11 ต.ค. 2021 เวลา 13:20 • ประวัติศาสตร์

ภูเก็ต ไข่มุกแห่งอันดามัน

2525-2564/1982-2021
🎉3️⃣9️⃣ปี#เส้นทางช่างศิลป์
ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้
หาดทรายสีทอง สองวีรสตรี
บารมีหลวงพ่อแช่ม
คำขวัญประจำจังหวัดภูเก็ต
ภูเก็ต หรือ 普吉 Pǔ jí โผว กิก ในสำเนียงแต้จิ๋ว มีรากศัพท์มาจากภาษามาเลย์ bukit บูกิต แปลว่าเนินเขา
ภูเก็ต อยู่ในเส้นทางช่างศิลป์ภาคใต้ตอนล่าง ได้มาบ่อยครั้งทั้งในนามช่างศิลป์แอร์โรว์ Arrow ห้วงปี 2527-2529 และไนกี้ Nike 2530-2535 มีร้านค้าและห้างฯให้จัดมากมาย เท่าที่จำได้มี ห้างภูเก็ต ช้อปปิ้งมอลล์ ห้างโอเชี่ยน สาขาในเมืองและป่าตอง และมีโชว์รูมไนกี้ถึง 2 แห่ง ทั้งในตัวเมืองและ จังซีลอน Jungceylon ป่าตอง
ได้มาเยือนภูเก็ตครั้งแรก ในนาม
ช่างศิลป์แอร์โรว์ Arrow
ครั้งนั้นได้รับมอบหมายงานลงเคาน์เตอร์ใหม่ ที่ห้างโอเชี่ยน ภูเก็ต
ห้างโอเชี่ยนในปัจจุบัน กลายเป็น โรบินสัน โอเชี่ยน ที่มาภาพ Google Map
ซึ่งมีการปรับปรุงห้างหลังได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ ผู้เขียนเดินทางโดยลำพัง ขึ้น*รถทัวร์ที่สายใต้เดิม พรานนก แยกไฟฉาย
*รถทัวร์จะอยู่แยกกับรถ บขส.สีส้ม แต่อยู่ใกล้กัน
ภาพปัจจุบันของสถานีขนส่งปรับอากาศสายใต้เดิม แยกไฟฉาย ที่มาภาพ Google Map
รถออก 18.00 น ถึงภูเก็ต 09.00 น ของวันรุ่งขึ้น เรียกได้ว่าลงจากรถแทบจะเดินไม่เป็นเลยทีเดียว เพราะสมัยนั้นรถทัวร์ยังไม่มี v.i.p.หรือ 24 ที่นั่งเหมือนสมัยนี้
การที่ต้องนั่งรถยาวนานถึง 14-15 ชั่วโมง กับรถ ป.1 46 ที่นั่งคือเบาะเอนได้แต่ไม่มาก(เดี๋ยวนี้เอาไว้วิ่งระยะสั้น) ว่าจะทรหดเพียงใด รถทัวร์ไปภูเก็ตสมัยนั้นมีอยู่ 2 บริษัท วิ่งสลับวัน คู่-คี่ คือ ภูเก็ตท่องเที่ยว กับ ภูเก็ตเซ็นทรัลทัวร์ พอขึ้นรถมานั่งตามเลขที่ในตั๋วแล้ว ต้องมาลุ้นกันว่าเพื่อนร่วมทางจะเจอ
  • 1.
    คนรูปร่างใหญ่หรือท้วม(นอกจากเบียดแล้วเวลาหลับยังกรน จนบางครั้งนึกว่ามารถไฟ)
  • 2.
    ครอบครัว พ่อแม่ที่มากับลูกเล็ก(ร้องไห้มาทีไม่ต้องนอนทั้งคัน) หรือเด็กโตขึ้นมาหน่อย จะอยู่ไม่สุกทั้งมือทั้งเท้า ป่ายไปมาทั้งคืน ถ้านั่งติดกันก็จะเจอลูกถีบไรเดอร์คิกเข้าด้านข้าง หรือถ้ามีมานั่งหลัง ก็จะเจอถีบหลังเบาะเราทั้งคืน ประมาณเขานอนแต่หนูไม่ เขาตื่น แต่หนูจะหลับ ตามประสาเด็ก
แต่ก็เริ่มชินเพราะเดินทางบ่อย รถจอดแวะพักทานอาหาร 2 ที่ คือกลางดึก จ.ชุมพร และที่ตะกั่วป่า พังงา ในช่วงเช้ามืด เพราะเป็นรถระยะไกลเกือบพันกิโลเมตร ตอนนั้นรถทัวร์วิ่งเส้นเพชรเกษมสายเก่า เข้าระนองที่แยกปฐมพร ทำให้ระยะทางจาก กรุงเทพ-ภูเก็ต ประมาณ 900 กว่า กม. ถ้าทางสายเหนือหรืออีสาน ระยะทางประมาณ 700 กม. เช่น เชียงใหม่ จะแวะพักทานอาหารแค่ที่เดียว ทางเหนือ นครสวรรค์โบวล์ ทางอิสาน ก็ที่ บขส โคราช
บนรถช่วงเช้ามืดจะมีเสิร์ฟกาแฟรสชาติเปรี้ยวๆให้กระตุ้นความสดชื่นคืนมาจากความเมื่อยล้าของการเดินทาง ถึงท่ารถ บขส ภูเก็ต สายๆราว 09.00 น. ตรงตามกำหนด ผู้เขียนต่อรถสองแถวเข้าพักที่โรงแรมถาวร กลางเมืองภูเก็ต ค่าครองชีพที่นี่สูงสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยว พอๆกับหาดใหญ่
ดีที่มีร้านข้าวแกงใต้ตรงข้ามที่พัก คือโรงแรมถาวร ถนนรัษฎา เป็นที่ฝากท้องชั้นดีที่อร่อยและราคาพอที่เบี้ยเลี้ยงจะรับได้ เบี้ยเลี้ยงตอนอยู่แอร์โรว์ เฉพาะภาคใต้ 230 บ/วัน แยกเป็น ค่าที่พัก 130 บ.อาหาร+เครื่องดื่ม 100 บ.(ภาคอื่น 200 ) สมัยไนกี้ ได้มากขึ้นกว่าเท่าตัว เบี้ยเลี้ยง 250 ค่าที่พัก 500 บาท เท่ากันทั่วประเทศ
โรงแรมถาวร ถนนรัษฎา ในปัจจุบัน ที่มาภาพ Google Map
บิลเปล่าโรงแรมถาวร หรือ ก๊ก จี่ ลีเสีย 國際旅社 Guójì lǚshè แปลว่า โรงแรมนานาชาติ ที่พักทุกครั้งที่มาภูเก็ต ทางโรงแรมจะออกบิลเขียนรายละเอียดค่าที่พักปกติให้แล้ว ทางเราจะขอบิลเปล่าเผื่อบิลจริงหายไว้ด้วย เนื่องจากเวลาเดินสายจัดร้านในแต่ละภาค จะใช้เวลาเกินสัปดาห์ถึงเกือบเดือน
ครั้งแรกที่ได้ยินว่าหัวหน้าจะส่งมาทำงานที่ภูเก็ต ในหัวแว่บแรกนอกจากคิดถึงเกาะสวรรค์แสนหรรษาแล้ว ก็นึกถึง อุ้ย เพื่อนรุ่นพี่ในก้าวแรกของการทำงานบนเส้นทางช่างศิลป์ ที่
ห้างคาเธ่ย์ เยาวราช
ช่วงปลายปี 2525 ถึงไตรมาสแรกของปี 2527
ที่สนิทสนมกัน เพราะอุ้ยเป็นคนภูเก็ต หลังจากผู้เขียนออกจากคาเธ่ย์ มาทำงานโดมอน Domon พักนึง จึงเข้าแอร์โรว์ ในกลางปี 2527 ก็ได้มาพบกับอุ้ยโดยบังเอิญ เพราะอุ้ยก็มาทำงานที่ ไอซีซี(บ.อินเตอร์เนชั่นแนลคอสเมติกส์ จก.ในเครือสหพัฒน์)สมัยนั้นเป็นแหล่งรวมของแบรนด์ชั้นนำมากมายที่
ช่างศิลป์ยุคนั้น
ต่างใฝ่ฝันเข้ามาร่วมงาน
แต่อยู่ เรนฟลาวเวอร์ Rainflower ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ภายใต้ร่มเงาบริษัทเดียวกัน จนกระทั่ง...
ภาพผู้เขียนถ่ายกับ อุ้ย (ขวา) เพื่อนรุ่นพี่ภายในห้องทำงานแผนกศิลป์ ห้างคาเธ่ย์ฯ เยาวราช ในช่วง ธ.ค.2525-มี.ค.2527
วันหนึ่ง จากการบอกเล่า ขณะที่อุ้ยเดินทางคนเดียวเพื่อไปทำงานต่างจังหวัด เดินทางด้วยรถไฟที่สถานีหัวลำโพง ด้วยความชะล่าใจ วางของไว้ที่นั่งแล้วลงไปหาซื้อของกินด้านล่างชั่วครู่เดียว กระเป๋าทั้งเสื้อผ้าทั้งเครื่องมือ ถูกเชิดหายไปทั้งหมด ด้วยความที่เป็นคนต่างจังหวัด จึงไม่ได้ระวังตัวเหมือนคนกรุงเทพ หลังจากนั้นไม่นาน อุ้ยจึงเดินทางกลับไปทำงานที่บ้านเกิดคือภูเก็ต
เราเลยไม่ได้เจอ
หรือ
ได้รับข่าวคราวกันอีกเลย
ซึ่งการมาภูเก็ต ใจนึงก็คิดจะตามหาเพื่อน แต่จะเป็นไปได้หรือ ที่อยู่/เบอร์โทรก็ไม่มี รู้แค่อยู่ภูเก็ต แต่เหมือนจังหวะชีวิตถูกลิขิตเอาไว้ดั่งละคร ขณะที่ผู้เขียนกำลังเดินจากโรงแรมที่พัก เพื่อไปเข้าพื้นที่ทำงานที่ห้างโอเชี่ยน ระหว่างทางผ่านร้านซ่อมรถเครื่องริมถนน เลยลองถามเด็กผู้ชายคนนึงอายุน่าจะระหว่าง 13-14 ปี ว่า น้องๆรู้จักอุ้ยมั้ย โอ้โฮ!! เหลือเชื่อครับ เด็กหันมาพยักหน้า แล้วบอกว่า
โกอุ้ยหรือครับ
ซ้อนมอ'ไซผมมาเลยพี่
เดี๋ยวจะพาไปหา
ใครจะไปเชื่อครับ ถามคนแรกก็เจอเลย เป็นอีกข้อดีหนึ่งของคนต่างจังหวัดที่คนกรุงเทพอิจฉา คือแทบจะรู้จักกันทั้งเมือง เด็กพาซ้อนรถย้อนกลับไปทางไปโรงแรม ไม่ไกลเลย อะเมซซิ่งหนักมากครับขามาก็เดินผ่าน เพื่อนมาเปิดร้านขายเสื้อผ้าแนววัยรุ่นบูติก ชื่อร้าน
soak up
เป็นตึกชั้นเดียวเล็กๆบนที่เช่าของเทศบาล อยู่ข้างคลองหัวถนนรัษฎา ใกล้โรงแรมถาวรที่ผู้เขียนพักนั่นเอง ดีใจจนบอกไม่ถูก ต้องขอบคุณน้องคนนั้น ถามได้ถูกที่ถูกคนจริงๆ
ตึกชั้นเดียวหลังคาส้มนี่คืออดีตร้านของเพื่อน ที่มาภาพ Google Map
หลังเสร็จงาน คืนนั้นเราได้คุยกันราวกับไม่ได้เจอกันมานับสิบปี รุ่งเช้าเจ้าบ้านพาตระเวนกินอาหารประจำถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะ
หมี่สะปำ
ซึ่งแน่นอนผู้เขียนเพิ่งเคยลิ้มลองเป็นครั้งแรกในชีวิต เจ้าอร่อยข้างวงเวียนหอนาฬิกา ตรงข้ามโรงแรมเมโทรโพล ซ้อนรถเครื่องซิ่งเที่ยวเกือบรอบเกาะ ไปทั้งที่ลับเฉพาะที่แม้แต่คนท้องถิ่นยังไม่ทราบ คือชายหาดส่วนตัวไร้ผู้คน ที่เรียกว่า
ช่องเขาขาด
ได้แก้ผ้าเล่นน้ำทะเลแบบเย้ยฟ้าท้าดิน ฮ่า..ฮ่า..ตาเป็นกุ้งยิงไปหลายวัน ทั้งพาแนะนำเพื่อนๆมากมาย ได้มิตรภาพและการต้อนรับที่แสนอบอุ่น เป็นความประทับใจในครั้งแรกที่มาเยือนแบบไม่มีวันลืม พอตกกลางคืน แสงสีของเกาะภูเก็ต โดยเฉพาะ
หาดป่าตอง
หาดทรายเม็ดสีขาวละเอียด ซึ่งในตอนนั้น(2527-2529) เพิ่งเริ่มบูมใหม่ๆ เต็มไปด้วยการก่อสร้างโรงแรม พลาซ่า คอนโดมิเนียม จึงมีรถบรรทุกอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ วิ่งทั้งวันทั้งคืน เส้นทางบางช่วงสูงชัน และเป็นถนนแคบๆสองเลนสวนไปกลับ รถบางคันบรรทุกมาหนักเกินพิกัด
ถึงกับปีนทางลาดไม่ไหว
ต้องปล่อยรถไหลถอยหลัง จนรถที่ตามมาต้องหลบเข้าลานข้างทางที่เกลี่ยดินไว้เหมือนที่พักรถ(ไม่กว้างมากนัก)กันพัลวัน ผู้เขียนซ้อนท้ายรถเครื่องของอุ้ย เจอเหตุการณ์แบบนี้แต่ด้วยที่คนขับเป็นเจ้าถิ่น จึงผ่านมาได้แบบนิ่งๆ กลับกันผู้เขียนถึงกับเหงื่อแตกทั้งที่อากาศหนาวจากฝนพรำๆ แต่เมื่อเข้าสู่เขตหาดป่าตอง แสงสีและบรรยากาศราวกับผู้เขียน
เดินลั้ลลาอยู่ย่านพัฒน์พงศ์
ควบรวมกับ พัทยา
กลบความหวาดเสียวในการเดินทางนั้นหมดสิ้น ตื่นตาตื่นใจกับทุกตารางนิ้วที่อัดแน่นไปด้วยผู้คน นักท่องเที่ยวหัวทอง สาวๆทั้งไทยทั้งเทศ ในชุดบิกีนี่ หนุ่มฝรั่งก้ามโต เดินกันเบียดเสียดชนิดไหล่ชนไหล่
The Night is Still Young
กับยามค่ำคืนของป่าตองที่ไม่มีวันหลับไหล
ป.ล.เรื่องราวต่างๆมาจากเหตุการณ์จริง หากพาดพิงถึงใครขออภัย🙏ไว้ ณ ที่นี้ ผู้เขียนมิได้มีเจตนาอื่นใดนอกจากเล่าย้อนอดีตความทรงจำในวัยทำงานที่เปี่ยมไปด้วยไฟแห่งฝันและจินตนาการ
ขอบคุณสำหรับการติดตาม มาลุ้นกันว่าทริปหน้า เส้นทางช่างศิลป์ จะพาทุกท่านท่องไปในอดีต ณ จังหวัดใด
เรากลับไปแก้ไขอดีต..ไม่ได้
แต่
เราทำวันนี้ให้ดีที่สุด..ได้
Linxikun
#เส้นทางช่างศิลป์
#ช่างศิลป์แอร์โรว์
#ช่างศิลป์ไนกี้
#ช่างศิลป์ในตำนาน
#ช่างศิลป์ยุคทำมือ
โฆษณา