17 ต.ค. 2021 เวลา 08:53 • ไลฟ์สไตล์
มาดิวัยรุ่น!!! เหตุชุนละมุน และการเลือกข้าง
เหตุการณ์หดหู่ในช่วงนี้คงไม่มีเรื่องไหนที่เป็นที่พูดถึงมากเท่ากับเหตุการทำร้ายกันจนเสียชีวิต 2 ศพด้วยอาวุธมีด
ด้วยเหตุนี้สังคมไทยเราเทน้ำหนักไปข้างฝ่ายผู้ใช้มีด มากกว่าฝั่งที่มากันหกคน และแน่นอนว่าคำถามย่อมเกิดขึ้นได้ว่าทำไมชาวเน็ตไทยถึงเห็นอกเห็นใจฝั่งนั้นมากกว่า ทั้งที่อีกฝ่ายสูญเสียไปถึง 2 ชีวิต
1
ประเด็นคือ เราจำเป็นที่จะต้องรีบตัดสินผิดถูกเร็วขนาดนั้นหรือไม่ เพราะอคติอย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราตัดสินใจเลือกฝ่ายนั่นก็คือ ความเป็นพวกเราพวกเขา เมื่อเราเลือกฝ่ายแล้วมีแนวโน้มที่เราจะไม่ให้คุณค่ากับเหตุผลของอีกฝ่าย หลายคอมเม้นต์ออกไปถึงระดับลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ของฝ่ายสูญเสียว่า ชีวิตของเขาเหล่านั้นไร้ซึ่งคุณค่า
ในกรณีนี้มันมีข้อเท็จจริงอีกมากมายที่ยังน่าเคลือบแคลงสงสัย มีมุมมองที่เราต้องตีให้แตกก่อนที่จะเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น อย่างน้อยๆอีก สองสามประเด็น เช่น เหตุการณ์มันเริ่มต้นจุดไหน มันเริ่มที่อีกฝ่ายยกพวกมารังควานที่หน้าบ้าน หรือแท้จริงแล้วเหตุการณ์มันเริ่มต้นมาจากการที่ฝ่ายนึงขับรถย้อนศร อีกฝ่ายจึงให้ของลับ แล้วเหตุการณ์จึงต่อเนื่องมาจนถึงการทำร้ายกัน สถานการณ์แบบนี้คำนิยามทางกฏหมายของเรามองว่าเหตุมันต่อเนื่องกันตั้งแต่ต้นหรือหยุดลงแล้วเริ่มใหม่
หรืออย่างการนำพามีดสองเล่มที่ลักษณะไม่ได้เป็นมีดปกติทั่วไปแล้ววิ่งเข้าหาอีกฝ่ายที่จำนวนมากกว่า เรื่องนี้ก็ยังคงต้องตอบคำถามว่า สำหรับวิญญูชนหรือคนปกติวิสัยทั่วไปถ้า พบเจอเหตุเช่นนั้นสังคมเราอนุญาตให้สามารถทำแบบนั้นได้?
1
เรื่องนี่เป็นถือเป็นการกระทำที่มีเจตนาเพราะการที่เรามีมีดและทำร้ายจุดสำคัญถือว่าประสงค์ต่อชีวิตหรือย่อมเล็งเห็นได้ว่าอีกฝ่ายมีโอกาสเสียชีวิต ในอีกมุมก็มองว่าหรือเรื่องนี้จะเป็นเหตุบันดาลโทษะเพราะเป็นห่วงคู่รักที่อยู่ในบ้านจะถูกบุกเข้ามารุมทำร้าย แต่ก็ยังมีคำถามว่าทำไมเมื่อเหตุความชุนละมุนสิ้นสุดลงแล้วยังมีการมาทำร้ายซ้ำผู้บาดเจ็บ
หลายคำถามเหล่านี้ต้องถูกคลี่คลายให้ชัดเจน เพื่อเป็นมาตรฐานในการตัดสินในอนาคต
และแน่นอนว่าเรารับรู้เรื่องราวเหล่านี้ผ่านสื่อ เราต้องไม่ลืมพิจารณาถึงแนวทางในการนำเสนอของสื่อด้วย หลายครั้งที่ข้อเท็จจริงเดียวกันสามารถนำเสนอไปในทางดีหรือร้ายผ่านการเรียบเรียงของสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่สื่อหลากหลายพยายามขายข่าวและยอดผู้ชม การเลือกข้างของเราผ่านสื่อบางช่องทางอาจก่อให้เกิดอคติขึ้นได้
1
การรีบตัดสินที่รวดเร็วเกินไปมันอาจทำให้เราพลาดไปทำร้ายเหยื่อในเหตุการณ์นั้นๆ จากที่คนต้องพบเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายแล้วยังต้องพบเจอกับกระแสสังคมที่ถาโถมเข้าไปอีก เราต้องไม่ลืมบทเรียนในอดีต ไม่ว่าจะเป็นกรณี หวย 30 ล้าน กรณีเด็กหายที่กกกอก ในขณะนั้นเสียงสังคมที่แตกออกเป็นสองฝั่งก็สร้างผลกระทบต่อชีวิตของผู้คนไม่น้อย
เรื่องบางเรื่องมันอาจมีผิดมีถูก บางเรื่องอาจผิดทั่งคู่ บางเรื่องอาจถูกทั้งคู่ หรือบางเรื่องไม่มีใครผิดใครถูก มันต้องพิจารณาหลายมุมมองให้รอบคอบ เรื่องราวในโลกใบนี้มันไม่จำเป็นต้องเปรียบเสมือนเหรียญสองด้านเสมอไป แต่มันอาจเป็นลูกเต๋าหกด้าน ทรงสามเหลี่ยมหรือเป็นทรงกลมก็ได้
สุดท้ายอยากฝากให้ลองคิดดูว่าถ้าลูกหลานเราอ่านข่าวนี้แล้วเห็นทิศทางที่สังคมเห็นดีเห็นงามหรือเห็นอกเห็นใจกับความรุนแรงแบบนี้ ทัศนคติและพฤติกรรมในอนาคตของเค้าจะเป็นอย่างไร?
: ขออภัยที่อาจใช้ภาษาอ้อมค้อมแต่เจตนารมณ์คือไม่อยากให้คำที่ใช้เรียกไปตีตรา ตัดสินว่าฝ่ายใดผิด ฝ่ายใดถูก และหลีกเลี่ยงในการตอกย้ำเหตุรุนแรง
1
โฆษณา