“Alien World” โลกต่างดาว
แนะนำสาระคดีน่าสนใจจาก Netflix
“โลก” หนึ่งในดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตนับล้านสายพันธุ์อาศัยอยู่ร่วมกัน จิตนาการถึงอวกาศอันไร้ขอบเขตที่ประกอบไปด้วยระบบดวงดาวอันมากมายจนไม่สามารถนับได้เป็นล้าน ๆ ดวง ด้วยจำนวนดาวเคราะห์ที่มหาศาลขนาดนี้ จึงทำให้อดจินตนาการและคาดหวังไม่ได้ว่าจะต้องมีสักดาวเคราะห์หนึ่งที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตอยู่บ้าง ถึงแม้ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถค้นพบสิ่งมีชีวิตนอกโลกได้ก็ตาม
อย่างไรก็ตามทาง Netflix ได้นำเสนอแนวคิดและทฤษฎีที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ร่วมกันวิเคราะห์และสันนิษฐานถึงความเป็นไปได้ของสิ่งมีชีวิตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากโลกของเรา โดยใช้บรรทัดฐานจากโครงสร้างสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศภายในพื้นที่ต่าง ๆ ในโลกของเราเป็นหลัก ผนวกกับการสังเกตการณ์สภาพแวดล้อมของดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะร่วมด้วย
ทาง Netflix ได้จำลองโลกต่างดาวออกเป็น 4 ดวง โดยแบ่งเป็นตอน ๆ ได้แก่ Atlas Janus Eden และ Terra
ตอนที่ 1 แอตลาส (Atlas)
ดาวเคราะห์ที่มีแรงโน้มถ่วงมากกว่าโลกเป็น 2 เท่า และมีชั้นบรรยากาศที่หนาแน่นกว่าโลก สภาพแวดล้อมเช่นนี้นักวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตในแอตลาสอาจจะอาศัยอยู่ในชั้นบรรยากาศหรือบนท้องฟ้าได้ พืชชนิดต่าง ๆ ดำรงชีวิตอยู่บนพื้นดินขยายพันธุ์โดยการปล่อยเมล็ดหรือผลของมันให้ล่องลอยออกไปในชั้นบรรยากาศซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นเลิศสำหรับเหล่าสิ่งมีชีวิตกินพืช “สกายเกรเซอร์” (Sky grazer) สิ่งมีชีวิตกินพืชรูปร่างคล้ายสัตว์น้ำทะเลลึก ที่ตั้งแต่พวกมันได้ลืมตาดูโลกมา พวกมันก็ไม่เคยลงมาแตะพื้นดินอีกเลย สกายเกรเซอร์สามารถใช้ตลอดทั้งชีวิตของมันอยู่บนท้องฟ้าได้ โดยอาศัยครีบที่คล้ายปีกของมันทั้ง 6 ครีบ ควบคุมการบินอยู่บนท้องฟ้า เก็บผลไม้ที่ล่องลอยอยู่บนอากาศกินเป็นอาหาร
สกายเกรเซอร์
ในทางกลับกันพวกสกายเกรเซอร์อาจตกเป็นเหยื่อได้หากไม่สังเกตบนหัวของพวกมันให้ดี นักล่ากับเหยื่อเป็นของคู่กัน นักล่าในแอตลาสมีลักษณะคล้ายแมงมุมที่สามารถทำให้ตัวเองลอยได้เหนือพวกสกายเกรเซอร์ เมื่อพวกมันเล็งเป้าหมายแล้วพวกมันจะทำการดิ่งลงมาด้วยความเร็วสูงผนวกกับแรงโน้มถ่วงอันหนักหน่วงทำให้เหล่านักล่าสามารถทำให้ลูก ๆ ของสกายเกรเซอร์ตกลงพื้นได้เลย หากเป็นสกายเกรเซอร์ที่ตัวเต็มวัยเหล่านักล่าจะเลือกใช้วิธีเกาะติดกับสกายร่างกายไว้และเริ่มสูบของเหลวจากตัวเหยื่อจนอิ่มและกระโดดออกจากตัวสกายเกรเซอร์ไป
ตอนที่ 2 เจนัส (Janus)
ดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่เราเคยรู้จักมามีสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิต สภาพแวดล้อมที่สุดโต่ง นักชีวดาราศาสตร์ เคนน์ดา ลินช์ (Kenida Lynch) ได้เข้าสำรวจ “แอ่งดานาคิล” (The Dnakil Depression) หรือที่รู้จักว่าประตูแห่งนรกในประเทศเอธิโอเปีย เป็นพื้นที่ที่ร้อนที่สุดบนโลก และมีความเป็นกรดสูง ถึงอย่างนั้นการสำรวจชี้เห็นว่ามีสิ่งมีชีวิตเซลเดียวที่มี DNA สามารถอาศัยอยู่ได้ ดังนั้นทฤษดีนี้จึงสร้างความเป็นไปได้หากค้นพบส่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ที่มีสภาพยากต่อการดำรงชีวิต
เจนัส ดาวเคราะห์ที่มีสภาพอากาศที่สุดโต่งจากการโครจรรอบดาวฤกษ์ในระยะห่างที่ใกล้มาก ๆ ด้วยแรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์ทำให้เจนัสไม่สามารถหมุนรอบตัวเองได้ สภาพภูมิประเทศที่ตามมาก็คือด้าหนึ่งของดาวเคราะห์จะหันหน้าเข้าหาแสงและได้รับความร้อนสูงอยู่ตลอดเวลา กลับกันในอีกซีกหนึ่งของดาวเคราะห์ที่ไม่เคยได้สัมผัสแสงแดดเลยจึงกลายเป็นฤดูหนาวที่ไม่มีวันจบสิ้น
เนื่องจากสภาพอาการศที่แต่งต่างกันสุดขั้ว แหล่งที่อยู่ที่เหมาะสมที่สุดของสิ่งมีชีวิตเห็นจะเป็นจุดตรงกลางระหว่างความร้อนและความเย็น มีสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาดขนาดใหญ่พอ ๆ กับแมว มี 5 ขา สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ พวกมันคือ “เพนทาพ็อด” (Pentapod)
แพนทาพ็อด
เพนทาพ็อดมีลักษณะร่างกายที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อม ในพื้นที่ที่ร้อนจัดพวกมันจะมีรูปร่างที่ผอม ขายาว รวดเร็ว และสามารถระบายความร้อนได้ดี ในทางตรงกันข้ามพื้นที่ที่หนาวเหน็บเพนทาพ็อดจะมีรูปร่างที่อ้วน ขนหนา และขาที่สั้นกว่า เพนทาพ็อดเป็นสัวต์สองเพศ การสืบพันธุ์ของพวกมันสามารถได้ด้วยตัวคนเดียว พวกมันจะปีนขึ้นไปบนที่สูงในที่ที่มีลมร้อนและลมหนาวมาบรรจบกันและปล่อยตัวอ่อนแพนทาพ็อดให้ออกไปล่องลอยไปตามกระแสลม
ตอนที่ 3 อีเด็น (Eden)
พลังงานเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดกับโลกและดาวเคราะห์ทุก ๆ ดวง การดำรงชีวิตบนโลก “อ็อกซิเจน” เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยอ็อกซิเจนบนโลกถูกผลิตมาจากพืชที่สังเคราะห์แสงแดดจากดวงอาทิตย์ ดาวฤกษ์เพียงดวงเดียวของเรา แต่ลองจินตนาการถึงดาวเคราะห์ที่โครจรรอบดาวฤกษ์ถึง 2 ดวง สภาพแวดล้อมจะสามารถพัฒนาได้ขนาดไหน
“อีเด็น” ดาวเคราะห์ที่โครจรรอบดาวกฤษ์ของมันถึง 2 ดวง มวลพลังงานจากดาวฤกษ์แผ่ออกมายังอีเด็น ส่งผลให้อีเด็นสามารถสร้างอ็อกซิเจนในชั้นบรรยากาศได้อย่างมหาศาลและมากกว่าโลกเป็นอย่างมาก สภาพแวดล้อมเช่นนี้ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตเป็นอย่างมากที่สุด หากเปรียบเทียบกับป่าบนโลกที่ยิ่งมีความอุดมสมบูรณ์ที่สูงมากเท่าไหร่ ลักษณะและชนิดของสิ่งมีชีวิตจะยิ่งมากและหลากหลายมากขึ้นเท่านั้น และสิ่งที่ตามมาของความอุดมสมบูรณ์คือการแข่งขันในการดำรงชีวิตและการเอาชีวิตรอดของผู้ล่าและผู้ถูกล่า Netflix ได้ยกตัวอย่างสิ่งมีชีวิตขึ้นมา 2 ชนิดได้แก่ผู้ถูกล่าที่กินเชื้อราบนพื้นดินเป็นอาหารคือ ไกรเซอร์ และนักล่าที่หน้าตาคล้ายลิง 4 แขนอาศัยอยู่บนต้นไม้
ความอุดมสมบูรณ์ยังก่อให้เกิดการวิวัฒนาการที่สุดโต่งหรือแปลกตาออกไปจากบนโลก เช่น การสืบพันธุ์ของเหล่าเกรเซอร์ผู้ถูกล่า เนื่องจากการใช้ชีวิตที่ต้องระแวดระวังเหล่านักล่าตลอดเวลาทำให้พวกมันไม่มีเวลาในการจับคู่สืบพันธุ์เอง พวกมันวิวัฒนาการไข่ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับไส้เดือนที่มีความสามารถจับคู่เองได้ภายนอก โดยที่พวกเกรเซอร์ไม่จำเป็นต้องจับคู่กันเอง มีหน้าที่เพียงผลิตไข่ตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากไข่ได้เจอคู่ผสมแล้วพวกมันจะกลายเป็นตัวอ่อนและสร้างรังไหมยึดติดให้ลอยตัวจากพื้นดิน เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกล่า อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าอยู่ในป่าแล้ว ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอย่างแท้จริง
ตอนที่ 4 เทอร์รา (Terra)
จินตนาการถึงอารยธรรมต่างดาวที่มีความล้ำหน้าด้านเทคโนโลยีมากกว่ามนุษย์ในตอนนี้ เทอร์ราเป็นดาวเคราะห์ที่ได้ดำรงอยู่มาก่อนหน้าเราหลายต่อหลายยุคสมัย หากเทียบกับอารยธรรมมนุษย์ที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นมาได้ไม่กี่ล้านปี เทอร์ราได้พัฒนาให้ตนเองไม่แก่ ไม่ตาย โดยคงเหลือไว้แค่เซลล์ประสาทและละทิ้งร่างกายไปนานแล้ว การดำรงอยู่ได้ของเหล่าเทอร์ราต้องอาศัยหุ่นยนต์ที่คอยทำงานแทนในส่วนต่าง ๆ ช่วยเหลือ สร้างสิ่งก่อสร้าง และในทุก ๆ เรื่อง
เทอร์ราเป็นอารยธรรมที่สามารถบริหารพลังงานจากในทุก ๆ ภาคส่วนได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ถึงกระนั้นการมีอยู่ของอารยธรรมที่เนิ่นนานเป็นการผลานทรัพยากรธรรมชาติของดาวตนเองไปจนแทบจะหมดแล้ว อายุไขของดาวก็ใกล้ถึงจุดจบเข้ามาทุกที พร้อมทั้งดาวฤกษ์ที่แก่ลง ในทุก ๆ วันได้ปล่อยอนุภาคเผาไหม้และความร้อนที่มากขึ้นและส่งผลกระทบต่อเทอร์รามากขึ้นเรื่อย ๆ เทอร์ราและอารยธรรมที่สั่งสมมาจึงจำเป็นต้องหาบ้านใหม่หรือดาวเคราะห์ดวงใหม่ที่เหมาะสมโดยเริ่มปรับสภาพดาวเคราะห์ให้เหมาะสำหรับพวกเขาเสียก่อน และแน่นอนการสร้างอารยธรรมทั้งหมดนี้เป็นความรับผิดชอบของหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ที่เหล่าเทอร์ราได้พัฒนาขึ้นมา
กล่องบรรจุเซลประสาท
โลกต่างดาวทั้ง 4 ดวงเหล่านี้ต่างมีความแตกต่างและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง รูปแบบโครงสร้างสิ่งมีชีวิตเป็นการคาดคะเนจากการวิเคราะห์สังเกตสภาพแวดล้อมภายนอกโลกและภายในโลกของเราเองผนวกรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นผลงานอันสุดแสนวิเศษนี้ขึ้นมา ถึงแม่ว่าในตอนนี้มนุษยชาติจะยังไม่ค้นพบดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตหรืออารยธรรมต่างดาวจริง ๆ ก็ตาม อย่างไรเสียผมเชื่อว่าในหมู่ดาวเคราะห์นับล้าน ๆ ดวงเหล่านี้หากเราไม่ย่อท้อและไม่หยุดค้นคว้าในการสำรวจ สักวันหนึ่งมนุษย์เราจะค้นพบมันในที่สุด จนกว่าจะถึงวันนั้นโลกของเราและมนุษย์ชาติต้องไม่ละทิ้ง “จินตนาการ” อันเป็นเอกลักษณ์ในตัวตนของเราไป
อย่าลืมตามไปดูสาระคดีเต็มเรื่องได้ใน Netflix กันน้า
ขอขอบคุณสาระคดีคุณภาพ เรื่อง “Alien World” จากทาง Netflix นะครับ
รูปภาพจาก Netflix
ตัวอย่างสาระคดี "Alien World"
Written by Tan WN.
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
