8 ต.ค. 2021 เวลา 14:28 • ครอบครัว & เด็ก
เข้าใจอะไปแล้วบ้างในวันนี้ที่มีลูก
เคยได้ยินคนที่มีลูกพูดกับคนยังไม่มีลูกด้วยคำนี้มั้ยคะ…. ถ้ามีลูกแล้วจะเข้าใจ!
แม่เคยได้ยินสมัยยังสาวโสดโหมดไม่มีบุตร แล้วก็สงสัย มันจะต่างอะไรกัน ทำไมเราจะไม่เข้าใจ แถมแอบชอบตั้งคำถามหลายอย่าง และยังคิดไปอีกว่า มันจะยากอะไร ก็ต้องทำแบบนี้แบบนั่นไปสิ?!
มาวันนี้เป็นแม่แล้วค่ะ เราพบแล้วว่าในมุมที่ยืนอยู่ของแม่ เรามองเห็นสิ่งที่ต่างไปค่ะ เลยอยากจะบันทึกความคิด มุมมองเกี่ยวกับคำตอบของตัวเอง ตอนนี้เราเข้าใจอะไรหลังจากเป็นแม่บ้าง…
1. แม่คือ VIP ของลูก
ลูกจะปฏิบัติกับเราแตกต่างจากคนอื่นค่ะ! แตกต่างมากในบางที เวลาอยู่กับพ่อ กับคนอื่นไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย เช่น งอแงเป็นพิเศษ อ้อนเป็นพิเศษ หิวใส่เป็นพิเศษ ง่วงใส่เป็นพิเศษ โกรธใส่เป็นพิเศษ ทั้งนี้ก็เพราะรักเป็นพิเศษ และต้องการจะทดสอบว่า “แม่มีอยู่จริง” ดังนั้น วิธีสอนของแม่จึงดูเหมือนลูกจะรู้แหละค่ะ ว่าจะให้แม่พูดดีๆ รอบสองรอบ ก็คงไม่พอ ต้องหลายๆรอบ ใส่พลังไปเยอะๆ ไอครั้นที่เวลาครูสอนทำไมง่ายเหลือเกิน แต่พอเป็นแม่ เลยต้องยืดเยื้อออกไปอีก ยังไงซะ ความอดทนของแม่จะไม่สูญ ค่ะ เพราะสิ่งนี้จะเป็นรากฐานที่หล่อหลอมลูกแบบมั่นคงที่สุด สร้างความคิด บุคลิกภาพ และนำไปสู่ความสำเร็จของชีวิตเมื่อเขาเป็นผู้ใหญ่ …. แค่เริ่มต้นจากขอให้แม่คือคนที่เค้า “ไว้วางใจได้” เท่านี้เองค่ะ
2. เราต้องใช้กลยุทธมากมายในการเป็นแม่ เป็นแม่ต้องใช้เวลาค่ะ….
หาเส้นทางที่ตัวเองจะได้ผ่อนคลายบ้าง โทษตัวเองไปทุกเรื่องไม่ได้ และ ไม่เปรียบเทียบการเลี้ยงดูแบบฉบับเรากับใคร เพราะ เด็กต่างกัน แน่นอนว่าเด็กมีแบบแผนพัฒนาการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เด็กมี Development Milestones ที่ทำนายได้ว่าในช่วงวัยนี้ควรเกิดการกระทำ พฤติกรรมอะไร แต่ Speed ของพัฒนาการแต่ละคนไม่เท่ากันค่ะ และเป็นเรื่องปกติ รวมถึง บริบทแวดล้อมที่เด็กอยู่อาศัยก็ต่างกันอีก ยังมีประสบการณ์ของเด็กก็ได้รับต่างกันด้วย แล้วพ่อแม่ทุกบ้านจะมาเดินบนถนนเส้นเดียวกันได้อย่างไร ข่าวดีก็คือ แม้ว่าจะเดินในทางเดียวกันไม่ได้ แต่เราเดินเป็นทางขนาน ลุยไปด้วยกัน ทำในสิ่งที่เหมาะที่ควร ตามที่นักการศึกษาได้เผยแพร่ไว้ แล้วปรับให้มันเหมาะกับเส้นทางของเราได้ค่ะ แม่คนนี้เลยติดตามทุกเพจคุณหมอ นักจิตวิทยา คุณครู และเข้ากรุ๊ปเลี้ยงลูกมันทุกกรุ๊ป
3. ชีวิตคือความยืดหยุ่นและประนีประนอม
ไม่ใช่แค่กับลูกนะคะ กับทุกคนในชีวิตแม่ค่ะ ศิลปะการใช้ชีวิตที่เคยคิดว่าใช้มามากตอนทำงาน เทียบไม่ได้กับตอนมีลูก1คน ประสานงานระหว่างคนในครอบครัว ยากกว่าตอนทำงานให้องค์กร ใช้skillขั้นสุดยอด ดีลตั้งแต่สามี บุพการีของเราเอง พี่เลี้ยง ไปจนถึงบุคคลแวดล้อม บางทีจะเหนื่อยกว่าเลี้ยงลูกซะอีกค่ะ พอเกิดปัญหาหนึ่งขึ้น เราจะเจอปัญหาถัดไปทันทีแบบคลื่นซัดชายฝั่ง ตอนโสดตัวเปล่า มีปัญหากลับบ้านปุ๊บตัดจบเปลี่ยนโหมดนอนสบาย … แต่พอมีปัญหาเกี่ยวกับลูก กระทบ ดึ๊งๆๆๆ ไปหมดทุกมิติเลย ผลดีคือ แม่จะได้อัพสกิลของวุฒิภาวะให้ไปแบบ beyond ขีดจำกัด อะไรที่ไม่เคยคิดว่าจะไหว เป็นแม่คือไหวเฉยเลยค่ะ
4. เคยคิดว่ามีลูกคือการทำหน้าที่ของพลเมือง
จริงๆแล้วคงไม่ใช่แค่นั้น สำหรับแม่เอง อาจจะไม่ได้คิดว่า ลูกคือส่วนที่เติมเต็ม แต่รู้สึกว่าเขามาเพิ่ม และมาค่อยๆทำให้เราเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราไป เราเป็นคนที่ใจเย็นขึ้น คิดวางแผนมากขึ้น ขยันขึ้น ตื่นเช้าขึ้น เป็นคนที่ดีขึ้น และมีความสุขกับการเปลี่ยนแปลงนี้ บางคนอาจจะคิดว่าลูกไม่ควรเข้ามาเพื่อเปลี่ยนชีวิตของเราขนาดนั้น แต่สำหรับแม่ ถ้าเค้าทำให้เราเปลี่ยนไปในทางบวก เราก็ยินดีจะเปลี่ยน ที่สำคัญ ลูกทำให้เรารู้จักคู่ชีวิตของเราได้ดีขึ้น ได้รู้ว่าเค้าเป็นคนที่น่ารักแค่ไหนในวันที่เค้าเป็นพ่อ ได้ภูมิใจและได้รักคู่ชีวิตของเรามากขึ้น แม้ว่าจะมีทะเลาะเบาะแว้ง พ่อแง่แม่งอนจากการเลี้ยงลูก แต่สุดท้ายเราก็จะยิ่งรักและเข้าใจกันมากขึ้น
สุดท้ายไม่เสียใจที่วันนี้ก้าวมาถึงจุดนี้ และก็ไมเสียใจอีกเช่นกันถ้าวันนี้ไม่มีในจุดนี้ ไม่ว่าจะเป็นแม่ หรือ เป็นเราในวันก่อนนั้น ทุกๆช่วงเวลามีสิ่งดีๆเสมอ เหมือนเวลานั่งย้อนอ่าน memories facebook แล้วก็รักตัวเองในวันวาน วันนี้ที่บันทึกลงไปก็เชื่อว่า เราจะกลับมารักตัวเองเหมือนกัน
เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนนะคะ
ไดอารี่คุณแม่
โฆษณา