การเริ่มต้นใหม่ เพื่อ “การเปลี่ยนเเปลง
ผู้อ่านทุกท่าน รวมถึงผมเองก็คงอยากเปลี่ยนเเปลงตัวเองซักเรื่องใช่ไหมครับ เเต่ก็นะครับ...
ทุกครั้งที่เราจะลงมือทำ หรือจะเริ่มทำอะไรใหม่ๆ ควมมขี้เกียจ และความเป็นตัวเองคนก่อนก็จะบอกขึ้นว่า... "จะไปเปลี่ยนทำไม นอนตีพุงสบายๆ ทุกวันก็ดีอยู่เเล้วว"
หลังจากนั้นก็ตามเคยครับ "เราหมดไฟไปเเล้ว"
ทุกการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงย่อมมีอุปสรรคครับมันก็เเล้วเเต่คนที่จะเผชิญหน้ากับความขี้เกียจ หรือกลไกรักษาพลังงานนี้ ครับบ.. (ผมขำา)
หลังจากอ่านมาถึงบล็อกนี้ก็คงอยากรู้ How to
ที่จะช่วยทำให้ผู้อ่านก้าวเดิน เเละเริ่มต้นพัฒนาตัวเองได้อีกครั้ง อืมม~ ถ้าผมไม่บอกจะมีคนโกรธผมมั้ยน้าา ผมหยอกๆ นะครับมาเริ่มกันดีกว่าครับ
หลังจากที่ผมกวนผู้อ่านไปนิดหน่อย เรามาเริ่มต้นเเบบจริงจังเหมือนกับ การเริ่มต้นที่จะพัฒนาตัวเองของผู้อ่านหลังจากอ่านบล็อกของผมจบดีกว่าครับ 😊✨
มาครับ.. มาทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่าทำไมการพัฒนาตัวเองกับมนุษย์มันเป็นสิ่งที่คู่กัน ถ้าพูดถึงการพัฒนาอะไรสักอย่างของตัวเองมันก็คงจะกว้าง เเละมองลำบากไปใช่ไหมครับ มามองกันง่ายๆ นะครับ
การพัฒนาตัวเองก็เหมือนการที่เราได้ไปโรงเรียน เเล้วจากนั้นเราก็ได้ความรู้เรื่องต่างๆ ความรู้เเละความความสามารถที่เราได้ติดตัวมา เป็น skill นั้นเเหละครับที่เราเรียกว่าการพัฒนาตัวเอง
ผมเชื่อว่าทุกคนก็คงเคยพัฒนาตัวเองเป็นธรรมดาอยู่เเล้วใช่ไหมครับ เเล้วถ้าเราลองมาวิเคราะห์ผ่านมุมมองของผม ซึ่งวันนี้ผมจะพยายามลองเป็นเลนส์ให้กับผู้อ่านนะครับ 😆
จากความคิด 'ส่วนตัว' ของผมเลยนะครับ การพัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองมี key word ตามนี้
"การวางเเผน" เเละ "การทำให้เป็น routine (กิจวัตร)"
ผมได้ทำการลิสต์ลำดับมาเป็นข้อๆ ได้ตามนี้เลยครับ
ก่อนจะไปอ่านผมฝากกด like กดติดตามบล็อกของผมด้วยนะครับเพื่อให้ไม่พลาดเนื้อหาสาระแบบนี้ ช่วยกดปุ่มติดตามฟ้าๆ ขวามือให้ผมด้วยน้าา
1). หาเหตุผลที่ต้องพัฒนาเเละเปลี่ยนแปลงตัวเอง 🌻
ก่อนที่เราจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เราก็คงต้องมีอะไรที่อยากจะพัฒนา นั่นเเหละครับมัน คือ "เชื้อเพลิงของไฟทั้งหมดที่เรามีอยู่" ถ้าเรามีเหตุผล เเละจุดที่ต้องเปลี่ยน เราก็จะมีไฟที่เพียงพอต่อการเปลี่ยนเเปลงตัวเอง เเต่ถ้าเรามีมันไม่เพียงพอผมก็มีวิธีพิเศษเป็นสูตรลับของผมเองมาบอกให้ทุกคน(อ่านให้จบน้า)
ผมมีอีกอย่างจะมาบอกผู้อ่านนะครับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราจะเปลี่ยนเเปลง หรือตัดสินใจว่าจะพัฒนามันมักมีปัจจัยหลายอย่างครับที่มีผลต่อการตัดสินใจนั้นของเรา เเต่ถ้าเราพึ่งกลับมารู้ว่าที่เราทำไปทั้งหมดเป็นเพียงเเค่ “เราต้องการทำให้คนอื่นชื่นชมหรือให้คนอื่นยอมรับว่าเราเก่ง” หรืออะไรเทือกนี้
ผมขอบอกเลยนะครับว่า มันไม่โอเคหรอกครับ ถ้าเราจะพยายามทำในสิ่งที่เราทำไปเเล้วไม่มีความสุข เเต่ทำไปเพื่อให้คนอื่นมองเราดี มันเป็นความพยายามเพื่อความรู้สึกดีปลอมๆ ที่ว่า คนอื่นจะมาชื่นชมเรา การเลือกทำอะไรที่ไม่เป็นเป้าหมายจากใจจริงของตัวเองก็คล้ายการปีนภูเขาขึ้นไปจนถึงยอด เเต่เรากลับรู้ได้จากทิวทัศน์ที่เราได้เห็นจากบนยอดภูเขาว่ามันไม่ใช่ภูเขาที่เราอยากขึ้น "นี่เราปีนภูเขาผิดลูกหรอ?" (เสียงในใจที่กึกก้องกำลังร้องถาม..)
ผมเขื่อว่า ใครหลายๆ คนคงจะมีประสบการณ์คล้ายๆ กันตัวผมนะครับที่พยายามทำอะไรซักอย่าง ทุกอย่างจริงๆ ที่อยากให้คนอื่นมองเห็นว่าเรา perfact มันน่าเศร้านะครับ เพราะสิ่งที่เราทำไป มันเป็นเเค่ เพื่อคนอื่นมองเเล้วชม เเต่เรากลับไม่ภูมิใจที่มีสิ่งๆ ดีๆ ที่เราพัฒนา
**ผมเคยทำบล็อกตัดใจที่มีผลต่อการตัดสินใจแล้วครับ ลองไปหาอ่านดูนะครับ**
.
2). จินตนาการภาพที่ชัดเจนที่สุด ✨
การได้เห็นภาพว่าเราจะได้รับอะไรจากการพยายามครั้งนี้ มันก็คงเป็นแหล่งพลังงาน สำหรับไฟในการลงมือทำอะไรบางอย่าง นี่แหละครับก็คือ แหล่งพลังงานสำรอง ถ้าเราหมดไฟ หรือหมด passion กับอะไรจริงๆ การลองมองอะไรในอนาคตก็เหมือนเป็นการเอาพลังในอนาคตมาใช้ เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสำรองครับ
นอกจากนี้ การจินตนาการภาพให้ชัดเจนก็ยังช่วยให้เราเห็นขอบเขตงาน และสิ่งที่เราต้องทำ เมื่อเราเห็นขอบเขตเเผนงานจริงๆ มันจะทำให้เรามีความเชื่อมั่นว่า มันก็ไม่ได้เยอะมากมายอย่างที่คิด
คนไม่น้อย ที่ล้มเลิกความพยายาม เนื่องจากคิดว่ามันดูยาก และดูมากมายเกินกว่าที่เราจะพยายามเปลี่ยนแปลงมันได้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็เป็นแค่ภาพลวงตาครับ เป็นแค่ความคิดในเชิงลบที่ร่างกายตอบสนองเพื่อให้ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไร พูดง่ายๆ ก็คือ ขี้เกียจนั่นแหละครับ ถ้าเราจินตนาการภาพขอบเขตให้ชัดเจนเราก็จะมีไฟในการเริ่มต้นพัฒนาเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างเพิ่มขึ้นครับผมรับรองงับบ~
.
3). วางแผนการทำงานเพื่อเริ่มต้นใหม่ 🌱
ในความคิดของผมการวางแผนการทำงานคือทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต มันสอดคล้องกับการ
กระทำ เเละ การดำเนินชีวิต โดยการวางแผนการทำงานที่ดี เเละ
เป็นประโยชน์สูงสุด มันคือก็ routine
กล่าวได้ว่าการวางแผน ก็เหมือนการทำตามรูทีน หรือกิจวัตร ซึ่งการวางแผนให้สอดคล้องกับการพัฒนาตัวเอง มันก็คือการวางแผนเพื่อให้เราทำมันทุกวันอย่างเป็นกิจวัตร นี่แหละครับ แพทเทิร์นของการวางแผนในการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
.
4). ทำมันให้เป็นกิจวัตร (routine) 🌸
จากข้อที่ 3 ผมก็ได้บอกถึงประโยชน์ของการวางแผนอย่างเป็น routine แล้วใช่ไหมครับ เพราะงั้น มาต่อเป็นข้อที่ 4 ครับ การเปลี่ยนแปลงตัวเอง คือการทำเป็น routine
ดังคำพูดของใครสักคนที่ผมจำไม่ได้แล้วครับ ว่าเขาชื่ออะไร เขาได้กล่าวไว้ว่า "สิ่งที่เราทำนานๆ ครั้งมันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเราดีขึ้นสักเท่าไหร่หรอก แต่เป็นสิ่งที่เราทำเป็นประจำต่างหากที่จะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตเรา" (ใครทราบคนพูดช่วยมาตอบที่ช่อง comment ด้วยนะครับ ಥ_ಥ )
.
5). เปรียบเทียบผล กับ "ตัวเอง" จากนั้นก็ไปยังข้อที่ 1 ใหม่เพื่อเป็นคนที่หมั่นพัฒนาตัวเอง! 🔥✨
เย้.. ข้อสุดท้ายแล้วครับ ผู้อ่านรู้ไหมครับว่าทำไมผมจึงต้องเน้นคำว่า “ตัวเอง” ใน “การเปรียบเทียบ” เพราะว่าผลของการเปรียบเทียบนั้น มีทั้งข้อดี และข้อเสีย แต่ถ้าเราเลือกใช้ให้เป็น มันก็เป็นประโยชน์ครับ โดยผมเคยทำเรื่องข้อดีและข้อเสียของการเปรียบเทียบสามารถไปย้อนอ่านบล็อกนั้นได้นะครับ
กลับมาครับ หลังจาที่เราขายของ การเปรียบเทียบผลกับตัวเอง ในอดีตเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งครับ หลังจากที่เราได้พัฒนา หรือมีการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง โดยเราก็จะเห็นผลที่ชัดเจนครับว่า ผลของความพยายามของเราทำให้เรามีการพัฒนาไปแค่ไหน มันคงเป็น moment ดีๆ อีก moment ซึ่งเราคงอยากเก็บมันเอาไว้ในความทรงจำ
การได้พัฒนาตัวเองมันก็เป็นความสุขเล็กๆ นะครับที่ทำให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไป ชีวิตเรามันก็เหมือนต้นไม้ ถ้าเราไม่มีอะไรสักอย่างที่ท้าทาย และกระทบเรา ก็คล้ายกับ ต้นไม้ที่ไม่ได้รับแสงเเดด และความร้อน ต้นไม้ก็จะเหี่ยวเฉา และเหลือง ดูไม่เป็นชีวิตชีวา การพัฒนาตัวเองจะทำให้มนุษย์อย่างเรามีชีวิตชีวา สดใส และก้าวเดิน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขครับ
และสิ่งสุดท้ายที่อาจเป็น ข้อพิเศษ มันก็คือการเริ่มกลับไปที่ข้อ 1 ใหม่ การทำเเบบนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเรารักในการพัฒนาตัวเอง และเป็นคนที่ไม่หยุดในการพัฒนาตัวเอง นี่แหละครับคือความสามารถที่คนอื่นมองว่ามันไม่เป็นความสามารถ แต่สิ่งนี้ล่ะครับที่จะนำมาด้วยความสามารถที่มากมายเท่าที่เราจะจินตนาการได้
Key word~ 🗝️
.
• มีเป้าหมาย ไฟก็จะตามมา (เป้าหมายของเรา!) 🔥
• การจินตนาการภาพที่สำเร็จ เป็นเชื้อเพลิงสำรอง!!
• การวางแผนที่ดี คือการทำเป็น routine
• ควรเปรียบเทียบตัวเองในปัจจุบันกับตัวเองในอดีต (ตัวเองกับตัวเอง)
• การพัฒนาตัวเอง ทำให้มนุษย์เป็นมนุษย์
บทส่งท้าย
.
ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถพัฒนาตัวเองได้คับ ถ้าเรามีความพยายาม และความตั้งใจจริงๆ ซึ่งทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วครับ ว่าเราจะทำหรือไม่ทำ
ดังนั้น เมื่อจะเริ่มทำอะไร หรือจะเปลี่ยนแปลงอะไรจริงๆ ควรนึกถึงภาพ และผลที่ตามมาว่ามันคงจะดีถ้าเราทำมันสำเร็จ นี่แหละครับคือพลังงานสำรองที่เราสามารถเอาออกมาได้อย่างไร้ขีดจำกัด ทุกคนมีไฟเป็นของตัวเองครับ มีด้านที่เด่น และด้านที่ด้อย การพัฒนาตัวเองก็อาจเจะกล่าวได้ว่า เป็นการพัฒนาในด้านที่เราไม่เก่ง หรือเป็นจุดที่บกพร่อง ซึ่งจะทำให้เราเป็นมนุษย์ที่ดี และเพียบพร้อมครับ แนะนำว่าอย่าไปเปรียบเทียบกับคนอื่นนะครับเพราะมันไม่เกิดผลดีอะไรหรอกครับ มันจะทำให้เรารู้สึกแย่เสียเปล่าๆ (จากความคิดผมนะครับ 😣)
ผมทำบล็อกนี้นานมั่กๆ ฝากกดติดตามเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะง้าบบ 😊🥺
🔸 สนุกกับการพัฒนาตัวเองกับ Contaminated brain
🔸 ฝากกด "ติดตาม" กดไลค์ถ้าเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ เเล้วก็..ช่วยส่งบทความนี้ไปให้คนที่เป็นห่วงนะครับ 💖
🔸 สามารถแสดงความคิดเห็นในช่อง comment ได้นะครับ 😊
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
