9 ต.ค. 2021 เวลา 00:09 • ข่าว
โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ชายผู้เยือกเย็นไร้ความปราณี กับเส้นทางสู่การเถลิงบัลลังก์อำนาจราชวงศ์อัล ซาอุด
4
เป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ผมค่อนข้างที่จะสนใจเส้นทางเรื่องราวชีวิตของตัวเขาเป็นพิเศษ สำหรับ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่มีข่าวใหญ่เพิ่งได้ทำการเข้าซื้อกิจการสโมสรชื่อดังในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษอย่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์
6
โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ชายผู้เยือกเย็นไร้ความปราณี กับเส้นทางสู่การเถลิงบัลลังก์อำนาจราชวงศ์อัล ซาอุด
ก่อนหน้านี้ได้เขียนเรื่องราวของเขาแบบฉบับเต็ม ๆ (สามารถอ่านได้ตรงลิงค์ท้ายบทความ) ก็ต้องบอกว่าเรื่องราวเส้นทางเดินของชายคนนี้ก่อนเข้ามากุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จในราชวงศ์ของประเทศซาอุดิอาระเบียนั้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก
1
จุดเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย
ในเดือนธันวาคมปี 2014 อับดุลลาห์ บิน อับดุลลาซิซ อัล ซาอุด สมาชิกคนที่หกของราชวงศ์อัล ซาอุด ที่สาม ที่กำลังปกครองซาอุดิอาระเบีย กำลังนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลกลางทะเลทรายนอกกรุง ริยาด เมืองหลวงของประเทศ
3
ประเทศซาอุดิอาระเบีย มีอายุเพียงแค่ 83 ปี ซึ่งมีอายุน้อยกว่ากษัตริย์อับดุลลาห์ที่มีอายุ 90 ปี ตลอดชีวิตในวัยเด็กของอับดุลลาห์ อาณาจักรแห่งนี้มีประชากรอาศัยอยู่เบาบาง และมีการเชื่อมต่อกับโลกภายนอกเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเข้ามาแสวงบุญที่เมืองศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลามที่เมกกะ
7
เมื่ออับดุลลาห์ อายุได้ยี่สิบปีเศษ ๆ การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นกับซาอุดิอาระเบีย มีการค้นพบมหาสมุทรน้ำมันใต้ทะเลทราย ช่วยให้สามารถเปลี่ยนเมืองที่มีแต่กำแพงโคลนให้กลายเป็นมหานครที่ทันสมัยที่มีตึกระฟ้าและห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นมากมาย
10
ในเดือนพฤศจิกายนปี 2014 มีความเห็นจากทางการแพทย์ที่อเมริกาว่า กษัตริย์อับดุลลาห์เป็นมะเร็งปอดในระยะที่สี่ ซึ่งหมอได้บอกว่าเขาอาจจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น
7
ไม่ถึงแปดสัปดาห์ต่อมา อับดุลลาห์ ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลชั่วคราวกลางทะเลทราย ที่บนพื้นทรายนั้นได้ติดจอมอนิเตอร์ และ สายน้ำเกลือเข้าสู่เส้นเลือดของเขา
4
ในขณะที่ข้าราชบริพารและลูกชายอีกกว่าสิบคน ซึ่งส่วนมากก็เป็นชายวัยกลางคนที่มีนิสัยใจคอแตกต่างกันไป และพวกเขาเหล่านี้กำลังมองถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังการจากไปของกษัตริย์อับดุลลาห์
2
คนเหล่านี้รู้ดีว่าการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียถือเป็นการเปลี่ยนผ่านความมั่งคั่งและอำนาจ การเปลี่ยนผ่านแต่ละครั้งในประวัติศาสตร์ของประเทศได้นำไปสู่การสั่นคลอนของเหล่าสายเลือดที่ต้องมาแข่งขันชิงอำนาจกัน
3
กษัตริย์อับดุลลาห์รวมถึงบุตรชายของเขา รู้ดีว่า ซัลมาน (ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด) เป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดและยังคงมีชีวิตอยู่ เป็นผู้ควบคุมวัง และมีความต้องการอย่างสูงที่จะผลักดันลูกชายของเขาโมฮัมเหม็ด (โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เจ้าของทีมนิวคาสเซิลคนใหม่) เพื่อสืบทอดบัลลังก์ต่อไปในรุ่นหน้า
4
แผนผังราชวงศ์อัลซาอุด (CR:AlJAZEERA)
และแน่นอนว่าโมฮัมเหม็ดจะกลายเป็นหายนะสำหรับตระกูลอับดุลลาห์ มันเป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่โมฮัมเหม็ดเข้ามาปะทะกับพี่น้องและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ตัวโมฮัมเหม็ดเองเคยแม้กระทั่งถ่มน้ำลายต่อเจ้าหน้าที่ข่าวกรองที่มีอำนาจสูงสุดคนหนึ่งของซาอุดิอาระเบีย
4
ซึ่งนั่นเองที่ทำให้บุตรชายของอับดุลลาห์ต้องพึ่งพาชายที่มีชื่อว่า คาลิด อัล ทูไวจรี ที่ตอนนั้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าราชสำนักของอับดุลลาห์
2
บทบาทที่สำคัญมาก ๆ ของ ทูไวจรี คือ การควบคุมการเข้าถึงกษัตริย์อับดุลลาห์ แม้แต่เอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกาก็ต้องบินมาจากวอชิงตัน ดี.ซี. ไปยังริยาดเพื่อสนทนาเพียงแค่สองชั่วโมง เนื่องจากอับดุลลาห์ไม่ชอบการคุยโทรศัพท์เป็นอย่างยิ่ง
5
และไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจระดับโลก หรือ รัฐมนตรีของรัฐบาลจากประเทศที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหนก็ตามบนโลกใบนี้ ก็จำเป็นต้องติดต่อผ่านทูไวจรี มีคนถึงกับตั้งฉายาให้เขาว่า “King Khalid”
4
ต้องบอกว่านี่เป็นอำนาจที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนสำหรับบุคคลภายนอกราชวงศ์ และทำให้ทั้งซัลมานและโมฮัมเหม็ดรู้สึกโกรธแค้น ทูไวจรี เป็นอย่างยิ่ง
2
และตัวโมฮัมเหม็ดเองก็มีประสบการณ์ที่เลวร้ายโดยตรงกับ ทูไวจรี ซึ่งโมฮัมเหม็ดมองว่าทูไวจรีนั้นเป็นคนสองหน้า เพราะด้านหนึ่งนั้นทำเหมือนจะสนับสนุนเขา แต่ลับหลัง ทูไวจรี ทำทุกอย่างเพื่อป้องกันการก้าวขึ้นมามีอำนาจของโมฮัมเหม็ดในทุกวิถีทาง
5
ทูไวจรี ทำถึงขนาดที่ว่า พยายามขับไล่โมฮัมเหม็ดออกจากรัฐบาล หรือ ไม่ก็ติดสินบนจนเขาพอใจ และไม่กี่ปีก่อนหน้าก็ได้ลงโทษทางวินัยโมฮัมเหม็ดตามคำสั่งของกษัตริย์อับดุลลาห์ที่ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง
5
ต้องบอกว่าซัลมาน (บิดาของโมฮัมเหม็ด) เป็นคนที่แตกต่างจากเหล่าราชวงศ์คนอื่น ๆ ที่มักจ่ายเงินกันอย่างบ้าคลั่ง และสะสมเงินทองไว้มากมาย แต่ ซัลมานเป็นคนที่ไม่สนใจในความมั่งคั่งเหล่านี้ เขาใช้เงินส่วนพระองค์ใช้จ่ายสำหรับภรรยาและลูก ๆ ของเขา
3
ในฐานะผู้ว่าราชการเมืองริยาดเป็นเวลาถึงสี่สิบแปดปี ซัลมานได้ควบคุมพื้นที่หลายล้านเอเคอร์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเมืองริยาด ได้เปลี่ยนจากหมู่บ้านในช่วงเริ่มต้นของการปกครองของเขากลายเป็นเมืองที่ทันสมัยที่มีประชากรมากกว่า 5 ล้านคน
5
ซัลมานยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักบวชวาฮาบิสต์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญของราชวงศ์ และมักจะเข้าไปพบกับเหล่านักบวชด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้ช่วยให้ราชวงศ์สามารถรักษาอำนาจไว้นับตั้งแต่การก่อตั้งอาณาจักร
8
แต่ความสัมพันธ์ของซัลมานกับลูกชายกับภรรยาคนแรกของเขาค่อนข้างห่างเหิน เพราะตอนที่เขาให้กำเนิดอายุคนแรกนั้นเขามีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น และเขาต้องการให้บุตรชายของเขาเรียนรู้ว่าโลกนี้มีอะไรที่มากกว่าความมั่งคั่ง น้ำมัน เขาต้องการให้บุตรชายของเขาได้รับความรู้ที่จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขาในฐานะรัฐบุรุษในภายหลัง
7
ลูกชายจากภรรยาคนแรกของเขา ฟาห์ด และ อาเหม็ดกลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เลี้ยงม้าแข่งระดับโลก และเป็นหุ่นส่วนที่สำคัญกับ UPS ส่วนอับดุลอาซิซเป็นผู้เชี่ยวชาญน้ำมันที่คอยจัดการเรื่องความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนของรัฐบาลกับประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น ๆ
5
ไฟซาล เป็นนักวิชาการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านการศึกษาทางการเมืองจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดด้วยวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐในอ่าวและอิหร่าน
1
โมฮัมเหม็ดกับการถูกเลี้ยงดูที่แตกต่าง
3
ซัลมานได้มาแต่งงานอีกครั้งกับภรรยาสาวฟาดาห์ บินต์ ฟาลาห์ อัล ฮิธเลน ซึ่งเป็นลูกสาวของหัวหน้าเผ่าอัจมาน ซึ่งมีประวัติยาวนานในฐานะนักรบที่ต่อสู้เคียงข้างกับราชวงศ์ในอดีต
3
และสองปีถัดจากนั้น ฟาดาห์ ก็ให้กำเนิดบุตรชายอย่างโมฮัมเหม็ด ลูกชายคนแรกหัวแก้วหัวแหวนของเธอ และให้กำเนิดเพิ่มอีก 5 คนหลังจากนั้น
3
ต้องบอกว่าเด็กทั้ง 6 คนที่เป็นลูก ๆ ของฟาดาห์ซึ่งเป็นภรรยาคนที่สามของซัลมาน ได้รับการเลี้ยงดูที่แตกต่างจากกลุ่มพี่ชายของภรรยาคนก่อนเป็นอย่างมาก
โมฮัมเหม็ดและน้อง ๆ ของเขา ไม่ได้ดูดซับความหลงใหลในด้านวิชาการและการใช้ชีวิตในต่างประเทศที่ปลูกฝังเหมือนกลุ่มพี่ ๆ ของภรรยาคนแรก ในขณะที่เหล่าพี่ชายกำลังสร้างอาชีพตามความฝัน
2
โมฮัมเหม็ดเป็นวัยรุ่นที่ดูเหมือนจะไร้จุดมุ่งหมาย เขามีนิสัยชอบฝันกลางวันระหว่างงาน หลายคนเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนเหม่อลอย ในวันหยุดพักผ่อนเขาและคาลิดน้องชายจะออกไปสำรวจหรือดำน้ำ เขาใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเล่นวีดีโอเกม รวมถึงซีรียส์อย่าง Age of Empires
5
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าชายวัยรุ่นอย่างโมฮัมเหม็ด ก็เริ่มสำนึกว่าควรจะเริ่มเปลี่ยนความเข้าใจเรื่องของเงินตรา และ อำนาจ เขาได้เริ่มซึมซับหลาย ๆ อย่างจากพระบิดาของเขา เพราะด้วยวัยที่ห่างกันมาก และ อยู่ด้วยกันบ่อย ๆ ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความผูกพันกันมากยิ่งขึ้น
3
ในขณะที่พี่น้องของเขาส่วนใหญ่ได้รับการขัดเกลาจากครูที่พ่อของเขานำเข้ามาหรือออกไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ แต่โมฮัมเหม็ดกำลังเฝ้าดูซัลมานอย่างใกล้ชิดและเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของอำนาจและวิธีการที่จะใช้มัน
5
และเมื่อกษัตริย์อับดุลลาห์ใกล้สิ้นพระชนม์ โมฮัมเหม็ดก็อายุได้เกือบสามสิบปี และได้กลายเป็นศัตรูที่น่าเกรงขามสำหรับ บุตรชายและข้าราชบริพารของอับดุลลาห์ เพราะเป็นคนที่คิดต่างมีความกระตือรือร้น ความคิดสร้างสรรค์ ความทะเยอทะยาน และมีความเชือดเฉือนมากกว่าที่ใคร ๆ คาดคิด
9
โมฮัมเหม็ดรู้ดีว่าประเทศต้องการอะไร เขามองว่าซาอุดิอาระเบียต้องไม่ใช่แค่เพื่ออยู่รอดไปวัน ๆ จากน้ำมันเท่านั้น แต่ต้องทำทุกอย่างเพื่อความเจริญรุ่งเรือง และด้วยการอยู่ใกล้ชิดกับพ่อของเขาตลอดในช่วงวัยยี่สิบ แทนที่จะออกจากซาอุดิอาระเบียเพื่อไปเรียนหนังสือเหมือนพี่ ๆ ของเขา มันทำให้โมฮัมเหม็ดได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความอ่อนแอของคู่แข่งในราชวงศ์
6
การก้าวขึ้นสู่อำนาจของกษัตริย์ซัลมาน
2
ภายในปี 2010 ห้าปีหลังการครองราชย์ของกษัตริย์อับดุลลาห์ ซัลมานมีอายุมากกว่าเจ็ดสิบปี และมีพี่ชายที่ประสบความสำเร็จใกล้เคียงกันสองคน คั่นกลางอยู่ระหว่างเขากับบัลลังก์ ซึ่งตลอดเวลาที่อับดุลลาห์ขึ้นครองราชย์ ไม่มีเหตุผลใดที่ทูไวจรี หัวหน้าราชสำนักจะมองว่าซัลมานหรือลูก ๆ ของเขาจะเป็นภัยคุกคาม
6
แต่การเสียชีวิตของพี่ชายทั้งสองที่คั่นกลางการขึ้นมาสืบทอดบัลลังก์ของซัลมานในปี 2011 และ 2012 มันก็ทำให้อนาคตของบัลลังก์นั้นตกมาอยู่ในมือของซัลมานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
2
นั่นทำให้ ทูไวจรี เริ่มคิดแผนการชั่วร้าย โดยเริ่มมีการเผยแพร่ความคิดที่ว่า ซัลมาน กำลังทุกข์ทรมนจากภาวะสมองเสื่อม เขาได้พยายามแสวงหาเชื้อพระวงศ์ที่มีอิทธิพลคนอื่น ๆ เพื่อดำเนินการปฏิรูปที่ยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายในการส่งต่อมงกุฏไปยังคนรุ่นต่อไป
7
ซึ่งแผนการของทูไวจรีคือการผลักดันบุตรชายของกษัตริย์อับดุลลาห์ ซึ่งอาจเป็นมิเทบ หรือ ทูร์กี หรือ อาจจะเป็น โมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงในประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับ CIA และกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา
3
บิน นาเยฟ ควบคุมกระทรวงมหาดไทยของซาอุดิอาระเบียที่มีอำนาจไม่แพ้ใคร ในขณะที่บุตรชายทั้งสองของอับดุลลาห์ควบคุมกองกำลังพิทักษ์ชาติของซาอุดิอาระเบียที่คอยปกป้องราชวงศ์
สำหรับแผนการของ ทูไวจรี ต้องจัดการทุกอย่างก่อนที่ซัลมานจะเข้ามาแทรกแซงได้ วิธีที่ดีที่สุดคือทำให้กษัตริย์อับดุลลาห์เสียชีวิตในทะเลทรายโดยไม่มีคนในครอบครัวอยู่รอบๆ ตัว นั่นจะทำให้ทูไวจรีมีเวลาอย่างน้อยหลายชั่วโมงในการปฏิบัติการยึดอำนาจ
1
ทูไวจรี ต้องการทำทุกอย่างเพื่อคงอำนาจไว้ (CR:alchetron.com)
ซึ่งลูกชายของอับดุลลาห์ก็สนับสนุนแนวคิดนี้ พวกเขาเชื่อว่า พวกเขาเองก็เหมาะสมที่จะปกครองประเทศต่อไป ซึ่งก่อนที่จะถึงวาระสุดท้ายของกษัตริย์อับดุลลาห์ มิเทบ ลูกชายบอกกับ โจ เวสต์ฟาล ทูตสหรัฐฯ ว่าเขากำลังช่วงชิงมงกุฏ
1
แต่สิ่งที่ทูไวจรีไม่ทันคิดไปก็คือ การที่ข่าวดังกล่าวได้รั่วไหลไปถึงหูของโมฮัมเหม็ด ซึ่งได้มีกลุ่มทีมงานที่ซื่อสัตย์ ที่คอยรวบรวมข้อมูลภายในราชสำนักมาให้เขาได้ และก็ได้แจ้งเตือนโมฮัมเหม็ดทันทีเกี่ยวกับอาการของกษัตริย์อับดุลลาห์
และตัวทูไวจรีเองก็ถูกกดดันจากครอบครัวในราชวงศ์ให้เคลื่อนย้ายอับดุลลาห์จากที่หลบภัยในทะเลทรายไปยังโรงพยาบาลในริยาด ซึ่งสุดท้ายได้ดำเนินการโดยกองกำลังพิทักษ์ชาติ ซึ่งทูไวจรีก็พยายามเก็บเป็นความลับมากที่สุด
2
สถานการณ์ในตอนนั้น ทูไวจรี และ ตระกูลอับดุลลาห์ ต่างเริ่มยอมแพ้ที่จะรักษาอำนาจของพวกเขาไว้แล้ว สิ่งที่ดีที่สุดที่พวกเขาหวังได้ก็เพียงแค่ ซัลมาน จะไม่เกลียดชังพวกเขา และย้อนมาเล่นงานพวกเขาในภายหลังเพียงเท่านั้น
1
หลังจากย้ายกษัตริย์อับดุลลาห์มายังเมืองริยาด ราชสำนักได้กางเต๊นท์นอกโรงพยาบาล เพื่อให้ เพื่อน ๆ และญาติ ๆ มาเยี่ยมกษัตริย์ที่กำลังใกล้จะสิ้นพระชนม์ ชาวซาอุฯ หลายพันคนรวมตัวกันรอบ ๆ โรงพยาบาลและทำการอธิษฐานตลอดคืน
7
หลายวันที่อับดุลลาห์นอนอยู่ในโรงพยาบาล โมฮัมเหม็ดพยายามโทรไปหา ทูไวจรี เพื่อสอบถามสถานการณ์แต่สิ่งที่ได้รับกลับมานั้นเป็นเพียงคำโกหกหลอกลวงว่ากษัตริย์อับดุลลาห์ยังคงมีชีวิตอยู่
1
เพราะข่าวที่เขาได้รับมาจากลูกสาวคนหนึ่งของอับดุลลาห์ ที่มาพบบิดาของเธอ กลับไม่มีร่องรอยของลมหายใจหลงเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว กษัตริย์อับดุลลาห์ได้สิ้นพระชนม์ลงแล้ว แต่ทูไวจรี กำลังพยายามทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อยืดเวลาออกไปให้นานที่สุดก่อนที่จะมีการสถาปนากษัตริย์องค์ใหม่
6
และไม่นานหลังจากนั้นโมฮัมเหม็ดก็ได้รับโทรศัพท์อย่างเป็นทางการว่ากษัตริย์อับดุลลาห์เสียชีวิตแล้ว เขารีบพาพ่อของเขาขึ้นขบวนรถและมุ่งตรงไปที่โรงพยาบาลทันที
4
พวกเขาพบทูไวจรีรออยู่ที่โถทางเดิน ซัลมานเหลือทนกับคนอย่างทูไวจรี เขาตบหน้าทูไวจรีอย่างรุนแรงและดังไปทั่วทางเดินของโรงพยาบาล ถึงจุดนี้ มันได้ถึงจุดเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของราชวงส์แล้ว ทูไวจรี รู้ตัวดีแล้วว่า อำนาจอันล้นฟ้าของเขากำลังจะสูญสิ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อกับศึกการแย่งชิงบัลลังก์ในครั้งนี้
9
สามารถติดเรื่องราวฉบับเต็ม ๆ ผ่าน Blog Series ชุด -> Blood Oil – The Rise to Power of Mohammed Bin Salman
2
Blog Series : Blood Oil – The Rise to Power of Mohammed Bin Salman
อ่านตอนที่ 1 : Prologue
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
1
The original article appeared here https://www.tharadhol.com/mohammed-bin-salman-story/
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันในกลุ่มสำหรับ Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
คลิกเลย --> https://bit.ly/3E2DdM8
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
=========================
ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast
เพื่อให้เรามีกำลังในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่าน
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :
——————————————–
Geek Forever Club พื้นที่ของการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ ด้านธุรกิจ เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
=========================
ฟัง PodCast เรื่องเกี่ยวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ที่ Geek Forever’s Podcast
——————————————–
ฟังผ่าน Podbean :
——————————————–
ฟังผ่าน Apple Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Google Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Spotify :
——————————————–
ฟังผ่าน Youtube :
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
1
โฆษณา