10 ต.ค. 2021 เวลา 10:02 • ท่องเที่ยว
ในยุคโควิด หลังจากคลายล็อคดาวน์มาบ้างแล้ว หลายคนออกไปช็อปปิ้ง นั่งกินข้าวตามร้านอาหาร ดูหนัง หรือไปฟังเพลงร้านนั่งชิล
ส่วนพยาบาลอย่างเรา ตัดสินใจลาออกมาใช้ชีวิตอย่างที่อยากใช้หลังจากทำงานมายาวๆ 5 ปี ต่อใบประกอบครั้งที่ 1 เสร็จใหม่ๆ ในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่เราทำงานกับชีวิตมนุษย์มาสักพักแล้ว ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
'ชีวิตคนเรามันสั้นนะ อยากทำอะไรให้รีบทำ'​
'เรารู้วันเกิด แต่ไม่มีใครสักคนบนโลกนี้ที่รู้วันตาย'​มันเหมือนสัจจธรรมชีวิต สิ่งที่เรายังไม่เคยรู้สิ่งที่เราไม่เคยเห็น ถ้าคิดแล้ว อยากทำใฟ้ทำเลย อย่ามัวแต่รอ รอมีแฟน รอมีลูก รอรวยก่อน รอถูกหวยรางวัลที่ 1 หรือรออะไรๆก็ตามแต่ ทุกอย่างเราคิดอยู่เสมอว่ามันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ เรายึดแค่ว่า อันไหนที่มีความสุขและตอบโจทย์ชีวิตได้เราก็จะทำ เพราะเมื่อเรามาถึงจุดหนึ่ง เราคิดแล้วว่า
'เงิน'​ 💸ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต เราต้องการแค่ความสุขเล็กๆน้อยๆที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวัน
แต่เป็น'เวลา' 🕒 ต่างหากที่ถ้าหากปล่อยผ่านไปมันไม่สามารถย้อนคืนมาใหม่เหมือน time machine ได้ เราเลยอยากใช้ชีวิตอยู่กับคนที่เรารักและรักเรา ได้มีเวลาดูแลครอบครัว ได้อยู่ใกล้ๆ ได้หนีเที่ยวให้โดนด่าเป็นพักๆ เราเสพติดความรู้สึกแบบนี้มากกว่า
เริ่มออกทริปแรกกันเลย ⛱️
ทริปนี้เราไปกัน 3 คนกับรถมอเตอร์ไซต์ 2 คัน คือ GPX drone และ Z300 ขับจากเชียงใหม่-บ้านเพ ระยอง แล้วต่อด้วย บ้านเพ-แหลมบาลีฮาย ด้วยรวมระยะทางไป-กลับทั้งหมด 1,850 กิโลเมตร ด้วยงบราวๆคนละ 4,000 บาท แต่เจออากาศ 3 ฤดูต่อวันไปเลย ออกเดินทางตั้งแต่ตี 4.30 น. ถึงบ้านเพ 22.30 น. สุดจริงๆ
ออกเดินทางตี 4.30 ก็มืดดิค้าบ จะเหลือเหรอ แต่ไปเริ่มสว่างและมีหมอกตอนลงดอยมาแล้วนะ ปล.หมอกในรูปไม่เท่าของจริงเพราะมองด้วยตาหมอกหนามาก แทบไม่เห็นทางในระยะ 100 เมตร
ขับรถไปเรื่อยๆ แวะเติมน้ำมันบ้าง แวะกินข้าวบ้าง เถลไถลนิดหน่อย สำคัญคือหลงที่ฉะเชิงเทราประมาน 3 ชั่วโมง ก่อนเข้าบ้านเพ ระยอง
บรรยากาศระหว่างทางคือมันสวยมากจริงๆ ช่วงแรกเจอภูเขา ช่วงหลังต้องได้เจอทะเล
ระหว่างทางเข้าฉะเชิงเทราคือเจอฝนจ้า ไม่รอด
เจอฝนแต่ยังยิ้มได้น๊า😊 เลยตัดสินใจรีบใส่เสื้อกันฝนกันก่อนเจอของจริง เพราะทีมเราสู้ไม่ถอย
ถึงที่พักที่ De' White Hotel อย่างปลอดภัยแม้จะดึกมากแถมยังเคอร์ฟิวอยู่ ไม่มีร้านไหนเปิดเลย แต่โชคดีมากยังมีร้านขายของชำพอให้เราได้สูบมาม่าคนละถ้วยพอประทังความหิวได้บ้าง แล้วหลังจากนั้นก้เอาผ้ามากระจายตากเพราะกระเป๋าเปียกรวมถึงเสื้อผ่าในนั่นก็เปียกด้วย ตามภาพล่างนี้เลย
หมดกันเสื้อผ้าที่เตรียมมาอย่างดี
เช้าวันต่อมาเลยได้ไปตามหาร้านเป้าหมายนั่นก็คือ "ร้านป้าที่ตลาดสดทะเลบ้านเพ" ตั้งใจเอาไว้ว่าจะซื้อแบบเทกระจาดให้สมกับที่ขับรถมาจากเชียงใหม่เลย ได้มาแบบจุกๆ กินกัน 3 คนไม่หมดด้วยซ้ำ ค่าเสียหายทั้งหมด คนละ 280 บาทเพราะใช้คนละครึ่ง 👍
ปูตัวจริงขาดใหญ่กว่ามืออีกนะ แนะนำใช้ 2 มือยังเกือบล้นเลย
หลังจากนั้นแพ็คของเดินทางต่อ ทางโรงแรมใจดีมากหาถุงคลุมให้กระเป๋าเดินทางของเรา เนื่องจากเห็นสภาพเรา 3 คนเมื่อคืนเหมือนลูกหมาตกน้ำ พนักงานใจดี เอาใจใส่ บริการดีมากๆ ให้คะแนนเกิน 100 จริงๆ แถมค่าที่พักยังราคาถูก สะอาด ปลอดภัย ให้ 10/10 จริงๆ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ ค่าที่พักคนละ 287/คืน เอง 💕
เตรียมออกเดินทางไปเกาะล้านต่อ
ออกเดินทางประมาน 13.30 น. ไปถึงเกาะล้านประมาณ บ่าย 3 โมงกว่าๆ ไม่ทันเรือรอบ 15.00 น. จ้า มีอีกรอบคือ 18.00 น. เลยตัดสินใจไป speed boat กันดีกว่า ไวกว่า ได้ลดระยะเวลาเดินทางแถมได้เวลาพักผ่อนเพิ่มขึ้น 150/เที่ยว ถือว่าใช้ได้นะ ไปถึงคือ สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือการเช่ามอเตอร์ไซต์ ตกวันละ 300/คัน เราเช่า 2 คัน 2 วัน ให้ในราคา 1,000 บาท แต่ขับไปไหนก็ได้รอบเกาะ เราว่ามันคุ้มมาก มาดูวิวทะเลกัน และ sea view หลังห้องพักเรา ในราคา 420/คน/คืน
บรรยากาศกลางวันและกลางคืน ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้สบายใจ ถ้าชอบนั่งชิลฟังเพลงเบาๆแบบเราก็ซื้ออะไรมากินที่นี่ได้นะ ประหยัดงบ สบายกระเป๋า
คืนแรกเราได้ไปตกหมึกกลางทะเล 400/คน ได้กินหมึกสดๆซาซิมิ ตามเป้าหมายของชายคนนึงในกลุ่มถือว่าฟินแล้ว หมึกตัวเท่าแขนเลยจิ้มน้ำจิ้มซีฟู๊ดเบาๆ ชิวไปอีก มือใหม่กลางทะเล เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาฝากนะ
วันที่ 2 ขับรถเล่นทั่วเกาะ วันนี้โชคดีแดดแรงทั้งวัน ไม่มีฝนเลยเที่ยวได้เต็มที่ แวะลงเล่นน้ำทะเลฟินๆ อย่าลืมพกครีมกันแดดมาด้วยนะ เพราะแดดที่นี่ร้อนแรงมาก ตกเย็นมาพากันกินบุฟเฟ่ทะเล 299/คน อิ่มพุงแตกไปเลย
วันที่ 3 ตื่นสายหน่อย ทุกคนคงเหนื่อยล้าจากการขับรถและเที่ยวมาตลอดทั้ง 4 วัน เตรียมเก็บของใส่กระเป๋าถึงเวลากลับเชียงใหม่แล้ว แต่ออกจากแหลมบาลีฮายคือ 13.30 น. ถ้าขับยาวกลับเชียงใหม่เลยต้องถึงกลางดึกหรือเช้ามืดแน่ๆเลยแวะพักก่อนครึ่งทางที่ B2 Nakonsawan premier hotel 1 คืน
ขานั่ง speed boat กลับคือ โทรคุยกับทางเรือบอกให้สังเกตหมายเลขเรือ 005 และปิก้าจูให้ดี เราตั้งใจมองมาก เห็นแค่ 005 ข้างเรือ น่าจะคันนี้แน่นอน แล้วเราก็มองหาปิกาจู โอเครู้เรื่อง
หลังจากนั้นก็ check out ราวๆเที่ยง ออกเดินทางกลับเชียงใหม่กัน ถึงบ้านประมาณ 19.00 น. โดยปลอดภัย
ปล.เวลาเดินทางขึ้นกับความเร็วของรถ การแวะพักของแต่ละบุคคลด้วยนะจ๊ะ ของเราก็ค่อนข้างแวะเยอะ พักบ้าง นั่งกินข้าวเม้ามอยอีกครึ่งชั่วโมง​แต่ก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพทุกท่าน
แวะพักท้องสักหน่อยละกัน ณ ฉะเชิงเทรา
แล้วพบกันใหม่ trip หน้าเมื่อมีเวลาและมีเงินนะจ้า 💙
ตามไปดูคลิป บรรยากาศระหว่างทางบางส่วนได้ใน https://vt.tiktok.com/ZSe8bRSBP/
โฆษณา