนดการเทส AlloSure และวัดเมทริกด้านสุขภาพอื่นๆ
 
ในช่วงโควิด บริษัทยัง launch -- RemoTraC โซลูชันการเจาะเลือดที่บ้าน โดยใช้การเจาะเลือดจากมือถือสำหรับ AlloSure และ AlloMap โดยศูนย์ปลูกถ่ายมากกว่า 150 แห่งใช้ และมีผู้ป่วยปลูกถ่ายไต หัวใจ และปอดมากกว่า 6,000 ราย ได้ลงทะเบียนแล้ว บริษัทยังได้สร้างเครือข่ายนักโลหิตวิทยาทั่วประเทศมากกว่า 10,000 รายด้วย
.
.
✨มาดูส่วนของ #งบการเงิน
 
ปี 2018 – รายได้ 76 ล้านเหรียญ
ปี 2019 – รายได้ 127 ล้านเหรียญ โตขึ้น 66%
ปี 2020 – รายได้ 192 ล้านเหรียญ โตขึ้น 51%
✨คาดการณ์รายได้ 2021 อยู่ที่ 290 ล้านเหรียญ คาดว่าจะโตขึ้น 51%
 
รายได้ส่วนใหญ่มาจาก Testing services 85% Products 10% Digital and other 5%
 
บริษัทมี Gross profit margin ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยปี 2020 อยู่ที่ 67%
โดยรายได้จาก Testing services มี Gross margin สูงสุด ที่ 73%
 
และมีรายได้ส่วน Digital and other โตขึ้นถึง 119%
 
✨ตัวเลขทางบัญชีดูดีขึ้นเรื่อยๆ
 
ปี 2018 – ขาดทุน 47 ล้านเหรียญ
ปี 2019 – ขาดทุน 22 ล้านเหรียญ
ปี 2020 – ขาดทุน 19 ล้านเหรียญ
 
✨ไตรมาสQ2/2021 มีตัวเลขต่างๆที่ดีมาก
 
ณ TTM บริษัทมีรายได้ 253 ล้านเหรียญ โตขึ้น 70%
Non-GAAP Gross Margin 70%
Adjusted EBITDA Margin 9%
✨มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น 370 ล้านเหรียญ คิดเป็น 66% ของสินทรัพย์ทั้งหมด
✨มีตัวเลขขาดทุนเหลือแค่ 9 ล้านเหรียญ
จะเห็นว่าตัวเลขการขาดทุนดีขึ้นเรื่อยๆ จาก 3 ปีที่แล้ว มี Net Loss ที่ -61% ณ ปัจจุบัน TTM Net Loss ที่ -4% คาดการณ์ว่าบริษัทน่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ในปีนี้
#CompetitiveAdvantage
 
ผลิตภัณฑ์ของ CareDx มีความปลอดภัย เป็น non-invasive ใช้ง่าย สะดวก มีความแม่นยำมากกว่าโซลูชันแบบดั้งเดิม
 
บริษัทได้สร้าง"เครือข่าย" ของศูนย์ปลูกถ่ายและพาร์ทเนอร์ โดยมีบริการครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางยันปลายทางของการเดินทางของผู้ป่วย เสมือนเป็นศูนย์รวมโซลูชันการการปลูกถ่ายอวัยวะ ทั้งยังให้บริการโซลูชั่นเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้ผู้ป่วย ซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์กับศูนย์ปลูกถ่ายแต่ละศูนย์ที่เหนียวแน่นมาก
รวมถึงการสามารถรวมระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ให้เข้ากับผู้ให้บริการรายใหญ่อย่าง Cerner และ Epic ได้ ทำให้แพทย์สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ป่วยได้อย่างง่ายดาย ซึ่งพิสูจน์ได้จากการที่ แค่ในสหรัฐก็มีศูนย์ไตถึง 70% ใช้ AlloSure และศูนย์หัวใจมากกว่า 90% ใช้ AlloMap ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็นำมาสู่การมี Network effect ของบริษัท
CareDx มีรายได้ที่เป็น Recurring revenue จาก Testing Service ที่ผู้ป่วยต้องทำการทดสอบเพื่อตรวจสอบอวัยวะที่ปลูกถ่าย ซึ่งไม่ได้เป็นการทำแค่ครั้งเดียว แต่ต้องทำเป็นรายเดือน รายไตรมาส หรือรายครึ่งปี เพื่อให้แน่ใจถึงการทำงานของอวัยวะที่ปลูกถ่ายไป การที่จะเลิกใช้หรือเปลี่ยนไปใช้บริการเจ้าอื่นก็นับว่าเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งนี่ก็หมายถึงการมี Swiching cost ที่สูง
CareDx ยังมีสิทธิบัตรมากกว่า 25 รายการ ที่จะหมดอายุระหว่างปี 2021-2030 นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำ exclusive licensing agreements ในการเข้าถึงเทคโนโลยีอื่นๆ อย่าง การมีข้อตกลงร่วมกันกับ Illumina เพื่อจำหน่าย พัฒนา และจำหน่ายสิทธิ์ในเชิงพาณิชย์สำหรับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี NGS
.
#คู่แข่งและความเสี่ยง
 
1. CareDx พึ่งพารายได้จาก AlloSure Kidney และ AlloMap Heart มาก ถ้าบริษัทไม่สามารถรักษาเรทการชำระเงินคืนได้ก็จะส่งผลกระทบถึงรายได้บริษัทอย่างแน่นอน
 
2. ในตลาด Testing Services -- CareDx มีคู่แข่งที่เป็นคลินิก เป็นโรงพยาบาล ที่มีห้องปฏิบัติการทดสอบเทส และบริษัทเอกชนชั้นนำที่มีการวิจัยทดสอบในระดับโมเลกุล อย่าง Natera และ Eurofins และยังมีบริษัทขนาดเล็กๆที่เพิ่งเริ่มทำผลิตภัณฑ์แบบเดียวกันเข้ามาแข่งขัน ซึ่งในอนาคตคาดว่าน่าจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดนี้
3. การตัดชิ้นเนื้อเพื่อไปตรวจสอบถือว่าเป็นมาตรฐานของการตรวจมาเป็นเวลายาวนาน CareDx ยังต้องใช้เวลาในการ educate เทคโนโลยีของตัวเองแก่ทั้งผู้รับการปลูกถ่ายและผู้ชำระเงินคืนให้เห็นถึงข้อดีและประโยชน์ของการทดสอบแบบใหม่
 
4. มีศูนย์ปลูกถ่ายหลายแห่งตั้งอยู่ในโรงพยาบาลที่มีห้องปฏิบัติการของตนเองและสามารถดำเนินการทดสอบเองได้ โดยโรงพยาบาลบางแห่งอาจเลือกที่จะพึ่งพาโซลูชั่นการเฝ้าระวังที่พัฒนาขึ้นภายในองค์กรแทนการใช้ CareDx
5. ในส่วนของ Products ก็มีคู่แข่งที่เป็นยักษ์ใหญ่ในวงการ อย่าง Thermo Fisher และรายอื่นๆ อย่าง Omixon, GenDx, BAG, Qiagen และ Immucor
 
6. ในส่วนของ Digital Solutions บริษัทมีคู่แข่งหลักคือ Epic และมีคู่แข่งอื่นๆอย่างบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันต่างๆ
.
#โอกาสในการเติบโต
 
1. เติบโตไปกับ Total addressable market ที่มีขนาด 4,500 ล้านเหรียญ โดยมาจาก
Testing services 2,500 ล้านเหรียญ
Products 1,000 ล้านเหรียญ
Digital solution 1,000 ล้านเหรียญ
2. คาดการณ์มูลค่าตลาดการปลูกถ่ายอวัยวะน่าจะแตะได้ถึง 26,000 ล้านเหรียญ ในปี 2027 ซึ่งคิดเป็นการเติบโตที่ 9.3% ต่อปีทบต้น ซึ่งการที่ตลาดใหญ่ขึ้นก็จะส่งผลดีทางตรงต่อ CareDx แน่นอน
 
3. เติบโตไปกับการขยายพอร์ตโฟลิโอในการปลูกถ่ายอวัยวะใหม่ อย่าง AlloSure Lung, AlloSure Liver และ...
 
AlloCell โซลูชันการเฝ้าระวังสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ ซึ่งบริษัทมีแผนจะทำการค้าผ่านข้อตกลงการวิจัยร่วมกับบริษัทฺ Biopharma โดยคาดการณ์ TAM ในส่วนนี้จะมีมูลค่าสูงถึง 5,500 ล้านเหรียญ โดยมีผู้ป่วยถึง 300,000 รายที่ต้องรับการรักษา ซึ่งคิดเป็น 1.2 ล้านครั้งต่อปี
 
4. เติบโตออกไปในตลาดต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าน่าจะเติบโตได้อีกมาก ปัจจุบัน CareDx มีรายได้ส่วนใหญ่ถึง 90% มาจากในสหรัฐ
.
#Valuation
CareDx เป็นหุ้นที่มีกองทุนถือกันอยู่เยอะ โดยมี Top 2 holders คือ Vanguard Group ซึ่งถืออยู่ 9.67% และ ARK ถืออยู่ 8.67%
 
ราคา ณ ปัจจุบัน ถ้ามองในแง่การคิดแบบ DCF ก็ถือว่าราคาวิ่งอยู่ต่ำกว่า fair value ซึ่ง Morningstar ให้ไว้ที่ 72.34 เหรียญ ช่วงนี้ที่เห็นราคาดำดิ่งลงไป เพราะมีข่าวว่ามี insider เทขายหุ้นออกมา และมี Short%of Float ถึง 10.3%
 
แต่ถ้ามองในเชิง relative กับตัวมันเองในอดีต แอดเห็นกรอบ P/S ที่ 18 เท่า / 12 เท่า / 8 เท่า
ปัจจุบัน ตอนนี้มี P/S ที่ 13 เท่า ซื้อแล้วรอไปสักครึ่งปี รอให้รายได้วิ่งตามทัน จะเหลือที่ 11.6 เท่า
.
😁สรุป CareDx ผู้นำตลาดโซลูชั่นการวินิจฉัยการปลูกถ่ายอวัยวะแบบ end-to-end ที่มีการเติบโตสูง กับอนาคตที่ยังสามารถขยายขนาด TAM ไปได้เรื่อยๆ ถ้าเชื่อว่าในอนาคตข้างหน้า หุ้นกลุ่ม Genomics จะมาสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้แก่มนุษย์ CareDx ก็เป็นตัวหนึ่งที่น่าสนใจค่ะ
.
.
.
ชอบกดlike กดshare ให้แอดด้วยนะคะ
ติดตามบทความได้ทุกวันเสาร์ที่ 1 และ 3 ของทุกเดือน เวลา 9.00 เช้านะคะ
ช่องทางติดตาม
Stock Surge หาหุ้นนอกลงทุน
.
.
--Stock Surge—
เล่าเรื่องหุ้นนอกรายตัว แบบเข้าใจง่าย อ่านจบได้ใน 5 นาที
.
References:
1. CareDx 2020 Annual Report
2. CareDx 10-Q
4. Wikipedia
5. Morningstar
6. Seeking Alpha
7. CareDx Promotional Video
โฆษณา