Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ไทยรักสงบ
•
ติดตาม
13 ต.ค. 2021 เวลา 13:01 • ประวัติศาสตร์
///"พระสหายแห่งสายบุรี" วาเด็ง ปูเต๊ะ เปิดประวัติเพื่อนสามัญชนของ พ่อหลวง ร.9
///เมื่อปี พ.ศ.2535 พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เสด็จ
พระราชดำเนินไป อ.สายบุรี และมีรับสั่งต้องการพบตัว วาเด็ง ปูเต๊ะ หรือ “เป๊าะเด็ง” เพื่อสอบถามเรื่องการสร้างฝายกั้นน้ำคลองน้ำจืด บ้าน-ทุ่งเค็จ ต.แป้น อ.สายบุรี จ.ปัตตานี
"พระสหายแห่งสายบุรี" วาเด็ง ปูเต๊ะ
////“วันนั้น วาเด็ง ปูเต๊ะ กำลังทำสวนอยู่กับภรรยา (นางสาลาเมาะ ปูเต๊ะ) บริเวณประตูน้ำ บ้านบาเลาะ ต.ปะเสยะวอ เป็นป่าทึบ มีคุณหญิงคนหนึ่งมาบอกว่า “ในหลวงฯ ต้องการพบตัว” แต่ภรรยายังไม่กล้าไป รอจนกระทั่ง วาเด็ง ปูเต๊ะ เลี้ยงโคกลับมา ก็มีตำรวจมาตามเป็นครั้งที่สอง วาเด็ง ปูเต๊ะ ตกใจมาก ว่าตำรวจมาตามเรื่องอะไร เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด จนกระทั่งสื่อสารกันเข้าใจว่า ในหลวงฯ ต้องการมาสร้างฝายกั้นน้ำคลองน้ำจืด บ้านทุ่งเค็จ ต.แป้น
อ.สายบุรี เพื่อช่วยเหลือเรื่องแหล่งน้ำแก่ชาวบ้านในการทำการเกษตร วาเด็ง ปูเต๊ะ จึงกล้าไปพบ
นาย วาเด็ง ปูเต๊ะ และ นางสาลาเมาะ ปูเต๊ะ (ภรรยา)
////แต่ตอนนั้น วาเด็ง ปูเต๊ะ ยังไม่ค่อยเชื่อว่าพระองค์จะเข้ามาอยู่ในป่าในเขาแบบนี้ จึงคิดว่าคนที่มาบอกโกหก ขนาดมาพบพระองค์แล้ว วาเด็ง ปูเต๊ะ ก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็น ในหลวง ร.9 จริงหรือเปล่า จึงแอบหยิบเงินใบละ 100 บาท กับใบละ 20 บาทขึ้นมาดู จึงแน่ใจว่าเป็นพระองค์เสด็จมาจริงๆ ตอนแรกที่พบ ในหลวงฯ วาเด็ง ปูเต๊ะ ก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ เพราะตอนนั้นนุ่งโสร่งตัวเดียว เสื้อก็ไม่ได้ใส่ แต่พอเข้าไปใกล้ๆ ในหลวงก็ตรัสเป็นภาษามลายูว่า “จะสร้างคลองชลประทานให้”
///วันรุ่งขึ้นข้าราชการที่มารับเสด็จก็ต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน เมื่อพระองค์ทรงรับสั่งให้ วาเด็ง ปูเต๊ะ พายเรือให้พระองค์เพื่อทำการสำรวจคลองสายทุ่งเค็จ พระองค์มีพระราชดำรัสถาม พร้อมเปิดแผนที่ เพื่อให้รู้ว่าจะสร้างแหล่งชลประทานอย่างไร ตอนพายเรืออยู่ ในหลวงฯ ตรัสด้วยว่า “ ให้วาเด็งทำตัวให้สบาย.. มีอะไรที่ชาวบ้านเดือดร้อนก็ให้เล่ามาตามความจริง.. ”วาเด็ง ปูเต๊ะ จึงบอก ในหลวง ร.9 ว่า “เมื่อถึงเวลาหน้าฝน น้ำจะท่วม ทำนาไม่ได้ เมื่อถึงหน้าแล้ง ก็ทำนาไม่ได้ เพราะไม่มีน้ำ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน” พระองค์ก็ตรัสกับ วาเด็ง ปูเต๊ะ อย่างไม่ถือพระองค์และตรัสถามอีกว่า ชาวบ้านทำการเกษตรอะไรบ้าง วาเด็ง ปูเต๊ะ จึงตอบพระองค์ไปว่า ชาวบ้านไม่เดือดร้อนอะไร ทุกคนทำการเกษตรตามวิถีชีวิตของคนชนบท คือ ปลูกพืชผักสวนครัว และทำสวนไว้กินกันทุกบ้าน
จากนั้น ในหลวง ร.9 คงจะทรงลองใจ วาเด็ง ปูเต๊ะ จึงตรัสถามขอที่ดินเพื่อทำโครงการพระราชดำริ ด้วยความปลาบปลื้ม วาเด็ง ปูเต๊ะ จึงขอยกที่ดินถวายให้พระองค์ทันที ในหลวง ร.9 จึงแย้มพระสรวล และมีพระราชดำรัสว่า ให้ วาเด็ง ปูเต๊ะ เป็น “พระสหาย” ตั้งแต่บัดนั้น
ในหลวง ร.9 ตรัสเรื่องนี้ว่า “วาเด็งเป็นคนซื่อตรง…จึงขอแต่งตั้งให้วาเด็งเป็นเพื่อนของในหลวง” พร้อมทรงชวนให้ วาเด็ง ปูเต๊ะ และภรรยา เดินทางไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ และเมื่อพระองค์เสด็จฯ มาสามจังหวัดภาคใต้ ก็เรียกให้เข้าเฝ้าที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ทุกครั้งไป
จนที่สุด ในหลวง ร.9 ได้ตรัสว่า “ให้วาเด็งหยุดทำงานได้แล้ว เพราะแก่แล้ว อายุมากแล้ว เป็นห่วงสุขภาพ กลัวว่าทำงานหนักจะไม่สบาย” วาเด็ง ปูเต๊ะ เล่าถึงเหตุการณ์วันที่ได้รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยไม่คาดฝัน จนกระทั่งได้กลายมาเป็น “พระสหาย” แห่งสายบุรี
จนกระทั่ง วันที่ 7 สิงหาคม 2555 เวลา 15.00 น. นายวาเด็ง ปูเต๊ะ พระสหายในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวง ร.9 ได้เสียชีวิตอย่างสงบด้วยโรคชรา ภายในบ้านพักของตัวเองที่ ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี
จ.ปัตตานี ด้วยวัย 96 ปี
///แม้วันนี้ พ่อหลวง ร.9 ท่านได้จากพวกเราไปแล้ว แต่พระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มอบไว้เป็นมรดกแผ่นดิน เพื่อให้ลูกหลานไทยได้มีแผ่นดินถิ่นอาศัย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นหลักปรัชญาที่องค์การสหประชาติ ได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติไปทั่วโลก ซึ่งคุณาการที่พระองค์ได้คิดค้นทดลองสร้างสรรค์สารพัดเรื่องราวนั้น ล้วนแล้วแต่ทำเพื่อพสกนิกรลูกหลานไทยของพระองค์ฯ ทุกหมู่เหล่า นั่นเอง
บันทึก
2
5
2
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย