13 ต.ค. 2021 เวลา 14:21 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
007 No Time To Die (2021) รีวิว...
เมื่อมีความคาดหวังไว้สูง บางครั้งมันก็ทำให้เราผิดหวังอย่างสูงเช่นกัน...
#สปอยอย่างรุนแรง รีวิวนี้เหมาะสำหรับคนที่ดูมาแล้วเท่านั้น คนที่ยังไม่ดู ไม่ต้องอ่าน ข้ามไปได้เลย และอย่าอ่าน Comment ด้วยนะครับ 😊
ส่วนที่ดีของหนัง...
◾การแสดงของ Daniel Craig ที่ดูดีมากกว่าเดิมหลายเท่า ชวนให้นึกถึง 007 คนก่อนๆ มีอารมณ์ขันขึ้น เล่นเก่งขึ้น ซึ่งสามารถแบกหนังทั้งเรื่องด้วยตัวเขาเพียงคนเดียว...
◾หนังทำให้ตัวละครของ Bond มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น มีมิติ มีจิตใจมากกว่าตอนไหนๆ
◾หนังมีเส้นเรื่องที่ดี การนำเสนอที่น่าติดตาม
◾หนังมีความห้าวหาญ กล้าคิดและกล้าทำ
◾ฉากแอคชั่นที่ดูดี แม้จะไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่มีความหนักหน่วง เอาอยู่ โดยเฉพาะกับฉากเปิดเรื่อง
◾หนังแนะนำตัวละครใหม่ๆ และเล่นกับแนวทางความคิดใหม่ๆได้ค่อนข้างดีพอสมควร
◾ดนตรีประกอบที่ฟังขึ้นหูของ Hans Zimmer
คราวนี้ มาถึงในส่วนของข้อเสียกันบ้างครับ ซึ่งมันเป็นความในใจของผม ซึ่งค่อนข้างส่วนตัวพอสมควร...
#เตือนแล้วว่า #สปอย นะครับ ใครยังไม่ดู อย่าอ่านข้ามไปเลย...
◾หนังก็เหมือนกับต้มยำชามใหญ่ในภัตตาคารหรูหราอลังการสักแห่งนึง แต่รสชาติที่ได้รับมันกลับจืดชืด ขาดน้ำปลา มะนาว ทั้งๆที่ในชามมีทุกอย่างที่เราอยากกิน ไม่ว่าจะเป็นปลาหมึกสดๆเกรดเอ กุ้งระดับพรีเมี่ยม หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ๆ และของดีๆหลายอย่างในชาม...
◾007 ตอนนี้เป็นตอนที่ดูไม่สนุกครับ มีการดำเนินเรื่องที่ไม่ดีซักเท่าไหร่ รู้สึกติดขัด ไม่สมูท แรงจูงใจในการทำอะไรต่างๆบางอย่างของตัวละคร รวมไปถึงตัวร้าย มันไม่ค่อยจะมี ภาษาชาวบ้านเรียกว่า บทอ่อนไปนั่นเอง ทั้งๆที่หนังมีเส้นเรื่องที่ดีมาก กล้าคิดและกล้าทำ กล้าเล่นในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่กลับทำได้ไม่คุ้มค่าและไม่สามารถทำให้อินไปกับบทสรุปได้ ขอชมว่า 20 นาทีแรกของหนังดูดีมาก น่าติดตาม แต่หลังจากนั้นไม่นานกลับดิ่งลงไปเลย มีพาขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่พ้นน้ำอยู่ดี...
◾หนังกล้าเล่นใหญ่ด้วยพล็อตเรื่องที่ว่า James Bond มีลูก พร้อมกับการสละชีวิตตัวเอง แล้วกลายเป็นตำนานเล่าขาน ฟังดูแล้วมันดูเป็นบทสรุปที่ดีในการรับบท Bond มาอย่างยาวนานถึง 15 ปี ของ Daniel Craig ซึ่งมันควรจะเป็นหนัง 007 ที่ดีที่สุดของตระกูล ( ไม่แปลกที่เราจะคิดแบบนี้ เพราะหนังมันพาเรามาทางนี้ ) มาพร้อมกับดราม่าดีๆ การส่งอารมณ์ที่ดีเยี่ยม เรียกน้ำตา แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งปัญหามันเกิดมาจากระหว่างทางกับการดำเนินเรื่องนั่นเอง...
◾รวมไปถึงความสัมพันธ์ของคู่พระนางไม่ค่อยจะทำให้อิน ( ในทางกลับกัน ผมอินกับความสัมพันธ์ใน Casino Royale มากกว่านี้ซะอีก ทั้งๆที่หนังไม่ได้จะเล่นใหญ่อะไรเหมือนตอนนี้ ) และพาทครอบครัว ที่ควรทำได้ดีกว่านี้ ทั้งๆที่หนังมีเวลามากพอสมควร ซึ่งถ้าตัดบทสรุปในการสูญเสียออกไป หนังก็ยังมีปัญหาที่เอ่ยมาข้างต้นอยู่ดี
◾ยังไม่รวมไปถึง ฉากไว้อาลัยให้แก่บุรุษผู้เป็นตำนาน แต่หนังกลับทำได้แค่พูดกันไม่กี่ประโยคเท่านั้น คือหนังทำได้ไม่ถึงและมันไม่ควรเป็นแบบนั้น อ่อ แค่เพลงหรือบางสิ่งที่ชวนให้นึกถึงหนัง 007 ที่ผ่านมา สำหรับผมนั้นมันไม่พอ ซึ่งมันไม่อาจลบล้างให้หนังออกมาดีได้ หนังจะดีได้ ต้องดีด้วยตัวของมันเอง สิ่งอื่นนำมาเป็นองค์ประกอบเพิ่มเติมได้...
ข้อเสียอาจจะยาวไปซักนิดครับ แต่มันเป็นความในใจของผู้ชายคนนึงที่เติบโตมากับหนังชุดนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่มันกลับทำให้ปวดใจและเสียดายที่ไม่ได้สวยงามตามที่หวังไว้ ตามที่หนังได้สื่อสารกับเรามาตลอดทั้งเรื่อง ทั้งๆที่หนังได้เลือกเส้นทางมาได้ดีและถูกต้องที่สุดแล้ว...
#NoTimeToDie #JamesBond007 #DanielCraig #GURUReview #GURUดูหนัง
โฆษณา