17 ต.ค. 2021 เวลา 11:47 • ประวัติศาสตร์
เกาะเรือรบ Battleship Island เกาะ man made และบาดแผลจากสงคราม
เมื่อวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาฉันพักผ่อนอยู่บ้าน นั่งดูทีวีกดรีโมทเปลี่ยนช่องไปเรื่อยเปื่อย จนมาถึงช่อง Mono29 ภาพในจอที่กำลังฉายอยู่เป็นฉากต่อสู้เหมือนในสงครามย้อนยุค ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเป็นประเทศอะไร จีน ญี่ปุ่น หรือเกาหลี เพราะตัวละครหน้าเลอะเปรอะเปื้อนจนดูแทบไม่ออกว่าใครเป็นใคร ฉากต่อสู้ค่อนข้างโหดสำหรับพวกคออ่อนอย่างฉัน จนแทบจะเปลี่ยนช่องหนี แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็เลยดูต่อจนฉากต่อสู้จบ ตัดไปฉากถัดไปจึงเห็นว่าหนึ่งในนักแสดงนำ คือ ซงจุงกิ พระเอกหน้าหวานแต่บู๊เก่งจากเรื่อง Descendant of the Sun ซีรี่ย์เกาหลีที่เคยดูนี่เอง แล้วหนังก็จบไปว่าพระเอกพาคนหนีออกจากเกาะได้สำเร็จ หลังจากรู้ชื่อหนังเรื่องนี้แล้วว่าคือ Battleship Island ก็เลยไปค้นหาข้อมูลดูว่าเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร เห็นว่าเป็นหนังสร้างจากเรื่องอิงประวัติศาสตร์ก็เลยจุดต่อมอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาอีก
1
จากการค้นข้อมูล สรุปว่า เกาะเรือรบนี้ ซึ่งมองไกล ๆ ก็ดูคล้ายเรือรบจริง ๆ
ในภาษาญี่ปุ่นมีชื่อว่า เกาะฮาชิมะ (Hashima Island) เป็นเกาะที่มีอยู่จริง เกาะนี้ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัทมิตซูบิชิตั้งแต่ ค.ศ. 1887 ไว้ใช้เป็นที่พักของคนงานในอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินใต้ทะเล ตั้งอยู่ห่างจากนางาซากิ 15 กิโลเมตร เกาะมีขนาดไม่ใหญ่มาก พื้นที่ประมาณ 40 ไร่ ยาวประมาณ 500 เมตรเท่านั้นเอง เดิมเคยมีคนอยู่อาศัยหนาแน่นมากสุดถึง 5,000 คน จนกระทั่ง ค.ศ. 1974 การใช้ถ่านหินถูกทดแทนด้วยน้ำมัน เกาะจึงถูกปิดไป ปัจจุบันเป็นเกาะร้างที่เค้าว่ากันว่าเฮี้ยนติดอันดับโลก ก็ที่ไหนมันรกร้างไม่มีคนอยู่ ก็เป็นปกติที่บรรยากาศจะวังเวงน่ากลัว ถึงจะไม่เคยเห็น แต่ฉันเชื่อเรื่องวิญญาณอยู่นะ
ค.ศ. 2015 เกาะนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO เนื่องจากมีการก่อสร้างอพาร์ตเมนต์สูงด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น จึงเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรมในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี แต่การได้รับรองสถานะเป็นมรดกโลกนี้ก็มีเรื่องราวดราม่าไม่น้อย อันเป็นที่มาของหนังเรื่อง Battleship Island นี่เอง เพราะเมื่อญี่ปุ่นเสนอขอเป็นมรดกโลก ก็มีการคัดค้านจากชาวเกาหลีใต้อย่างหนัก บางข้อมูลกล่าวไว้ว่า ค.ศ. 1940 -1945 (ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2) มีแรงงานชาวเกาหลีใต้และชาวจีน 500 - 800 คนถูกบังคับไปใช้แรงงานที่เกาะ และชาวเกาหลีใต้ 100 กว่าคนเสียชีวิตที่นี่
จากบทสัมภาษณ์คุณตาชาวเกาหลีใต้ผู้รอดชีวิตซึ่งเคยเป็นเหยื่อถูกบังคับใช้แรงงานในเหมืองถ่านหินใต้ทะเล คุณตาเล่าว่าบรรยายไม่ถูกเลยว่าทุกข์ทรมานขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องอาหาร เขาได้กินแค่มันเทศแห้ง ถั่วและกากถั่วเท่านั้น แลกกับที่ต้องเสี่ยงตายทำงานในเหมืองใต้ทะเลลึก 1,000 เมตร แรงงานบางคนพยายามหนีแต่ก็ไม่รอด น่าเศร้าที่การคัดค้านการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไม่สำเร็จ สุดท้ายแล้วคณะกรรมการมรดกโลกก็รับรองสถานะของเกาะฮาชิมะ โดยมีเงื่อนไขว่าญี่ปุ่นต้องยอมรับว่าเคยมีการกระทำโหดร้ายกับแรงงานต่างชาติ อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เกาะนี้กลายเป็นมรดกโลกแล้ว ก็ไม่ได้มีการกล่าวถึง Forced Labor ในป้ายหรือโบรชัวร์ประชาสัมพันธ์เกาะเรือรบนี้แต่อย่างใด
สำหรับเรื่องความเฮี้ยนนั้น ตามข้อมููลพบว่า กองถ่ายหนังญี่ปุ่นเรื่อง "Battle Royale" เคยไปถ่ายทำที่เกาะนี้ และระหว่างถ่ายทำนักแสดงสาวคนหนึ่งมีอาการเหมือนถูกผีเข้า อยู่ ๆ ก็ตาแดงก่ำ และตรงเข้าไปบีบคอนักแสดงผู้หญิงอีกคน ส่วนหนังไทยก็มีเรื่อง "ฮาชิมะ โปรเจกต์ ไม่เชื่อต้องลบหลู่" ที่ไปถ่ายทำที่เกาะนี้เช่นเดียวกัน จากบทสัมภาษณ์ นักแสดงนำคนหนึ่งบอกว่า เธอมีอาการเหมือนหายใจลำบากเมื่อเดินเข้าไปในตึกร้าง หากใครอยากสัมผัสบรรยากาศหลอน ๆ บนเกาะร้าง ก็หาโอกาสไปเที่ยวดูแล้วกัน หรือไปส่องจาก Google Map ก่อนก็ได้นะ มีภาพเมืองร้างชวนหลอนหลายมุมเลย
แม้ว่า อดีตจะเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เราสามารถเรียนรู้จากอดีตได้ การกระทำบางอย่างของเราอาจเป็นเรื่องน่าจดจำสำหรับใครหลายคน แต่ก็อาจเป็นเรื่องที่ควรลบออกจากความทรงจำของใครบางคนก็เป็นได้....
โฆษณา