10 ต.ค. 2021 เวลา 07:59 • ประวัติศาสตร์
มีชาติใดบ้าง!? เผย 5 ประเทศที่ถูกรังเกียจและโดนพูดถึงในแง่ลบมากที่สุดในโลก!! (ภาคสาม)
เราได้นำเสนอเรื่องราวของ 5 ประเทศที่ถูกรังเกียจและถูกพูดถึงในแง่ลบมากที่สุดในโลกไปแล้วถึงสองตอน ซึ่งทุกคนสามารถติดตามบทความย้อนหลังได้จากลิงค์ด้านล่างนะครับ
โดยกลับมาครั้งนี้ เป็นตอนที่สามของซีรีย์ดังกล่าว ซึ่งในตอนนี้จะพิเศษกว่าตอนไหน ๆ เพราะมีประเทศไทยของเราอยู่ในรายชื่อด้วย มาดูกันว่าเป็นเพราะอะไร ที่ทำให้ประเทศไทยบ้านเิดของเราถูกพูดถึงในแง่ลบกัน
1. อินเดีย
อินเดียเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในแถบพื้นที่เอเชียใต้ และมีพรมแดนติดกับหลายประเทศ อินเดียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลก และมีประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคน เป็นรองเพียงแค่ประเทศจีนเพียงประเทศเดียวเท่านั้น แต่ด้วยอัตราการเกิดของประชาชนที่สูงมาก เลยทำให้อินเดียมีจำนวนประชากรแซงหน้าประเทศจีนในเวลาไม่ถึงสิบปีต่อจากนี้
อินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย ทั้งในแง่ของภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ วัฒนธรรม ภาษา และเชื้อชาติของผู้คนในแต่ละพื้นที่ เมื่อพูดถึงข้อเสียของประเทศอินเดีย จะพบว่าพวกเขามีพฤติกรรมแปลก ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำปัสสาวะวัว หรือนำอุจจาระวัวมาทาตัว ด้วยความเชื่อแปลก ๆ ว่าสิ่งปฏิกูลเหล่านี้สามารถป้องกันโรค Covid-19 ได้ และถึงแม้โลกของเราจะเจริญรุดหน้าไปมาก แต่ชาวอินเดียจำนวนมากยังขาดความรับผิดชอบเรื่องความสะอาดและขาดความรู้ด้านสุขอนามัย ด้วยการนำขยะและสิ่งปฏิกูลลงแม่น้ำ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ประชาคมโลกมองว่าชาวอินเดียขาดความเอาใจใส่ด้านหลักสุขอนามัยอย่างหนัก ซึ่งก็ไม่มีใครตอบได้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวของชาวอินเดีย มันคือการปล่อยปละละเลยหรือความเคยชินกันแน่
1
แม่น้ำคงคา ที่ชาวอินเดียมักนำขยะและสิ่งปฏิกูลทิ้งลงไป แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังใช้แม่น้ำสายนี้ในการอุปโภคบริโภคเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่เพียงเท่านี้ ชาวอินเดียยังมีปัญหาเรื่องการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน และเลือกปฏิบัติกับกลุ่มคนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอื่น เช่นมุสลิม คริสเตียน และชาวซิกข์ มีการเลือกปฏิบัติและกีดกันเรื่องเพศ โดยเฉพาะผู้หญิง
นอกจากนี้ ชาวอินเดียยังมีความเชื่อด้านศาสนาที่สุดโต่ง พวกเขาเลือกปฏิบัติกับชาวมุสลิม ไม่เพียงเท่านี้ ชาวอินเดียยังเป็นนักพนันตัวยก จนทำให้มีบริษัทต่างชาติหลายแห่งมีนโยบายไม่รับพนักงานชาวอินเดีย และชาวยุโรปเชื่อว่าคดีฉ้อโกงต่าง ๆ มักมีต้นเหตุมาจากชาวอินเดีย ด้วยเหตุนี้เอง เลยทำให้ชาวอินเดียถูกตั้งแง่รังเกียจตลอดเวลา
สภาพบ้านเมืองของประเทศอินเดียที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิงวุ่นวายและขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่กลายเป็นภาพจำของประเทศแห่งนี้ไปแล้ว
2. ตุรกี
ตุรกีเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยจักรวรรดิออตโตมัน บรรพบุรุษของพวกเขาคือผู้พิชิตจักรวรรดิไบแซนไทน์ และผนวกดินแดนต่าง ๆ ของชาวกรีกมาเป็นส่วนหนึ่งของตน พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเมืองคอนสแตนติโนเปิลมาเป็นอิสตัลบูล อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
หากทุกคนจำกันได้ ในปี ค.ศ.2016 ได้มีความพยายามในการก่อรัฐประหารโดยกลุ่มทหารกลุ่มหนึ่งที่ต้องการโค่นล้มประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ที่อยู่ในช่วงการพักร้อน โดยให้เหตุผลว่าประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดนอัน ขาดความชอบธรรม และตลอดระยะเวลาที่ปกครองประเทศตุรกีมานานกว่า 5 ปี สถาบันศาลตุลาการ สถาบันสื่อ สถาบันการศึกษา ได้ถูกแทรกแซง จนเป็นเหตุให้คณะรัฐประหารก่อเหตุในครั้งนี้
1
ต่อมาได้เกิดการปะทะกันระหว่างคณะรัฐประหารกับทหารและตำรวจที่ยังภักดีต่อรัฐบาลกลาง รวมไปถึงกลุ่มประชาชนที่ไม่เห็นด้วย ถึงแม้การก่อรัฐประหารในครั้งนั้นจะล้มเหลว แต่ก็มีรายงานความเสียหายที่เกิดจากการต่อสู้ จนทำให้อาคารบ้านเรือน และสถานที่ราชการสำคัญ ๆ ได้รับความเสียหาย พร้อมกันนี้ ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตราว 265 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 1,440 คน
หลังจากการก่อรัฐประหารล้มเหลว ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน เองก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำที่มีความเป็นอำนาจนิยม ได้สั่งจำคุกทหารหลายพันนายและดำเนินการกวาดล้างเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตำรวจ อาจารย์ ผู้พิพากษา และอัยการ และสั่งยึดทรัพย์ทั้งหมดเป็นของส่วนกลาง พร้อมกันนี้ยังร่างกฎหมายที่ทำให้รัฐบาลสามารถสั่งปลดข้าราชการได้โดยไม่ต้องมีการสอบสวน และสามารถคุมขังผู้ต้องสงสัยหรือผู้กระทำความผิดได้นานถึง 30 วัน ซึ่งเป็นอะไรที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ไม่เพียงเท่านี้ รัฐบาลของนายแอร์โดอันยังได้แทรกแซงและปิดกั้นการเข้าถึงสื่อโซเชียลของชาวตุรกีอีกด้วย
1
ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี
ขณะเดียวกัน ตุรกียังแทรกแซงกิจการภายในของประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะชาวเคิร์ด กลุ่มชาติพันธุ์ที่มีประชากรอยู่ราว 30 ล้านคนในตะวันออกกลาง และพวกเขาไม่มีรัฐเป็นของตัวเอง รัฐบาลตุรกีปฎิเสธการมีอยู่ของชาวเคิร์ดและทำการกดขี่ข่มเหงชาวเคิร์ดมานานหลายสิบปี โดยทางรัฐบาลตุรกีมองว่าชาวเคิร์ดเป็นเพียงแค่กลุ่มผู้ก่อการร้ายเท่านั้น
ในสงครามกลางเมืองซีเรีย ชาวเคิร์ดกลับมามีบทบาทสำคัญ ด้วยการลุกฮือขึ้นมาจับอาวุธเพื่อขับไล่ประธานาธิบดี บัชชาร์ อัล อัสซาด โดยหวังว่าถ้าหากพวกเขาชนะ ชาวเคิร์ดจะสามารถเรียกร้องพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งติดกับตุรกีด้วย เลยทำให้ตุรกีกลัวว่าในอนาคต ชาวเคิร์ดจะเรียกร้องดินแดนของตุรกีมาเป็นของตน ด้วยเหตุนี้เอง เลยทำให้ตุรกีตัดสินใจข้ามพรมแดนของซีเรียเข้าไปโจมตีชาวเคิร์ด
แน่นอนกับกับรัฐบาลซีเรีย ตุรกีเองก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบนัก เนื่องจากทั้งสองประเทศมีประเด็นข้อพิพาทเรื่องพรมแดนที่ติดกัน จนทำให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงจากกองทัพของทั้งสองฝ่ายอีกด้วย
การรัฐประหารเมื่อปี ค.ศ.2016 ของกองทัพตุรกี ที่ประสบกับความล้มเหลว เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ยังภักดีต่อรัฐบาลกลางและชาวตุรกีออกมาต่อต้านอย่างหนัก
3. กาตาร์
กาตาร์เป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ร่ำรวยในตะวันออกกลาง ทว่าพวกเขากลับไม่เป็นชื่นชอบในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางด้วยกัน โดยมีกลุ่มประเทศชาติอาหรับถึง 6 ชาติ ได้แต่ ซาอุดิอาระเย อียิปต์ บาห์เรน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ลิเบีย และเยเมน ที่ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์เมื่อปี ค.ศ.2017 โดยให้เหตุผลว่า พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย
โดยกลุ่มประเทศเหล่านี้ได้กล่าวหากาตาร์ว่าให้การสนับสนุนกลุ่มไอเอส อัลกออิดะห์ และกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ที่ได้สร้างความวุ่นวายไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางและทั่วโลก นอกจากนี้กาตาร์ยังให้การสนับสนุนกลุ่มกบฎชีอะในซาอุดิอาระเบียและบาห์เรนอีกด้วย
ในปี ค.ศ.2017 ซาอุดิอาระเบียกล่าวโจมตีกาตาร์ว่าพวกเขาใช้สื่อของตัวเองอย่าง อัลจาซีรา (Al Jazeera) ปลุกระดมและให้พื้นที่กลุ่มภารดรภาพมุสลิมในการก่อความวุ่นวายไปทั่วภูมิภาค จนทำให้ซาอุดิอาระเบียยื่นคำขาดให้รัฐบาลกาตาร์สั่งปิดสำนักข่าวดังกล่าวเสีย ถ้าหากต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตที่มีต่อกัน
1
ไม่เพียงเท่านี้ กาตาร์ยังมีจำนวนประชากรเพศชายมากกว่าเพศหญิงมาก และคนงานจำนวนมากจากต่างประเทศที่มาทำงานในกาตาร์ จะต้องพบกับปัญหาการถูกเอารัดเอาเปรียบและการล่วงละเมิดอีกมากมาย
อัลจาซีรา (Al Jazeera) สำนักข่าวของกาตาร์ ที่ถูกกล่าวหาจากทางการซาอุฯ ว่าเป็นกระบอกเสียงให้กลุ่มก่อการร้ายในตะวันออกกลาง
4. โคลอมเบีย
ประเทศโคลอมเบียมีปัญหาความขัดแย้งภายในมายาวนานหลายทศวรรษระหว่างกองกำลังของรัฐบาลและกลุ่มกบฏ FARC ที่มีจุดมุ่งหมายในการโค่นล้มรัฐบาลกลางและสถาปนาการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ขึ้นมา รวมไปถึงการต่อต้านจักรวรรดินิยมตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
และหนึ่งในคดีสุดอื้อฉาว ที่ทำให้ชื่อเสียงของประเทศโคลอมเบียเสียหายคือ กรณีเรื่องเอกสารปานามา (Panama Paper) เมื่อปี ค.ศ.2016 ทีว่าด้วยชุดเอกสารลับจำนวน 11.5 ล้านฉบับที่รั่วไหลจากสำนักงานกฎหมายและผู้ให้บริการวางแผนธุรกิจสัญชาติปานามาชื่อ มอสซัค ฟอนเซกา ที่กล่าวถึงข้อมูลโดยละเอียดของบริษัทที่จดทะเบียนนอกประเทศ พร้อมทั้งหลักฐานการซุกซ่อนเงินของเหล่าบรรดาข้าราชการผู้ร่ำรวย และมีรายชื่อของผู้นำรัฐบาลในหลายประเทศอยู่ในนั้นด้วย ทว่าภายหลัง โคลอมเบียได้รับการรับรองว่าพวกเขาบริสุทธิ์ และไม่มีส่วนในความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น ถึงแม้จะมีบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยก็ตาม
1
เอกสารปานามา (Panama Paper) ประเด็นอื้อฉาวที่ว่าด้วยการแฉเรื่องการทุกจริตคอรัปชั่นของเหล่าบรรดาผู้นำคนสำคัญระดับโลก
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในปัญหาใหญ่ของโคลอมเบีย ที่ทำให้หลายประเทศไม่ค่อยชื่นชอบพวกเขานัก มาจากประเด็นเรื่องการค้ายาเสพติดที่ทำเงินได้อย่างมหาศาล รวมไปถึงปัญหาอาชญากรรม สื่อตะวันตกอย่าง The Guardian รายงานว่าโคลอมเบียเป็นศูนย์กลางในการผลิตโคเคน และมีรายงานว่ากลุ่มกบฏ FARC ได้ใช้เงินทุนจากการค้ายาเสพติดในการต่อสู้กับรัฐบาลกลางมานานกว่า 50 ปี ส่งผลให้มีชาวโคลอมเบียเสียชีวิตมากกว่า 220,000 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และดูเหมือนว่าสันติภาพในโคลอมเบีย ยังเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากความเป็นจริงนัก
1
กลุ่มกบฏ FARC ขอโคลอมเบีย ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลกลางและสถาปนาระบอบคอมมิวนิสต์ขึ้นมาปกครองประเทศแทน
5. ไนจีเรีย
ไนจีเรียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดของแอฟริกา และพวกเขามีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศแอฟริกาด้วยกัน เนื่องจากพวกเขามีคลังน้ำมันสำรองอยู่เป็นจำนวนมาก ทว่าพวกเขากลับมีชื่อเสียงในด้านลบ ซึ่งมันเกิดสาเหตุเพียงไม่กี่อย่าง โดยหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ประเทศแห่งนี้ถูกรังเกียจมากที่สุด คือปัญหาการคอรัปชั่นที่เรื้อรังมานานหลายทศวรรษ
1
มีรายงานว่าหนึ่งในสามของชาวไนจีเรียในวัยทำงาน เคยมีประสบการณ์ในการติดสินบนข้าราชการและเจ้าพนักงานของไนจีเรียด้วยเหตุผลบางประการ และมันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนมีรายงานว่าชาวไนจีเรียต้องจ่ายสินบนต่อเจ้าหน้าที่รัฐประมาณ 6 ครั้งต่อปีเลยทีเดียว
ประเทศไนจีเรีย เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของอีโบลา ไม่เพียงเท่านี้ พวกเขายังต้องพบกับปัญหาจากกลุ่มกบฏโบโกฮาราม (Boko Haram) กลุ่มก่อการร้ายมุสลิมหัวรุนแรงที่มีฐานปฏิบัติการในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไนจีเรีย ที่ก่อเหตุสังหารพลเรือนชาวไนจีเรียไปเป็นจำนวนมาก จนเป็นเหตุให้มีชาวไนจีเรียกว่า 2.5 ล้านคน ต้องกลายเป็นคนเรร่อนไร้ถิ่นอาศัย
ซ้ำร้าย รัฐบาลไนจีเรียยังมีปัญหาด้านการบริหารจัดการ และเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของประชาชนผู้ลี้ภัย ที่ไม่ได้รับอาหาร ที่พักพิง การศึกษา และการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องความรุนแรงและการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิง ของกลุ่มมิจฉาชีพที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ โดยที่รัฐบาลกลางของไนจีเรียไม่ได้แสดงท่าทีกระตือรือร้นในการแก้ปัญหาดังกล่าวนัก
กลุ่มกบฏโบโกฮาราม (Boko Haram) กองกำลังติดอาวุธที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวไนจีเรียเป็นอย่างมาก
6. ไทย **พิเศษ**
ข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่พิเศษมาก เพราะเรากำลังพูดถึงประเทศไทยของเรานั่นเอง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนด้วยกันอย่าง เมียนมาร์ ลาว เขมร หรือแม้กระทั่งเวียดนาม ประเทศเหล่านี้ต่างมีทัศนคติในแง่บวกและแง่ลบต่อประเทศไทยของเรา แต่ในครั้งนี้ เราจะมาพูดถึงข้อเสียของประเทศไทยในมุมมองของเพื่อนบ้านอาเซียนกันบ้าง และขอเตือนก่อนว่า โปรดใช้เหตุผลและวิจารณญาณอย่างสูงด้วยนะครับ
5
โดยเพื่อนบ้านอาเซียนของไทยส่วนใหญ่ มักจะมองว่าคนไทยเป็นคนที่หยิ่งและหยาบคาย แน่นอนว่าในมุมของคนไทยด้วยกัน มักจะมองประเทศที่เหนือกว่าเราอย่างพวกฝรั่งตะวันตก ญี่ปุ่น และเกาหลีในเชิงบวก แต่คนไทยบางส่วนกลับมองกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนในทิศทางที่ต่างกันไป โดยมองว่าชาวเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา เป็นเพียงแค่ชนชั้นแรงงานในบ้านเราเท่านั้น
1
เหนือสิ่งอื่นใดเลย หากมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ บรรพบุรุษของคนไทยเคยไปรุกรานประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชา พร้อมกับกวาดต้อนทรัพยสินมีค่าและผู้คนกลับมา จนเป็นเหตุให้ในปัจจุบัน มีการอ้างกรรมสิทธิ์ในภาคอีสานตอนบนไทยจากคนลาวว่านี่คือดินแดนของพวกเขาที่ถูกคนไทยยึดครองไป เช่นเดียวกับพื้นที่บางส่วนทางภาคอีสานตอนใต้ ที่ชาวกัมพูชาอ้างว่าดินแดนแถบนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเขมร และผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบอีสานใต้ ทุกคนล้วนมีสายเลือดของชาวเขมรทั้งหมด ซึ่งถ้าใครที่เคยติดตามข่าวบนหน้าสื่อโทรทัศน์และสื่อโซเชียล ก็น่าจะเคยเห็นข่าวที่ชาวกัมพูชาอ้างว่า นักแสดงและศิลปินชื่อดังของไทยที่มีภูมิลำเนาในแถบนี้ ล้วนมีสายเลือดเขมรแทบทั้งสิ้น
11
ไม่เพียงเท่านี้ ชาวกัมพูชายังมองว่า บรรพบุรุษของคนไทยแท้จริงแล้วอพยพมาจากทางตอนใต้แถบมณฑลยูนนานของประเทศจีน ที่ได้เข้ามารุกรานดินแดนของจักรวรรดิเขมร พร้อมกับขโมยดินแดนและกวาดต้อนผู้คนไปจนหมด และชาวกัมพูชามองว่า ทุกอย่างของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นดินแดน ผู้คน หรือวัฒนธรรม ล้วนเป็นของชาวกัมพูชาที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของเดิมแทบทั้งสิ้น เลยทำให้คนไทยมองว่าชาวกัมพูชาเป็นพวกชอบเคลม ในขณะที่ชาวกัมพูชาก็มองว่าตนเองเป็นเจ้าของอู่อารยธรรมทั้งหมดในดินแดนแถบนี้ และตนเองมีสิทธิโดยชอบธรรมทุกอย่าง
5
เชื่อหรือไม่ว่านี่คือชุดประจำชาติของกัมพูชาในปัจจุบัน?
โดยประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างกัมพูชา ได้เคยนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ความขัดแย้งระหว่าง กรุงศรีอยุธยาและกรุงศรียโสธรปุระ ในปี ค.ศ.1353 ซึ่งถ้าหากรับชมกันดี ๆ จะพบว่ากระบวนการสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์เรื่องบางระจันของไทยเป็นอย่างมาก เพียงแต่ตัวร้ายในเรื่องนี้ไม่ใช่เมียนมาร์ และเป็นชาวสยามอย่างพวกเรานั่นเอง ซึ่งต้องบอกว่ามุมมองของชาวกัมพูชาที่มีต่อไทยในหนังประวัติศาสตร์ไม่ต่างจากมุมมองของคนไทยที่มีต่อชาวเมียนมาร์ในช่วงสงครามเสียกรุงทั้งสองครั้งเลยแม้แต่น้อย
4
คลิปตัวอย่างดูด้านล่างครับ
1
'เปรี๊ยะบาทลำพงเรียเจีย' หรือ 'พระบาทลำพงศ์ราชา' ภาพยนตร์ของกัมพูชา ที่ว่าด้วยเหตุการณ์รุกรานของอยุธยาช่วงต้นราชวงศ์อู่ทองต่อกรุงศรียโสธรปุระ ราชธานีของอาณาจักรพระนครของเขมร ที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของฝ่ายเขมร
ขณะเดียวกันทางพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ก็มีประเด็นความขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติและศาสนา ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม และมีกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนสามจังหวัดทางภาคใต้ออกมาเป็นรัฐอิสระไม่ขึ้นตรงต่อประเทศไทยอีกต่อไป
1
ในขณะที่มุมมองของคนไทยต่อชาวเมียนมาร์ คนไทยได้รับการปลูกฝังจากหนังสือเรียนในประวัติศาสตร์ว่า ชาวเมียนมาร์เป็นผู้เผาทำลายกรุงศรีอยุธยา และสร้างภาพจำว่าชาวเมียนมาร์เป็นผู้ร้ายตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของคนไทย แต่อย่างไรเสีย ในปัจจุบันทัศนคติของคนไทยที่มีต่อชาวเมียนมาร์ได้พัฒนาขึ้นจากเดิม และยอมรับในสิ่งที่ไม่สามารถแก้ไขได้ในประวัติศาสตร์ แต่ถึงอย่างไร ชาวเมียนมาร์ก็มักถูกคนไทยมองว่าด้อยกว่าตนอยู่ดี
เมียนมาร์ ตัวร้ายตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของชาติไทย
ส่วนในมุมมองของชาวเวียดนาม พวกเขามีความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน บางส่วนชื่นชอบประเทศไทย และมองว่าประเทศไทยเป็นมาตรฐานที่พวกเขาจำเป็นต้องก้าวข้ามไปให้ได้ ถ้าหากหวังที่จะพัฒนาประเทศขึ้นไปในระดับเดียวกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เรียกได้ว่าชาวเวียดนามนำไทยมาเป็นบรรทัดฐานในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ และกีฬา โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอล ที่กล่าวได้ว่าเมื่อไรก็ตามที่ทีมชาติเวียดนามพบกับทีมชาติไทยนั้นเปรียบเสมือนบิ๊กแมตซ์แห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว
2
นอกจากนี้ ชาวเวียดนามบางส่วนยังมองว่า สาเหตุที่ประเทศไทยเจริญกว่าเวียดนาม เพราะประเทศไทยไม่ได้เกิดสงครามกลางเมืองเหมือนเวียดนาม ที่ต้องทำสงครามสู้รบกับชาติมหาอำนาจอย่างญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สหรัฐฯ และต่อสู้กับชาวเวียดนามด้วยกัน จนทำให้ประเทศบอบช้ำจากไฟสงครามยาวนานหลายสิบปี ด้วยเหตุนี้เองเลยทำให้ประเทศไทยเจริญกว่าเวียดนาม และชาวเวียดนามเชื่อว่าอีกไม่นาน ประเทศเวียดนามจะต้องเจริญกว่าประเทศไทยอย่างแน่นอน ถ้าหากประเทศไทยยังมีปัญหาการเมืองวุ่นวายในขณะนี้
1
ทีมฟุตบอลไทย - เวียดนาม ศึกแห่งศักดิ์ศรีความเป็นเบอร์หนึ่งในชาติอาเซียน
เหนือสิ่งอื่นใด ยังมีความเห็นจากชาวต่างชาติ ที่มองว่าคนไทยยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติที่นำเงินมาฝากในประเทศ แต่พวกเขาไม่ชอบชาวต่างชาติที่คิดจะอยู่อาศัยที่นี่ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยถือว่าเป็นข้อจำกัดของชาวต่างชาติ มีชาวต่างชาติหลายคนที่เกษียณตัวเอง เพื่อหวังมาใช้ชีวิตในประเทศไทยเลยตัดสินใจแต่งงานกับภรรยาชาวไทย เพื่อใช้สิทธิของภรรยาในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ จนทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง เพราะการจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ต้องใช้ชื่อของภรรยา และมีผู้หญิงไทยบางส่วนที่ตัดสินใจขอหย่ากับสามีชาวต่างชาติในอีกสองสามปีต่อมา เพื่อหวังครอบครองทรัพยสินที่ได้มาจากเงินของสามีชาวต่างชาติเป็นของตัวเองเพียงผู้เดียว
แน่นอนว่าทุกประเทศย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เช่นเดียวกับประเทศไทยของเรา มันจะเป็นไปได้หรือไม่ที่พวกเราจะทำให้ประเทศแห่งนี้ดีขึ้นกว่าเดิม?
ข้อมูลจาก : RANKTOPTEN.COM, CHEATSHEET.COM, QUORA.COM, WIKIPEDIA.COM
โฆษณา