14 ต.ค. 2021 เวลา 12:35 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Squid Game
นักแสดงนำ : Lee Jung Jae และ Ho Yeon Jung
หลังจากที่ดู :
เมื่อชีวิตสุดล้มเหลว เป็นหนี้ก้อนโตจากทั่วสารทิศ สิ่งที่พวกเขาแสวงหา คือ โอกาสที่จะได้เงินไปปลดหนี้ และนำไปใช้ชีวิตให้มีความเป็นอยู่อย่างดีขึ้น ทว่าการจะได้มานั้น มันอาจกลับต้องแลกมาด้วยชีวิตของผู้คนมากมาย ซึ่งอาจรวมถึงตัวเราเอง
วันนี้ขอวนกลับมาซีรีส์เกาหลีอีกรอบนะครับ กับผลงานของ Netflix Original เช่นเคย ซึ่งตอนที่เรื่องนี้ออกฉายนั้น ขึ้นอันดับหนึ่งในหลายประเทศเลยทีเดียว โดยเรื่องราวจะคล้ายๆ กับเรื่อง Battle Royale ภาพยนตร์ชื่อดังจากประเทศ Japan เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ที่แข่งเกมกันหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว ต่างที่เรื่องนั้นต้องฆ่ากับเพื่อนร่วมชั้นเรียนของตนเอง แถมยังโดนบังคับมา แต่เรื่องนี้ทุกคนมาเพราะความโลภ และความยินยอมด้วยความสมัครใจ เพราะมีการเซ็นเอกสารก่อนลงแข่ง
เรื่องนี้ เริ่มต้นที่พระเอก รับบทโดย Lee Jung Jae หนุ่มตกอับ ที่มีหนี้มหาศาล กับแม่ที่กำลังป่วย ส่วนภรรยาและลูกสาวก็ไปมีครอบครัวใหม่ และกำลังจะบินหนีไป U.S.A. กัน เพื่อที่ดึงชีวิตตนเองให้กลับมายืนให้ได้ เขาจึงได้รับเชิญจากชายแปลกหน้า ที่รับโดย Gong Yoo ผู้ที่เคยรับบทพระเอกชื่อดังมาหลายเรื่อง โดยเฉพาเรื่อง Goblin ที่ผมเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ ให้มาร่วมเล่นเกม Ddakji กันสองคนทีแรก โดยเมื่อได้เงินจริง เขาก็ได้รับเสนอให้ไปเล่นเกมที่ได้รับเงินมากกว่านี้ โดยเขาเป็นคนที่ได้รับเชิญคนสุดท้ายของปีนี้ ด้วยลำดับที่ 456 จึงได้หมายเลข 456 ไป
กฏของเกมนั้นง่ายมาก กติกามี 3 ข้อ ได้แก่ ห้ามหยุดเล่นโดยพลการ ผู้เล่นที่ไม่ยอมเล่นเกมจะตกรอบ และ จะสามารถยุติเกมลงได้หากผู้เล่นเกินครึ่งยินยอม ซึ่งนางเอกที่รับบทโดย Ho Yeon Jung ที่เคยขโมยเงินพระเอกก่อนหน้านี้ เธอได้หมายเลข 067 สำหรับเกมมี 6 เกม เป็นเกมสมัยเด็กของคนเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นเกม A E I O U เกมแกะน้ำตาลแผ่น เกมชักเย่อ เกมลูกแก้วกันบู เกมสะพานกระจก และ เกมปลาหมึกตามชื่อเรื่องเลย โดยผู้ชนะจะได้เงิน 45,600 ล้านวอน เรียกได้ว่าปลดหนี้และใช้ชีวิตได้สบาย
เนื้อเรื่องจะหนักไปทางแนว Survivor เอาชีวิตรอด กับแนว Drama เรียกน้ำตา เพราะเราจะได้เห็น ชีวิตที่ตกระกำลำบากของแต่ละคนที่ต้องเผชิญก่อนที่จะมาร่วมเกมนี้ เราจะได้เห็นการร่วมมือกันเมื่อผลประโยชน์ลงตัว และการหักหลังกันเมื่อหมดประโยชน์ เราจะได้เห็นทั้งคนจริงจัง และคนที่หวังผลประโยชน์เพื่อให้เป็นผู้ชนะในเกมนี้ รวมทั้งเราก็จะได้เห็นวิธีการเล่นเกมที่ต่างก็ต้องใช้หัวคิดเพื่อเอาตัวรอดให้ได้ในแต่ละเกมด้วยวิธีการของแต่ละคน
สิ่งที่ต้องชมเลยคือ เหล่านักแสดงสมบทที่สร้างบรรยากาศให้มีอะไรดึงดูดมากกว่าเกมที่มีแต่การเอาชีวิตรอดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Park Hae Soo อดีตเพื่อนพระเอก หมายเลข 218 Oh Yeong Su ชายสูงวัยที่ดูอ่อนแอ แต่ไม่ธรรมดา หมายเลข 001 Heo Sung Tae นักเลงที่นิสัยไม่ดีเสมอต้นเสมอปลาย หมายเลข 101 Kim Joo Ryoung สาววัยกลางคนที่มีอะไรให้เซอร์ไพร์ส หมายเลข 212 รวมถึง Wi Ha Joon อดีตพระรองจากเรื่อง 18 Again ที่ผมเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้เช่นกัน โดยเขารับบทเป็นตำรวจสายสืบที่ลอบแฝงตัวมาหาพี่ชายที่หายตัวไป แต่เขาไม่ใช่หนึ่งในผู้เล่นเกม
สิ่งที่ต้องชมในเรื่องอีกสิ่งหนึ่ง คือ ทำให้เราได้เห็นธาตุแท้ สันดานดิบ ของมนุษย์ที่เมื่ออยู่ในภาวะกดดัน หรือต้องเอาตัวรอด แต่ละคนก็พร้อมที่จะหักหลังคนที่ไว้ใจ และพร้อมที่จะแสดงสัญชาติญาณในการฆ่าคนได้ทุกเมื่อ การถ่ายทำก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน เล่นให้เราได้ลุ้นไปกับเกมของพวกเขา ซึ่งจะว่าไปเรื่องนี้ก็แอบเสียดสีสะท้อนสังคมอยู่ไม่ใช่น้อย
ด้วยความที่มีจำนวนตอนไม่มากที่จำนวน 9 EP ความยาวประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถดูจบได้ภายในวันเดียว ใครเป็นสายโหด ชอบแนว Survivor ไม่ควรพลาดเลยจริงๆ เพราะหาที่ติไม่เจอเลย สุดท้ายแล้วใครจะเป็นผู้ชนะได้เงินรางวัลไปต้องไปลุ้นกัน ส่วนตอนจบหากใครได้ดูแล้ว มันอาจจะปูทางไปสู่ Season ที่สองได้ ว่าแต่จะมีไหม และจะมาเมื่อไหร่ เดี๋ยวคงต้องติดตามกันต่อไป
ในส่วนของเพลงประกอบนั้นไม่ได้มีชอบอะไรมากนัก เพราะหลักๆ จะเล่นกับซาวด์เสียมากกว่า สำหรับเรื่องนี้สามารถรับชมได้ทาง Netflix ครับ
เพลงประกอบที่ชอบ : –
 
คะแนนโดย Peter : 10/10
โฆษณา