10 ต.ค. 2021 เวลา 15:20 • ประวัติศาสตร์
• คอมมิวนิสต์แบบโจเซฟ สตาลิน
ักับคอมมิวนิสต์แบบเหมาเจ๋อตง ต่างกันอย่างไร ?
หลังจากที่ในครั้งที่แล้ว แอดมินได้เคยนำเสนอเรื่องราวของความแตกต่าง ระหว่างแนวคิดคอมมิวนิสต์ของ คาร์ล มาร์กซ์ (Marxism) กับแนวคิดคอมมิวนิสต์ของ วลาดิเมียร์ เลนิน (Leninism) กันไปแล้ว
1
สำหรับในบทความนี้ แอดมินก็จะขอนำเสนอเรื่องราวของแนวคิดคอมมิวนิสต์ ของผู้นำคนสำคัญในประวัติศาสตร์อย่าง โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) แห่งสหภาพโซเวียต และเหมาเจ๋อตง (Mao Zedong) แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าแนวคิดคอมมิวนิสต์ของทั้ง 2 คนนี้ มีความแตกต่างหรือมีลักษณะโดยทั่วไปอย่างไรบ้าง
โดยเรามาเริ่มต้นที่แนวคิดคอมมิวนิสต์ของโจเซฟ สตาลิน กันก่อน ซึ่งแนวคิดนี้ถูกเรียกว่า "ลัทธิสตาลิน" (Stalinism) โจเซฟ สตาลิน ได้ใช้แนวคิดนี้ ในช่วงที่เขาปกครองสหภาพโซเวียต ในช่วงปี 1922 จนถึง 1953
1
โจเซฟ สตาลิน ได้อ้างว่าลัทธิคอมมิวนิสต์ของเขานั้น ได้รับต้นแบบมาจากลัทธิคอมมิวนิสต์ของเลนิน (Leninism) ซึ่งได้รับต้นแบบมาจากลัทธิมาร์กซ์ (Marxism) อีกทอดนึง
ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ลัทธิสตาลินแทบจะไม่มีส่วนที่เหมือนกับแนวคิดคอมมิวนิสต์ที่แท้จริงอยู่เลย
1
นั่นก็เพราะ โจเซฟ สตาลิน ได้ปกครองสหภาพโซเวียตโดยการเป็นเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จ (Totalitarianism) มีความเป็นจักรวรรดินิยม (Imperialism) มีการเสริมสร้างอำนาจของตนเองให้ยิ่งใหญ่ เชิดชูบูชาผู้นำ กำจัดศัตรูทางการเมืองและผู้ที่เห็นต่างเป็นจำนวนมาก
1
ด้วยเหตุนี้ จึงเรียกได้ว่าลัทธิสตาลินแทบจะไม่หลงเหลือแนวคิดของความเป็นคอมมิวนิสต์อีกต่อไป และได้กลายสภาพเป็นเผด็จการแบบฟาสซิสต์ (Fascism) ที่อ้างตัวว่าเป็นคอมมิวนิสต์แทน
ส่วนแนวคิดคอมมิวนิสต์ของเหมาเจ๋อตง ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือที่เรียกว่า "ลัทธิเหมา" (Maoism) นั้น ก็มีความแตกต่างจากลัทธิคอมมิวนิสต์แบบดั้งเดิมเช่นกัน
3
นั่นก็เพราะ เหมาเจ๋อตงได้นำเอาแนวคิดคอมมิวนิสต์ของเขา มาปรับใช้กับประเทศจีน ซึ่งในช่วงเวลานั้น สังคมของจีนยังอยู่ในสภาวะของความเป็นกสิกรรม และพึ่งพาการเกษตรอยู่
1
ซึ่งนี้ก็ถือว่า มีความแตกต่างจากลัทธิคอมมิวนิสต์แบบดั้งเดิมของ คาร์ล มาร์กซ์ ซึ่งเขาได้เคยอธิบายเกี่ยวกับเรื่องวิวัฒนาการของมนุษย์ไว้ว่า วิวัฒนาการของมนุษย์ ประกอบไปด้วย 5 ขั้นหลัก คือ สังคมแบบหาของป่าล่าสัตว์, สังคมแบบกสิกรรม, สังคมแบบทุนนิยม, สังคมแบบสังคมนิยม และขั้นสุดท้ายก็คือ สังคมที่เป็นคอมมิวนิสต์
3
มาร์กซ์ได้อธิบายว่า การที่สังคมจะเข้าสู่ความเป็นคอมมิวนิสต์ได้นั้น มนุษย์จะต้องอยู่ในสภาวะที่สังคมกลายเป็นทุนนิยมอย่างเต็มขั้นเสียก่อน
1
ดังนั้นการที่เหมาเจ๋อตงนำเอาคอมมิวนิสต์มาปรับใช้กับจีนที่ยังคงเป็นสังคมแบบกสิกรรมนี้ จึงเป็นเป็นการลัดขั้นตอนตามแนวคิดของมาร์กซ์
1
ในสมัยที่เหมาเจ๋อตงครองอำนาจ มีหลาย ๆ นโยบายที่มาจากลัทธิของเขา ที่ประสบความสำเร็จอยู่บ้าง แต่ก็มีอีกหลายนโยบายที่ประสบความล้มเหลวไม่เป็นท่า บางนโยบายนำไปสู่ความรุนแรงและกลียุคภายในประเทศ ตัวอย่างสำคัญ คือ การปฏิวัติวัฒนธรรม (Culture Revolution) ในช่วงปี 1966 จนถึง 1976
1
ลัทธิเหมายังมีแนวคิดเกี่ยวกับการปิดประเทศ ไม่รับความช่วยเหลือจากต่างชาติ เน้นการพัฒนาด้านเกษตรกรรม และต่อต้านทุนนิยมอย่างเต็มขั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประเทศจีนในยุคของเหมาเจ๋อตง ก็ตกอยู่ในสภาวะของประเทศด้อยพัฒนาเท่านั้น
2
หลังจากที่เหมาเจ๋อตงเสียชีวิตลงในปี 1976 หลังจากนั้นมา ผู้นำของจีนรุ่นต่อมา รวมไปถึงพรรคคอมมิวนิสต์แห่งจีน ก็เริ่มที่จะถอยห่างจากแนวคิดของลัทธิเหมา และเริ่มทำการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่
3
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประเทศติดต่อกับต่างชาติ และที่สำคัญก็คือ การนำเอาทุนนิยม (Capitalism) ที่ถือว่าเป็นคู่ตรงข้ามของคอมมิวนิสต์ มาปรับใช้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ
และด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ได้ทำให้ในปัจจุบัน ประเทศจีนก็ได้กลายเป็น 1 ในชาติมหาอำนาจของโลก เรียกได้ว่าจีนเป็นคอมมิวนิสต์เพียงแค่ในนามหรือในการปกครองเพียงบางส่วนเท่านั้น ส่วนเศรษฐกิจของจีน ก็ได้กลายเป็นทุนนิยมอย่างเต็มรูปแบบแล้ว
*** Reference
#HistofunDeluxe
โฆษณา