‘แดเนียล เครก’ บู๊ระห่ำสั่งลาบทสายลับ 007 ใน ‘No Time to Die’
สิ้นสุดการรอคอยสำหรับแฟนหนังภาพยนตร์สายลับ 007 กับ No Time To Die หนังสั่งลาบทเจมส์ บอนด์ของพระเอกหุ่นบึ้ก แดเนียล เครก ที่เจอแตะเบรกเพราะโควิดมาถึง 3 ครั้ง ได้ฤกษ์เข้าฉายตามกำหนดไปในวันที่ 8 ตุลาคมนี้
No Time To Die ภาพยนตร์ภาคที่ 25 ของสายลับ 007 เจอโรคเลื่อนไป 3 ครั้งถ้วนจากกำหนดการเดิมในเดือนเมษายน 2020 และการกลับมาเข้าฉายอย่างเป็นทางการครั้งนี้ บรรดาแฟนหนังและคอภาพยนตร์ต่างคาดหวังว่าจะเป็นการกลับมาของอุตสาหกรรมภาพยนตร์หลังวิกฤตโรคระบาดอย่างแท้จริง
No Time To Die ที่ทุ่มทุนสร้างราว 200 ล้านดอลลาร์นี้ ว่าด้วยเรื่องราวของเจมส์ บอนด์ ที่เกษียณจากการเป็นสายลับไปหาความสงบสุขในจาเมกา ต้องร่วมงานกับสายลับสาว 00 agent ที่รับบทโดยนักแสดงสาวผิวสี ลาชานา ลินช์ (Lashana Lynch) เพื่อตามล่า ‘ซาฟิน’ ตัวร้ายซึ่งรับบทโดยเจ้าของรางวัลออสการ์ รามี มาเล็ค
ทั้งนี้ ภาพยนตร์บอนด์เรื่องที่ 25 No Time To Die ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากฝั่งนักวิจารณ์ภาพยนตร์ โดย Rotten Tomato ให้ 84% และ IMDB ให้คะแนน 7.6 จากเต็ม 10
ส่วนในแง่รายได้ทาง Universal Pictures ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ว่า No Time To Die จะกวาดรายได้ตั๋วหนังทั่วโลก 121 ล้านดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย และถือเป็นหนังเรื่องแรกที่ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านดอลลาร์ในสุดสัปดาห์เปิดตัว โดยที่ไม่ได้เข้าฉายในจีน