11 ต.ค. 2021 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
PlayStation เครื่องเกมขายดีสุดในโลก ที่เริ่มจาก เห็นลูกสาวเล่นเกม Nintendo
หากพูดถึงเครื่องเกมคอนโซล ทุกวันนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักเครื่อง PlayStation
โดยบริษัทที่ผลิตและพัฒนาเครื่องคอนโซลนี้มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่โมเดลรุ่นแรก
จนถึงปัจจุบันในโมเดล PlayStation 5 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีก่อน
ก็คือบริษัท “Sony Group Corporation”
4
แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้ว บริษัท Sony ไม่ได้สนใจธุรกิจวิดีโอเกมเลย
แต่วันนี้ PlayStation เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมคอนโซลที่ขายดีที่สุดในโลก
3
เราเคยสงสัยไหมว่าทำไม Sony ถึงหันมาสนใจธุรกิจวิดีโอเกม
แล้วใครคือผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เรื่องราวทั้งหมดนี้ ?
วันนี้ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เริ่มจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ PlayStation
นั่นก็คือ ชายที่มีชื่อว่า “Ken Kutaragi” หรือคุณเคน คูตารากิ
เขาเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1950 เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในครอบครัวของเขามีฐานะปานกลาง
โดยครอบครัวของเขามีธุรกิจโรงพิมพ์เล็ก ๆ เป็นของตัวเอง
ชีวิตในวัยเด็กของคุณเคน คูตารากิ เติบโตมาด้วยการช่วยพ่อแม่ทำงานที่โรงพิมพ์หลังจากเลิกเรียน
และเมื่อเขามีเวลาว่าง สิ่งหนึ่งที่เขาชอบทำอยู่เสมอ คือการถอดชิ้นส่วนประกอบของเล่น เพื่อดูว่าของเล่นเหล่านั้นทำงานอย่างไร
หลังจากเขาเรียนจบปริญญาตรีในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จาก University of Electro-Communications
คุณ Ken Kutaragi ก็ได้เริ่มทำงานที่บริษัท Sony ทันที โดยเขาเริ่มมีชื่อเสียงจากการมีส่วนช่วย
ในความสำเร็จหลาย ๆ โครงการ เช่น การสร้างจอ LCD ในช่วงเริ่มต้น รวมถึงการพัฒนากล้องดิจิทัล
1
จนเย็นวันหนึ่งในช่วงปลายของทศวรรษ 1980
ในขณะที่คุณ Ken Kutaragi กำลังนั่งดูลูกสาวเล่นเกมคอนโซล Famicom หรือรู้จักกันในชื่อ NES
ย่อมาจาก Nintendo Entertainment System ของบริษัท Nintendo ที่กำลังเป็นที่นิยมในยุคนั้น
เขาจึงเกิดไอเดียที่ว่าเกมคอนโซลนี่แหละ ที่จะมาเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมวิดีโอเกม
3
อย่างไรก็ตาม บริษัท Sony ที่เขาทำงานอยู่ด้วยกลับไม่ได้คิดแบบเดียวกัน
เนื่องจากในตอนนั้น Sony ยังไม่ได้สนใจธุรกิจวิดีโอเกม
และไม่ได้มองว่าวิดีโอเกมเป็นโอกาสที่น่าสนใจ
1
ในขณะเดียวกัน ทางฝั่ง Nintendo เอง ที่กำลังมุ่งพัฒนาเครื่องเกมคอนโซล ก็กำลังตามหา “ชิปเสียง” เพื่อใช้ในการพัฒนาเครื่อง Super Famicom
1
ด้วยความที่คุณ Ken Kutaragi นั้นประทับใจในตัวเกมคอนโซล Famicom เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
บวกกับทาง Sony เอง ก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาได้พัฒนาเครื่องเกมคอนโซล
ทำให้เขาตัดสินใจแอบพัฒนาชิปเสียง “SPC700” ขึ้นมาอย่างลับ ๆ พร้อมกับแอบนำไปเสนอให้กับทาง Nintendo เพื่อใช้ในเกมคอนโซลรุ่น Super Famicom
แต่ความลับไม่มีในโลก ในที่สุดเขาก็ถูกทาง Sony จับได้ และการแอบทำงานให้ Nintendo ในครั้งนี้ ทำให้เขาเกือบโดนไล่ออกจากบริษัท
1
แต่โชคดีที่ คุณ Norio Ohga ซึ่งเป็นประธานของบริษัทอยู่ในขณะนั้น เห็นถึงความตั้งใจ และศักยภาพของของคุณ Ken Kutaragi
จึงได้เข้ามาช่วยเหลือและได้ให้เหตุผลว่า Sony ในตอนนั้น ยังไม่ได้ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับเกม
ดังนั้น Nintendo เอง ไม่ใช่คู่แข่งของบริษัท ทางออกที่ดีก็คือ Sony ควรจะร่วมมือกับ Nintendo มากกว่า
5
ด้วยความช่วยเหลือนี้เอง ทำให้คุณ Ken Kutaragi ได้ทำงานที่ Sony ต่อ และนับตั้งแต่นั้นมา ก็ถือเป็นการเริ่มความสัมพันธ์ระหว่าง Sony กับ Nintendo
1
โดยทั้งสองบริษัทได้วางแผนร่วมกันในการพัฒนาเกมคอนโซล รุ่น Super Famicom ให้สามารถเล่นได้ด้วยแผ่นซีดี แทนการเล่นจากตลับ
แต่แล้วในปี ค.ศ. 1989 เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
เมื่อทาง Nintendo ได้ประกาศยกเลิกสัญญากับทาง Sony ทั้งหมด
และประกาศเลือกให้ Philips บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ มาเป็นพันธมิตรแทน
2
ด้วยเหตุนี้ทำให้ ความสัมพันธ์ระหว่าง Sony และ Nintendo
จึงได้เปลี่ยนจากมิตร กลายเป็นศัตรูในทันที
1
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่คุณ Norio Ohga ผู้ที่คอยสนับสนุนให้คุณ Ken Kutaragi พัฒนาเครื่องเล่นเกมมาตั้งแต่แรก ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งเป็น CEO ของบริษัท Sony อย่างเต็มตัว
1
ด้วยความที่คุณ Norio Ohga สนใจในธุรกิจวิดีโอเกมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทำให้หลังจากเขารับตำแหน่ง CEO เต็มตัว บริษัทจึงได้เดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาเกมคอนโซล ของคุณ Ken Kutaragi ทันที
จนในปี ค.ศ. 1993 Sony ภายใต้การบริหารของคุณ Norio Ohga
บริษัท Sony ก็ได้ทำการแยกธุรกิจเกมออกมา และตั้งเป็นอีกบริษัทซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Sony อีกทีหนึ่ง
เพื่อโฟกัสในธุรกิจวิดีโอเกมโดยเฉพาะ ชื่อบริษัท “Sony Computer Entertainment” และได้เปลี่ยนมาเป็น “Sony Interactive Entertainment” หรือ SIE ในเวลาต่อมา
3
ในที่สุดปี ค.ศ. 1994 Sony ก็ได้ทำการเปิดตัว
เครื่องเล่นเกมที่มีชื่อว่า “PlayStation” ซึ่งนอกจากจะสามารถอ่านข้อมูลจากแผ่นซีดีได้แล้ว
เจ้า PlayStation เครื่องนี้ ยังสามารถประมวลผลภาพแบบ 3 มิติ ได้อีกด้วย
1
ซึ่งหลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จนสามารถขึ้นมาครองส่วนแบ่งการตลาดเกมคอนโซลแทนที่คู่แข่งอย่าง Mega Drive ของ SEGA และ Super Famicom ของ Nintendo โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 61% เลยทีเดียว
1
ด้วยความสำเร็จนี้ ทำให้ในปี ค.ศ. 1997 คุณ Ken Kutaragi
จึงได้ขึ้นมารับตำแหน่ง CEO ของบริษัท Sony Computer Entertainment
และในปี ค.ศ. 2000 เครื่อง PlayStation 2 ก็ถูกปล่อยตัวตามมา
ซึ่งก็เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไม่แพ้รุ่นแรกเลยทีเดียว
1
หากนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มวางขาย จนถึงปี ค.ศ. 2012 ที่เลิกผลิต
PlayStation 2 สามารถขายได้มากถึง 155 ล้านเครื่องทั่วโลก
เรื่องราวทุกอย่างเป็นไปได้ดี จน PlayStation เดินทางมาถึงรุ่นที่ 3 ซึ่งได้เริ่มทำการวางขายไปในปี ค.ศ. 2006
1
ทาง Sony หวังจะเอาชนะคู่แข่งในเวลานั้นอย่าง Xbox 360 ของ Microsoft และ Wii ของ Nintendo โดยการเพิ่มลูกเล่นในการอ่านแผ่น Blu-ray ที่มีความละเอียดสูง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากในช่วงเวลานั้น
แต่การตัดสินใจของ Sony ในครั้งนี้กลับไม่เป็นอย่างที่คิด
เพราะแม้ว่าเครื่อง PlayStation 3 จะมีเทคโนโลยีเหนือกว่าคู่แข่ง
แต่เนื่องจากการอ่านแผ่น Blu-ray ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
ทำให้ต้นทุนของเครื่อง PlayStation 3 สูงขึ้น
3
เมื่อต้นทุนสูง ก็ส่งผลให้ราคาของเครื่อง PlayStation 3 สูงขึ้นไปด้วย
ซึ่งหากเทียบกับคู่แข่งในเวลานั้น
Xbox 360 ราคา 10,000 บาท
Wii ราคา 8,300 บาท
PlayStation 3 ราคา 17,000 บาท
ด้วยราคาที่ต่างกันเกือบ 2 เท่า ทำให้ PlayStation 3 ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ซึ่งหากเราลองมาดูจำนวนเครื่องที่ขายได้โดยนับตั้งแต่แรกจนเลิกผลิต
PlayStation 3 ขายได้เพียง 87 ล้านเครื่อง
เทียบกับรุ่นที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งสามารถขายได้เกิน 100 ล้านเครื่อง
1
ด้วยผลงานที่ผิดพลาดของคุณ Ken Kutaragi ทำให้เขาถูกลดตำแหน่งลง
และคนที่ขึ้นมารับไม้ต่อเป็นแม่ทัพของ SIE คือ Kazuo Hirai
2
ในปีต่อมาทาง Sony ได้ประกาศว่าคุณ Ken Kutaragi
จะเปลี่ยนบทบาทการทำงาน ย้ายจากงานฝ่ายบริหาร ไปเป็นตำแหน่งที่ปรึกษา
จนกระทั่งในปี 2011 คุณ Ken Kutaragi ก้าวออกจากงานเดิมในการบริหารทั้งหมด
และดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาอาวุโสด้านเทคโนโลยีแทน
ปัจจุบันคุณ Ken Kutaragi ยังเป็น CEO ของบริษัท Ascent Robotics ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ตอัปที่ทำการพัฒนา AI เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ รวมถึงรถยนต์อัตโนมัติ อีกด้วย
แม้ทุกวันนี้ถึงคุณ Ken Kutaragi จะไม่ได้มีบทบาทหลักในการพัฒนา PlayStation รุ่นถัด ๆ มาแล้ว
แต่เรื่องราวของเขา ก็สามารถนำมาเป็นข้อคิดให้เราได้เรียนรู้ได้อย่างดี เริ่มตั้งแต่
1. โอกาสและไอเดียใหม่ ๆ มีอยู่รอบตัวเราเสมอ
หลายครั้งในเวลาที่กำลังหาไอเดียใหม่ ๆ เรามักจะมองหาสิ่งที่อยู่ไกลตัว
จนอาจลืมไปว่า บางครั้งสิ่งที่เราตามหาอาจอยู่รอบ ๆ ตัวเรา
เช่นเดียวกับคุณ Ken Kutaragi ที่เห็นโอกาสในการสร้าง
เครื่องเกมคอนโซล “PlayStation” จากการนั่งมองลูกสาวของเขาเล่นเกม
2. ไม่ล้มเลิกอะไรง่าย ๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ความตั้งใจ และไม่ล้มเลิกต่อเป้าหมายง่าย ๆ
อย่างเช่น คุณ Ken Kutaragi ที่เดินหน้าลงมือสร้าง PlayStation ต่อ
แม้จะโดนทางบริษัท Sony ปฏิเสธในตอนแรก
ก็น่าคิดเหมือนกันว่า หากว่าวันนั้น
ในวันที่ Sony ไม่เห็นด้วยกับไอเดียของเขา
คุณ Ken Kutaragi ได้ตัดสินใจยอมแพ้และล้มเลิกความตั้งใจ
ในวันนี้ โลกของเราก็อาจจะไม่ได้มีเกมคอนโซลที่ชื่อว่า PlayStation
ที่ขายได้รวมกัน หลายร้อยล้านเครื่อง แบบทุกวันนี้ ก็เป็นได้..
โฆษณา