19 ต.ค. 2021 เวลา 03:00 • คริปโทเคอร์เรนซี
เปิดใจเจ้าพ่อบิตคอยน์ Michael Saylor หลงรักบิตคอยน์หัวปักหัวปำ
Michael Saylor คือเจ้าของบริษัท MicroStrategy (บริษัทด้าน Software และ Cloud-based service) ซึ่งเป็นบริษัทที่ในปี 2021 ได้เข้าสะสม Bitcoin ไปแล้วมากกว่า 100,000 BTC และทำให้เขามีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ 1,900 ล้านดอลลาร์ฯ หรือราว ๆ 60,000 ล้านบาท เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 1,362 ของโลก
และเมื่อเดือนเมษายน 2021 ที่ผ่านมา Stansberry Research ได้จัดการดีเบตระหว่าง Michael Saylor ที่ถือเป็นเจ้าพ่อด้าน Bitcoin กับ Frank Giustra นักธุรกิจขุดเหมืองแร่ที่ถือเป็นเจ้าพ่อทางด้านทองคำ และในระหว่างอภิปราย Michael Saylor ได้หยิบยก 4 เหตุผลที่ทำให้เขาคิดว่า Bitcoin นั้นดีกว่าทองคำ
1. Harder
Bitcoin นั้นหายากกว่าทองคำ เพราะทองคำจะถูกพบมากขึ้น 2% โดยเฉลี่ยในทุก ๆ ปี ตรงข้ามกับ Bitcoin ที่จะหายากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะมันมีปริมาณจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ ทั้งยังลดอัตราการขุดลง 50% ทุก 4 ปีอีกด้วย และตามหลักของเศรษฐศาสตร์อะไรที่หาได้ยากขึ้นก็จะมีความต้องการที่สูงขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
2. Smarter
เรื่องนี้ค่อนข้าง Make sense เพราะว่า Bitcoin มันเป็น Software ไม่ใช่แค่แร่ธาตุ และมันยังเชื่อมต่อกับ Application ได้ด้วย ซึ่งแน่นอนว่าทองคำนั้นทำไม่ได้
3. Faster
Bitcoin ทำธุรกรรมด้วยความเร็วแสง อีกทั้งยังทำงานตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเวลา 7 วันต่อสัปดาห์ ทั้งหมด 365 วันต่อปีไม่มีหยุดพัก
4. Stronger
เขาให้เหตุผลว่าในกรณีที่เขาต้องการเงิน 10,000 ดอลล่าร์ฯ มาใช้ในระยะเวลา 3 วัน เขาไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใครในการยื่นกู้ด่วน เขาสามารถกู้เงินได้อย่างรวดเร็ว ทำการโอนไปที่ไหนก็ได้บนโลกกี่ครั้งก็ได้ และถ้าต้องการเพิ่มก็แค่ยื่นกู้ใหม่ได้อย่างง่ายดาย รวดเร็วและแม่นยำ
และนี่คือเหตุผลว่าทำไม Bitcoin จึงเป็น Asset ที่เหนือกว่า Gold ในความคิดของเขา
⚠️การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ผู้สนใจควรศึกษาข้อมูลและประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
ติดตามข้อมูลข่าวสาร และ เนื้อหาที่จะมีประโยชน์ต่อเหล่านักลงทุนGenใหม่ได้ที่:
Line: @Finintouch
#ทอง #finintouch #fintech #crypto #bitcoin
#blockchain #efin #nft #สินทรัพย์ดิจิทัล #Michaelsaylor #frankgiustra #microstrategy
เปิดใจเจ้าพ่อบิตคอยน์ Michael Saylor หลงรักบิตคอยน์หัวปักหัวปำ
โฆษณา