14 ต.ค. 2021 เวลา 08:42 • นิยาย เรื่องสั้น
เซียวเล้งนึ่ง ภาคมัชฌิมบท (ตอนที่ 2 )
กระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์เปล่งอานุภาพ⚔️
ต่อมาอึ้งย้งถูกกิมลุ้นก๊กซือ และนักบู๊มองโกลหยามหมิ่น
เมื่อเอี้ยก่วยตัดสินใจช่วยอึ้งย้ง เซียวเล้งนึ่งย่อมต้องคล้อยตาม
การเข้าสัปประยุทธ์รอบสองระหว่างกิมลุ้นก๊กซือ
กับคู่รักสุสานโบราณจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง
กิมลุ้นก๊กซือก้าวยาวๆ ไปมา กวัดแกว่งจักรเหล็กดังเคร้งคร้าง
สองแขนกรีดวาดตรงๆ จู่โจมโหมรุกใส่คนทั้งสอง
ติดต่อกันสามท่า เอี้ยก่วยกับเซียวเล้งนึ่งได้แต่ต้านทาน
จนเอี้ยก่วยข้อแขนปวดแปลบ กิมลุ้นก๊กซือย่อมไม่ปล่อยปละละเว้น
กระบวนท่าที่ 4 กระแทกลงมายังศีรษะ
จักรเหล็ก ยังไม่บรรลุถึง ก็บังเกิดเป็นกระแสลมรุนแรง 🌪
กดคุกคามใส่พลังสภาวะน่าตระหนกตกใจ
เอี้ยก่วยกับเซียวเล้งนึ่งใช้กระบี่โดยพร้อมเพรียง
จ่อปลายกระบี่ยันจักรเหล็กเอาไว้ ทั้งสองผนึกกำลัง
ค่อยต้านทานกระบวนท่านี้ได้ แต่กระบี่ทั้งสองเล่ม
ล้วนถูกกดทับจนโค้งงอแล้ว
ทั้งสองจึงรวบรวมกำลังคิดกระแทกจักรเหล็กพ้นห่าง
จากนั้นเอี้ยก่วยเสือกกระบี่แทงตรงจู่โจมใส่ร่างท่อนบนของศัตรู
เซียวเล้งนึ่งขวางกระบี่ฟันใส่เท้าซ้ายของคู่ต่อสู้
กิมลุ้นก๊กซือตวัดเท้าแตะใส่ข้อมือเซียวเล้งนึ่ง
จักรเหล็กหวดเฉียงกระแทกใส่ก้านคอเอี้ยก่วย
เอี้ยก่วยก้มศีรษะย่อเท้าหลบรอดจากจักรเหล็ก
.
มิคาดยามนั้น พลันเกิดการเปลี่ยนแปลง
กิมลุ้นก๊กซือคลายมือขวาจักรเหล็กร่วงลิ่วลงยังศีรษะเอี้ยก่วย
สองมือของกิมลุ้นก๊กซือราชครูมองโกลล้วนว่างเปล่า
ดังนั้นจึงตะปบใส่หัวไหล่เซียวเล้งนึ่งโดยพร้อมเพรียง
พริบตานั้นทั้งสองล้วนเผชิญอันตราย จนอึ้งย้งอุทานดัง อา❗️
คิดหมายสะอึกเข้าช่วยเหลือ
ฉับพลันเห็นเอี้ยก่วยพุ่งเฉียงๆ เรียดดิน
ร่างไม่ทันตกถึงพื้น กระบี่ก็แทงใส่กลางหลังกิมลุ้นก๊กซือ
เป็นเอี้ยก่วยใช้ท่า “ห่านป่าจู่โจมเฉียง”🦢 (งักเกี้ยเซี้ยเค้ก)
.
ซึ่งเป็นเพลงกระบี่ของสำนักช้วนจิน พุ่งเฉียงๆเรียดดิน
ร่างไม่ทันตกถึงพื้นก็แทงใส่กลางหลังกิมลุ้นก๊กซือ
.
เป็นกระบวนท่าทั้งรุกและรับ คลี่คลายสถานการณ์ให้ทั้งตัวเอง
และยังดำเนินยุทธวิธีล้อมเว่ยช่วยจ้าว (1 ใน 36 กลยุทธ์)
ทำให้กิมลุ้นก๊กซือไม่กล้าลงมือต่อเซียวเล้งนึ่งอีกด้วย
.
เอี้ยก่วยยามคับขันใช้เพลงกระบี่สำนักช้วนจินกระบวนท่าหนึ่ง
กลับประสบผลไม่คาดหมาย
.
ดังนั้นใช้ออกด้วยกระบวนท่าของสำนักช้วนจินอีกท่าหนึ่งนาม
.
รุ้งขาวพาดผ่านฟ้า (แป๊ะฮ้งเก็งเทียน)
.
ใช้ส่วนแบนราบของกระบี่ตบใส่จักรเหล็ก
แม้จักรเหล็กมีน้ำหนักมาก กระบี่แม้น้ำหนักเบา
แต่มุมและหลักการล้วนใช้อย่างแยบคาย
สอดคล้องกับหลักสี่ตำลึงปาดพันชั่ง (สี่เนี่ยผัวะโชยถึง)
ทำให้เอี้ยก่วยพลันคิดได้ว่า
ทั้งคู่ใช้เพลงกระบี่สุรางคนางค์พร้อมกันยากที่จะต้านทานรับได้
.
แต่หากเอี้ยก่วยใช้เพลงกระบี่ช้วนจิน
เซียวเล้งนึ่งใช้เพลงกระบี่สุรางคนางค์ กลับช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย
บทสุดท้ายของคัมภีร์สุรางคนางค์กลับสามารถนำออกใช้ด้วยวิธีนี้
.
ความพิสดารเริ่มปรากฏขึ้นเมื่อ
⚔️ กระบี่คู่ผนึกรวมเปล่งอานุภาพอย่างน่าตื่นตระหนก ✨
เมื่อเอี้ยก่วยร้องบอกเซียวเล้งนึ่งว่า
“ โกวโกว ท่าพเนจรถึงสุดหล้า (หลังเจียะเทียนไง้)"
เซียวเล้งนึ่งจึงใช้ออกด้วยกระบวนท่าในคัมภีร์สุรางคนางค์
นาม พเนจรถึงสุดหล้า สะบัดกระบี่ฟันอย่างหักโหม
.
กระบวนท่าทั้งสองมีชื่อตรงกัน ท่าเพลงกลับผิดแผกแตกต่าง
โดย 1 เป็นท่ากระบี่อันร้ายกาจของเพลงกระบี่ช้วนจิน
อีก 1 เป็นแนวทางอันหวาดเสียวของเพลงกระบี่สุรางคนางค์
กระบี่คู่ผนึกรวมเปล่งอานุภาพน่าตระหนกในบัดดล
.
เมื่อใช้เพลงกระบี่ร่วมกัน ความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเพลงกระบี่
ทุกกระบวนท่าของเพลงกระบี่ชุดนี้ล้วนแฝงเหตุการณ์อันวาบหวามเรื่องหนึ่ง
.
เช่น ลูบไล้พิณเป่าขลุ่ย (บู่คิ้มอั้งเซียว)🎼🎼
☃️กวาดหิมะต้มน้ำชา (เซ่าเซาะเพ็งเต้) 🍶
เล่นหมากรุกใต้ต้นสน 🌲(ซ้งเหียตุ่ยเอ๊ก)
.
ล้วนประกอบด้วยบุรษสตรี คลอเคลียอยู่คู่กัน🦢🦢
ชวนให้เคลิบเคลิ้มดื่มด่ำ
เป็นเพราะเหตุใดกันจึงดูลั่กลั่นย้อนแย้งเช่นนี้
เนื่องเพราะลิ้มเชี้ยวเอ็งพลาดหวังอยู่ในความรัก
ต้องพักอาศัยในสุสานโบราณ ตรมตรอมจนตัวตาย
แต่นางเองปราดเปรื่องทั้งบุ๋นและบู๊ เรียนรู้พิณ หมากรุก ตัวหนังสือ
ภาพวาดสุดท้ายนางจึงทุ่มเทวิชาความรู้ชั่วชีวิตในพลังฝีมือชุดนี้
ขณะที่บัญญัติเพียงเพื่อปลอบประโลมใจ คลายเหงา
มิคาดอีกหลายสิบปีให้หลังกลับปรากฎ
คู่รักคู่หนึ่งใช้ต่อต้านศัตรูเข้มแข็ง
นับว่าสุดที่นางจะคาดคิดมาก่อน
แรกเซียวเล้งนึ่งและเอี้ยก่วยลงมือยังไม่รู้ซึ้งถึงความพิสดารลึกล้ำ
ของเพลงกระบี่ เมื่อถึงตอนท้ายยิ่งใช้ยิ่งคล่องแคล่วถนัดมือ
....หากเเม้นบุรุษสตรีที่ใช้เพลงกระบี่ชุดนี้หากมิใช่คู่รักอย่างนั้น
มีเคล็ดความพิสดารมากหลายที่ไม่อาจรับรู้
และไม่สามารถถ่ายทอดกระแสจิตระหว่างกัน
.
....หากผู้ที่ผนึกกระบี่เป็นสหายจะเกรงอกเกรงใจเกินไป
หากเป็นผู้อาวุโสกับผู้เยาว์ออกจะดูแลและพึ่งพาเกินไป
หากสามีภรรยาใช้ออกพร้อมกัน พิสดารนั้นพิสดารอยู่
.
...แต่จะขาดซึ่งอารมณ์ความรักอันซาบซึ้ง ขวยเขิน
เอียงอายคล้ายใกล้ชิด คล้ายห่างไกล ห่วงหน้าพะวงหลังอยู่บ้าง
.
....ซึ่งแตกต่างกับเซียวเล้งนึ่งและเอี้ยก่วย
ซึ่งอยู่ในห้วงความรักอย่างเต็มเปี่ยมและบริสุทธิ์ใจ💞
ความรักอันลึกซึ้งตรึงตรา แต่ยังไม่รวมเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน
.
...กลับเป็นการประสานเพลงกระบี่กับอารมณ์และความนึกคิดเข้าด้วยกัน
ส่วนลึกของจิตใจของเซียวเล้งนึ่ง และเอี้ยก่วย รู้สึกว่าอนาคตข้างหน้ามากขวากหนาม
ดังนั้น ทั้งรัก ทั้งกังวล ทั้งขมขื่น ทั้งหวานชื่น
ภายใต้อารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้
ช่วยให้รู้ซึ้งถึงจิตเจตนาที่ลิ้มเชี้ยวเอ็งบัญญัติเพลงกระบี่
“สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ “🤍 (เง็กนึ้งซู่ซิมเกี่ยม)
...
อึ้งย้งแม้ชมดูอยู่ด้านข้าง เห็นเซียวเล้งนึ่งสองแก้มแดงซ่าน
ขวยเขินสะเทิ้นอาย เอี้ยก่วยมักเหลือบชำเลืองมอง
ปกป้องด้วยอาวรณ์ มาตรแม้นร่วมกันรับมือศัตรูเข้มแข็ง
แต่แสดงออกถึงความรักฉันบุรุษสตรีที่รักผูกพันอย่างลึกซึ้ง
.
ทำให้อึ้งย้งพลันได้รับผลสะท้อน นึกถึงเมื่อแรกรักกับก๊วยเจ๋ง
ในเสียงการฆ่าฟันบนเหลาสุรา กลับแฝงความรักอันซาบซึ้งดื่มด่ำ
นี่เป็นอานุภาพกระบี่คู่ซึ่งเปล่งอานุภาพแห่งความรัก
ของเคล็ดวิชากระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์
.
แต่กระนั้นภายในความงดงามและพิสดารของ
เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ ก็มีข้อจำกัด
เหตุเพราะลิ้มเชี้ยวเอ็งบัญญัติเพลงกระบี่เพื่อประเทืองอารมณ์
ไม่มีเจตจำนงทำร้ายคน หรือปลิดชีวิตศัตรู
ในใจตอนนั้นเต็มไปด้วยความรักความผูกพัน
.
ดังนั้นเพลงกระบี่แม้ร้ายกาจ แต่ไม่มีกระบวนท่าใด
มุ่งมั่นหมายชีวิตอีกฝ่าย เซียวเล้งนึ่งและเอี้ยก่วย
แม้รุกไล่ราชครูกิมลุ้นแต่ไม่สามารถปลิดปลงเอาชีวิตอีกฝ่ายได้
แต่นับว่าทั้งคู่กำราบกิมลุ้มก๊กซือเป็นผลสำเร็จ
ชายโฉดหญิงแพศยา😡
.
แม้ทั้งคู่จะช่วยเหลืออึ้งย้งและลูกศิษย์อย่างไรแต่ทั้งหมด
ก็หาได้ดีต่อเซียวเล้งนึ่งอย่างที่ควรจะเป็นไม่
.
ขณะที่เซียวเล้งนึ่งเข้าพักที่โรงเตี๊ยมรวมกับอึ้งย้ง
และพวกจากกิมลุ้มก๊กซือแต่บู๊ซิวบุ้นยังกล่าววาจา
อันระคายหูให้นางได้ยินว่า
.
“ข้าพเจ้ายินยอมถูกกิมลุ้นก๊กซือฆ่าทิ้ง
ยังประเสริฐเลิศกว่ารับบุญคุณของเดียรัจฉานเหล่านี้ไว้"
.
แม้อึ้งย้งจะตัดบทว่า “อย่าได้กล่าวแล้ว”
.
เซียวเล้งนึ่งกลับครุ่นคิดในใจ
.
“เราดีก่อนก่วยยี้ เหตุใดเขาต้องกลายเป็น
“ เดียรัจฉาน” เป็น “ชายโฉด” เป็น “หญิงแพศยา”
.
ขบคิดแล้วขบคิดเล่านางก็ไม่เข้าใจ
เหตุเพราะนางตัดขาดจากโลกและจมอยู่ภายในสุสานโบราณ
นางจึงมีความใสซื่อบริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง
และด้วยการแทรกแซงจากอึ้งย้งที่พูดให้เห็นถึงความแตกต่าง
ระหว่างนางกับเอี้ยก่วยว่าหากให้เอี้ยก่วย
อยู่ในสุดสานโบราณที่เย็นยะเยือก และมืดทะมึน
.
มาตรว่าอาศัยอยู่ 10 ปี 20ปี ยังไม่เบื่อหน่าย
หากอยู่ถึง 30-40 ปีเล่า เอี้ยก่วยย่อมอึดอัดขัดข้องใจ
เมื่อถึงเวลานั้นเอี้ยก่วยคงต้องออกจากสุสาน
และมีผู้คนเหยียดหยามเขา เซียวเล้งนึ่งคิดว่า
.
นางคงเป็นตัวอัปมงคล เมื่อรักเอี้ยก่วยแม้แต่ชีวิตก็มอบให้ได้
แต่เช่นนี้กลับทำให้เอี้ยก่วยไม่มีความสุข
.
ทบทวนหวนนึกถึงตอนนี้ นางย่องฝีเท้าถึงข้างเตียง
ได้ยินเสียงลมหายใจเอี้ยก่วยทราบว่าหลั่งสนิท
นางอดหลั่งน้ำตาออกมามิได้😢
.
นางจึงใช้เข็มทองสลักบนพื้นโต๊ะว่า
“ขอให้ถนอมตัว อย่าได้ครุ่นคิดถึง”
แล้วจึงตัดสินใจจากเอี้ยก่วยไป
…….
ตัดใจวิวาห์ ณ หุบเขาสิ้นไมตรี 🏔
เซียวเล้งนึ่งเมื่อตัดสินใจแต่นางบังเกิดความรัก
ต่อเอี้ยก่วยอย่างลึกล้ำ การตัดความสัมพันธ์อย่างเด็ดเดี่ยวเช่นนี้
.
สืบเนื่องจากความรักที่มีต่อเอี้ยก่วย เห็นว่า หากกลับสุสานโบราณ
เอี้ยก่วยย่อมต้องสืบเสาะมาถึง ดังนั้นท่องเตร็ดเตร่ไปตามท้องทุ่งร้างหุบเขาอันเดียวดาย มีอยู่วันหนึ่งนั่งโคจรพลัง
พลันบังเกิดความคิดคะนึงหา ยากที่จะหักห้ามใจตัวเอง
กำลังภายในพลุ่งพล่านทะลวงใส่จุดชีพจร
สะกิดให้อาการบาดเจ็บเก่าก่อนกำเริบขึ้น
.
หากมิใช่กงซุนก๊กจู้เดินทางผ่านมา
ยื่นมือช่วยเหลือตน นางคงจบชีวิตอยู่กลางป่า
.
กงซุนก๊กจู้ครองตัวเป็นม่ายนานปี เห็นเซียวเล้งนึ่งงามพิลาสล้ำ
อย่างที่ในชีวิตไม่เคยนึกฝันมาก่อน หลังจากที่ช่วยคน
ยังเพิ่มความเอาอกเอาใจ นางเมื่อเห็นกงซุนก๊กจู้ทุ่มเทความรักให้
ออกปากขอแต่งงาน จึงตัดใจตอบตกลง
เห็นว่านับแต่นี้เป็นภรรรยาของผู้อื่น บาปรักกับเอี้ยก่วยย่อมสะบั้นสิ้นสุด
กอรปกับหุบเขาไร้รักนี้ยากจะมีบุคคลภายนอกย่างกรายมาถึง
คาดว่าชั่วชีวิตนี้ คงไม่พบพานเอี้ยก่วยอีก
.
หาคาดไม่ว่าเป็น #เฒ่าทารกพลันรุดมาก่อกวน
จนชักนำเอี้ยก่วยมาถึงในหุบเขาแห่งนี้
.
ด้วยความชี้แนะช่วยเหลือจากฮิ้วโชยเชียะ
น้องสาวของฮิ้วโชยยิ่มผู้เป็นอดีตภรรยาของกงซุนก๊กจู้
เซียวเล้งนึ่งกับเอี้ยก่วย จึงเอาชนะกงซุนก๊กจู้ (กงซุนจี้) ได้
ทั้งคู่จึงออกจากหุบเขาสิ้นไมตรี เพื่อเดินทางไปฆ่าก๊วยเจ๋งและอึ้งย้ง
……
ประสบพบความจริงอันโหดร้าย 💔
แต่ด้วยคุณธรรมใจภักดิ์เห็นแก่ชาติบ้านเมืองของก๊วยเจ๋ง
ทำให้เอี้ยก่วยตัดสินใจช่วยเหลือก๊วยเจ๋งจากค่ายมองโกล
ต่อมากิมลุ้นก๊กซือจึงจู่เดินทางมาลอบสังหารก๊วยเจ๋งอึ้งย้งสองสามีภรรยา
.
ด้วยสถานการณ์การต่อสู้ที่ชุลมุน และคับขัน เซียวเล้งนึ่งเมื่อเห็นขื่อใหญ่ใกล้ถล่มลงนางจึงช่วงชิงทารกหญิงนางหนึ่งนามว่า
“ก๊วยเซียง”👶 มา ต่อมาก๊วยเซียงถูกลี้มกโชวช่วงชิงไป
1
.
ด้วยความหวังดีเอี้ยก่วยเห็นว่าตนมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
เห็นแก่บู๊ซำทงกลับมากด้วยน้ำใจไมตรี ถูกอัธยาศัยใจคอของเอี้ยก่วย
จึงคิดส่งเสริมสามพ่อลูกได้อยู่ร่วมกันคาดว่า
.
เพียงพอต่อการประโลมจิตใจของบู๊ซำทง
เอี้ยก่วยจึงเล่นลิ้นคารมต่อสองพี่น้องตระกูลบู๊
ยิ่งกล่าวยิ่งกระหยิ่มยิ้มย่อง หาคาดคิดไม่ว่ากลับทำลายชื่อเสียงของก๊วยพู้ และเป็นเหตุให้เซียวเล้งนึ่งเข้าใจผิด
.
เซียวเล้งนึ่งขับขี่ม้าวิเศษเหงื่อโลหิตตามหาเอี้ยก่วยกับกิมลุ้นก๊กซือ
ตามหาเอี้ยก่วยกับราชครูกิมลุ้น ตอนแรกเดินผิดทางม้าวิเศษวิ่งตะบึงไป
หลายลี้ ต่อมาจึงหันหัววกกลับ แต่นางไม่พบเห็นเอี้ยก่วย
ด้วยความร้อนรุ่มกังวลใจ เห็นเวลาผ่านไปชีวิตเอี้ยก่วยยิ่งมีอันตราย
ยามนั้นค้นหาพื้นที่รอบรัศมีสายสี่สิบลี้ ของเมืองเซียงเอี้ยงเป็นวงกว้าง
จนกระทั่งถึงยามวิกาล
.
ค่อยได้ยินเสียงร่ำไห้ของบู๊ซ้ำทงดังมาแต่ไกล
นางจึงสืบเสาะไปยังต้นเสียง ไม่นานได้ยินเสียง
สองพี่น้องตระกูลบู๊ปะทะกระบี่กัน
.
จากนั้นได้ยินเสียงของเอี้ยก่วยสร้างความยินดีแก่เซียวเล้งนึ่งยิ่ง
ตระเตรียมลอบให้การช่วยเหลือ ดังนั้นลงจากหลังม้า
ซ่อนตัวอยู่หลังหินใหญ่ ศึกษาดูว่าเอี้ยก่วยต่อสู้กับผู้ใด
.
แต่นางกลับได้ยินเอี้ยก่วยเรียก ก๊วยพู้ เป็น “#คู่หมั้นคู่หมาย”
ทั้งยังยึดถือก๊วยเจ๋งสองสามีภรรยาเป็น “ #งักแป๋งักบ้อ” (พ่อตาแม่ยาย)
.
นางยิ่งรับฟัง จิตใจยิ่งสะท้านหวั่นไหวราวถูกอสนีบาตฟาดใส่
จิตใจเลอะเลือนอลวน คล้ายกับสรรพสิ่งในจักรวาลล้วนเปลี่ยนผันกลับกลาย หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นเห็นเอี้ยก่วย
ประพฤติปฏิบัติแตกต่างจากกาลก่อน คงต้องระแวงสงสัย
รอจนเรื่องราวผ่านพ้นค่อยถามไถ่เอี้ยก่วยให้กระจ่างชัด
.
แต่เซียวเล้งนึ่งมีจิตใจพิสุทธิ์กระจ่างใสไม่แปดเปื้อนธุลีดินใด
หาล่วงรู้เล่ห์มายาอันจอมปลอมในโลกมนุษย์ไม่เอี้ยก่วยเล่นลิ้นคารม
พร่ำกล่าวเหลวไหลต่อผู้อื่น แต่ไม่เคยหลอกลวงนางมาก่อน
ดังนั้นเชื่อถือคำพูดของเอี้ยก่วยโดยสนิทใจ
.
นางจึงคิดส่งเสริมให้ก๊วยพู้กับเอี้ยก่วยได้เคียงคู่กัน จึงบอกแก่ก๊วยพู้ว่า
.
“ก๊วยโกวเนี้ย ก่วยยี้มีจิตใจดีงาม เขามีชีวิตอย่างอ้างว้าง
ขอให้ท่านดีต่อเขา พวกท่านความจริงเป็นคู่สร้างคู่สม
ท่านบอกให้เขาลืมเลือนข้าพเจ้าเถอะ
ข้าพเจ้าไม่โทษว่าเขาแม้แต่น้อย”
.
พร้อมทั้งมอบกระบี่กุลสตรีของตนเอง
ซึ่งคู่กับกระบี่สุภาพชนของเอี้ยก่วย
.
หลังจากนั้นนางพลันกระโดดออกนอกหน้าต่าง
แล้วก้มศีรษะเข้าสวนดอกไม้ กุลาบพุ่มใหญ่ส่งกลิ่นหอมรวยรินเจือจาง
หวนนึกถึงเหตุการณ์ที่ทาบฝ่ามือฝึกปรือเคล็ดวิชาในคัมภีร์เก้าอิมจินเก็ง
คู่กับเอี้ยก่วย โดยกั้นด้วยพุ่มดอกไม้ใบดอก
วันนี้คิดรักษาสภาพอยู่ร่วมกันเช่นนั้น กลับไม่สามารถแล้ว
.
ขณะเคลิ้บเคลิ้มครุ่นคำนึงถึง พลันได้ยินห้องหับซ้ายมือ
บังเกิดสุ้มเสียงหนึ่งดังว่า
.
“ ท่านอ้าปากก็เซียวเล้งนึ่ง หุบปากก็เซียวเล้งนึ่ง
มีวันใดที่ไม่เอ่ยถึงสักครึ่งวันได้หรือไม่ ”
.
เซียวเล้งนึ่งใจหายวูบ ครุ่นคิดขึ้น “เป็นผู้ใดที่เอ่ยถึงเราตลอดทั้งวัน”
.
คนแรกนั้นกล่าวว่า “นี่เป็นบ้านช่องของผู้อื่น มีหูตามากหลาย หากถูกผู้อื่นได้ยินได้ฟัง สำนักช้วนจินเราจะรักษาชื่อเสียงไว้ได้อย่างไร?”
.
คนหลังนั้นหัวร่อฮิฮะกล่าวว่า
“ท่านยังนึกถึงชื่อเสียงของสำนักช้วนจินเรา ?
ค่ำคืนที่ข้างพุ่มกุหลาบของภูเขาจงน้ำ พิศวาสอันวาบหหวามนั้น ...ฮาฮา
.
เอ่ยถึงต่อนนี้เอาแต่หัวร่อ ไม่กล่าวสืบต่อ
.
เซียวเล้งนึ่งตื่นตระหนกกว่าเดิม สะกิดความเคลือบแคลงสงสัยขึ้น
“หรือว่าค่ำคืนนั้นก่วยยี้สนิทสนมกับเรากลับถูกนักพรตทั้งสองคนนี้พบเห็น”
นางรับฟังย่อมจำแนกออกว่าเป็นอิงจี่เปียกับเตี่ยจี่เก่ง
ดังนั้นย่องฝีเท้าถึงใต้หน้าต่าง ย่อกายลงแอบฟัง
.
อิงจี่เปี่ยพลันกล่าวว่าเตี่ยจี่เก่ง เคี่ยวกรำตนเองด้วยเหตุใด
หรือมิใจอิจฉาริษายาตนเอง
นางยิ่งฟังยิ่งประหลาดพิกล เตี่ยจี่เก่งกลับหาตอบคำไม่
คล้ายคิดแค่นหัวร่อแต่หัวร่อไม่ออก
.
อิงจี่เปี่ยพึมพำว่า
“มิผิด ค่ำคืนนั้นในพุ่มกุหลาบ นางถูกพิษประจิมจี้สกัดจุดไว้
ไม่อาจขยับเคลื่อนไหว ในที่สุดช่วยให้เราสมมาดปรารถนา
เราไม่บิดพลิ้วบ่ายเบี่ยงต่อท่าน หากแม้นเราไม่บอก
.
ท่านก็ไม่ทราบใช่หรือไม่ เราบอกต่อท่าน ท่านก็รังควานเรา
เคี่ยวกรำเราโดยไม่หยุดยั้ง แต่ว่า...เราไม่สำนึกเสียใจ
ไม่สำนึกเสียใจแม้แต่น้อย....”
.
เอ่ยถึงตอนท้ายคล้ายละเมอในห้วงความฝัน
.
เซียวเล้งนึ่งพอได้ยินคำพูดเหล่านี้ หัวใจตกวูบลง
สมองลั่นอึงอลขึ้นมา
.
“หรือว่าเป็นเขา มิใช่ก่วยยี้อันเป็นที่รักของเรา? ไม่ ไม่เด็ดขาด
เขาพูดปด ต้องเป็นก่วยยี้แน่นอน”
.
นางพลันได้ยินเตี่ยจี่เก่งกล่าววาจาอีกครา
ด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นอำมหิตว่า
“ใช่แล้ว ท่านย่อมไม่สำนึกเสียใจแม้แต่น้อย
ท่านความจริงไม่ต้องบอกต่อเรา แต่ท่านไม่อาจหักห้ามความลิงโลดในใจ
.
มิอาจไม่บอกต่อคนผู้หนึ่ง เช่นนี้ประเสริฐแท้ เราจะบอกต่อท่านทุกวี่วัน
คอยกระตุ้นเตือนท่านทุกเมื่อแต่ท่านไฉนกลัวได้ยินแล้ว”
.
#เซียวเล้งนึ่งพลันได้ยินได้ฟังเรื่อ่งราวที่บีบคั้นหัวใจแหลกสลาย 💔💔
#กัดกร่อนลำไส้ขาดติดต่อกันสองประการ
ยืนอยู่ใต้หน้าต่างอย่างเลอะเลือนงมงาน
แม้ได้ยินคำโต้ตอบของอิงจี่เปี้ย ก้บเตี่ยจี่เก่ง
.
แต่ยามกะทันยังไม่เข้าใจความหมายในวาจา
ของพวกเขาอย่างถ่องแท้นี่เป็นเรื่องที่เตี่ยจี่เก่ง
ใช้ข่มขู่อิงจี่เปี้ยเพื่อแผนการใหญ่ของตนเองในวันข้างหน้า
.
ทั้งสองพลันบังเกิดโทสะฟาดฟันกระบี่ใส่กัน
นักพรตทั้งสองปะทะกระบี่ตึงตังโครมคราม
.
ภายในห้องปรากฏศิษย์พรรคกระยาจกและก๊วยพู้
พบเห็นเซียวเล้งนึ่งเหม่อลอยซึมเซา คล้ายไม่ได้ยิน
.
แต่นักพรตทั้งสองกลับกล่าววาจาลามกบัดสี
พาดพิงเซียวเล้งนึ่งตลอดเวลา จนก๊วยพู้ยังมิอาจทนได้
หมายสะบัดหน้าหลบหนีไป
.
แต่เซียวเล้งนึ่งยังยืนเซื่องซืมเซาคล้ายไม่ใส่ใจกับคำพูดเหล่านั้น
จนก๊วยพู้ถามว่าเป็นความจริงหรือไม่
.
เซียวเล้งนึ่งผงกศีรษะอย่างเลื่อนลอย กล่าวว่า
“ข้าพเจ้าไม่ทราบ อาจบางที...อาจบางทีเป็นความจริง”
.
ก๊วยพู้จึงบังเกิดความคิดเหยียดหยามขึ้น
แค่นเสียงดังเฮอะ แล้วเดินจากไป
เมื่อนักพรตทั้งสองได้ยินเสียงกล่าววาจาจึงถาม
โดยพร้อมเพรียงกันว่าเป็นผู้ใด
.
นางจึงกล่าวตอบไปว่า “เป็นข้าพเจ้า”
.
“เซียวเล้งนึ่ง”
.
นางพลันถามว่าคำพูดของพวกท่านเมื่อครู่
ล้วนเป็นความสัตย์จริงทุกถ้อยคำ?
.
อิงจี่เปี้ยกล่าว่า “เป็นความจริงท่านฆ่าเราเถอะ”
.
ดวงตาเซียวเล้งนึ่งทอประกายพิสดาร ในใจขมขื่นถึงที่สุด 🖤
คับแค้นถึงที่สุด รู้สึกว่าต่อให้ฆ่าพันคน
สังหารหมื่นคน นางก็มิใช่โกวเนี้ยที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ไม่อาจรักเอี้ยก่วยเช่นกาลก่อนอีก
.
ทั้งสองพลันหลบหนี เซียวเล้งนึ่งก็ตามติดดุจเงาตามตัว
จากรุ่งเช้าถึงยามเที่ยง และจากยามเที่ยงวิ่งถึงหลังเที่ยง
.
ผลจากการวิ่งตะบึงสี่ห้าชั่วยาม ทั้งสองก็ไม่อาจประคองตนสืบไป
หยุดพักริมลำธาร เซียวเล้งนึ่งเนื่องจากมีวิชาตัวเบาเป็นเลิศ
จึงสามารถตามติดโดยไม่เปลืองเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย
เพียงแต่นางประสบเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ ไม่ทราบจัดการอย่างไร
ได้แต่ติดตามหลังโดยไม่คลาดคลา
.
เซียวเล้งนึ่งรู้สึกจิตใจเวิ้งว้าง ยามเศร้าเสียใจถึงที่สุด
กลับกลายเป็นความเฉื่อยชา 🍂🍂
ยื่นมือเด็ดดอกไม้เล็กๆที่ริมลำธารเสียบอยู่ข้างจอนผม
มองดูเงาสะท้อนในน้ำอย่างซึมเซา
สุดท้ายนักพรตทั้งสองขโมยม้าของทหารมองโกลหลบหนีนางไป
🎋 🎋 🎋
ขอคารวะเหล่าสหายชาวยุทธทุกท่าน 👏
อนันตทวิ ☯️
.
ขอบคุณภาพจากมังกรหยกภาค 2 (เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี)
โฆษณา