28 ต.ค. 2021 เวลา 23:30
สมองเริ่มตีบ ไอเดียเริ่มตัน
เราจะชุบพลังสร้างสรรค์กลับมาอย่างไร?
8
ตอนช่วงวัยเอ๊าะๆ พวกเราต่างมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ พร้อมจินตนาการอันใหญ่ยิ่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเรื่องงานอะไรก็พร้อมลุย พร้อมสู้ด้วยไอเดียเจ๋งๆ ที่งอกออกมาไม่หยุดหย่อน แต่พอนานเข้า นานเข้า พวกพลังสร้างสรรค์ของเราก็เริ่มหายไป ยิ่งโตก็ยิ่งตัน ด้วยเวลาและกรอบชีวิตที่บงการอะไรหลายๆ อย่าง ต่างก็เป็นศัตรูตัวฉกาจแก่เรา
2
จากปรากฏการณ์ที่ผ่านๆ มา พบว่า ผู้คนวัยทำงานที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป หรือมีประสบการณ์ทำงานไม่ต่ำกว่า 5 ปี เริ่มมีอาการ ประสบปัญหาภาวะตีบตันในความคิดสร้างสรรค์ ไม่สามารถกลั่นความสดใสออกมาได้เหมือนตอนสมัยรุ่น แม้องค์กรจะพยายามเรียกร้องอย่างไรก็ตาม นั่นแสดงให้เรารู้ว่า ความสร้างสรรค์ (Creativity) ไม่ใช่ของขวัญที่อยู่กับใครได้นาน มันสามารถอันตรธานหายไปได้ถ้าไม่รักษาเลี้ยงดู
4
แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องของอายุที่มากขึ้นเป็นเหตุสำคัญ แต่สภาพแวดล้อมต่างหากที่เป็นตัวสร้างกรอบให้เราไม่กล้าคิดอะไรที่แปลกใหม่อยู่เรื่อยๆ เพราะด้วยความที่โครงสร้างบริหารองค์กร Workflow ที่ล้วนถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณเดินตามเจตจำนงพันธกิจองค์กร บวกกับประสบการณ์ที่พบเจอ ปนกับเหตุปัจจัยอื่นๆ เป็นธรรมดาที่จะทำให้เราไม่กล้านอกกรอบเหมือนแต่ก่อน หรือเอาเข้าจริงๆ แล้ว ระบบการศึกษาตั้งแต่สมัยเรายังเด็ก ต่างก็มีตรรกะที่มาตีกรอบ ด้วยโอวาทและระเบียบบังคับ การฝันกลางวันจึงเป็นเรื่องตลก ความซุกซนจึงถือเป็นปัญหา
3
ทีนี้เมื่อเราไม่สามารถที่จะเลือกสภาพแวดล้อมที่อยู่ได้ แล้วเราจะชุบชีวิตความสร้างสรรค์กลับมาได้ไหม? คำตอบคือ จริงๆ ไม่จำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมใหม่ ใช้ที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ต่างหาก แล้วเราจะสามารถสร้างความคิดสร้างสรรค์จากสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ยังไงได้บ้างนะ
.
“เก็บเกี่ยวจากฝันหวาน”
.
คนทั่วไปมักคิดว่า พวกเขาไม่มีเวลามานั่งฝันหวานหรอก แต่คิดผิดถนัด เพราะการจุดประกายทางความคิดไม่เคยมีการบอกเวลาล่วงหน้า มันเกิดขึ้นได้ทุกช่วงเวลาของชีวิต การเก็บบันทึกช่วงเวลาต่างๆ โดยปราศจากการตัดสินว่ามันถูกหรือผิดก็ช่วยได้ เพราะฉะนั้นถ้าอะไรเจ๋งๆ เผลอหลุดลอยมาในฝัน พอตื่นมาก็ให้รีบ รีบ รีบ รีบ เก็บเกี่ยวมันใส่ในสมุดจดหรืออะไรก็ตามแต่ อย่าให้มันลอยหายไป
7
“เอาตัวไปหาแหล่งแรงบันดาลใจ”
ถ้าในตอนนี้สภาพไม่เอื้อ ก็ออกค้นหามันด้วยตัวเองไปเลย การที่คุณออกเสาะหาไปยังที่ใหม่ๆ คุณจะได้รับความคิดสร้างสรรค์ เหล่าสภาพแวดล้อมที่เต็มเปี่ยมแรงบันดาลใจ จะทำให้คุณรับไอเดียใหม่ๆ จากคนอื่นๆ สิ่งของ สิ่งปลูกสร้าง หรือแม้กระทั่งธรรมชาติ ออกไปพบปะกับผู้คนใหม่ๆ ที่มีความสนใจใกล้เคียงกับคุณ หรือไม่ก็ต่างจากคุณสิ้นเชิงไปเลย ความคิดสร้างสรรค์ มันก็เหมือนโรคระบาดที่รอให้คุณไปติดเชื้อจากอะไรสักอย่างนั่นแหละ
4
“ดันเพดานด้วยความท้าทาย”
2
อะไรๆ ที่ทำอยู่ตอนนี้ มันเบื่อ มันไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง งั้นลองอะไรที่ยากและท้าทายกว่าที่เคยทำดู งานยากจะสร้างความต่างได้มากกว่า และการรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์เป็นส่วนหนึ่งที่คุณจะเจอความท้าทาย แต่อย่าทำให้มันกัดกร่อนความตั้งใจเดิมของคุณ ลองออกจากพื้นที่เดิมๆ ที่คุ้นเคย ไปเที่ยวในที่ที่คุณอยากลองมาเต็มแก่แต่ยังไม่กล้าเสียที หรือหากคุณเป็นคนเก็บตัว บรรยากาศที่เงียบสงบก็เป็นช่วงเวลาบ่มเพาะความคิด
7
“ให้ความสำคัญ กับการสร้างสรรค์เล็กๆ”
เรามักมีความเชื่อว่า แนวคิดที่เจ๋งๆ หรือสร้างความเปลี่ยนแปลง จะต้องเกิดจากบิ๊กไอเดียเท่านั้น หลายองค์กรพยายามคาดหวังให้คุณตกผลึกมันอย่างเร็วที่สุด แต่กลายเป็นว่าการตามหาอะไรที่ใหญ่เกินไป ยิ่งใช้ในบริบทของการสร้างสรรค์ด้วย มันยิ่งดูเหมือนไล่ตามอากาศธาตุ ซึ่งมันเป็น goal ที่สูงก็จริง เพราะเราต่างก็ไม่รู้ว่าจะไปถึงจุดนั้นอย่างไร นั่นจึงทำให้เราลืมที่จะลงทุนกับความคิดสร้างสรรค์เล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ทั้งที่จริงแล้วหากความคิดเล็กๆ เกิดการค่อยๆ ทับซ้อนกัน มันก็จะกลายเป็นบิ๊กไอเดียได้
“พักสักเดี๋ยว ขี้เกียจสักหน่อยก็ได้”
มีงานวิจัยหลายชิ้น ที่ให้คำอธิบายเราว่า จริงๆ ไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ของคนเรา มันสามารถเกิดขึ้นในระหว่างที่เราไม่ได้ทำอะไรด้วยนะ เหตุผลก็คือ มันเป็นช่วงเวลาที่ความคิดของเรามันล่องลอยได้อย่างอิสระ ซึ่งไม่ได้ถูกวางกรอบอะไรมากมาย หรือไม่มีอะไรมากวนสมาธิ จนเราสามารถคิดค้นอะไรใหม่ๆ ได้ งั้นไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนมาว่าเราไม่ productive ลองนั่งเฉยๆ แล้วไม่ต้องเปิดดูมือถือหรือดูงานจากคอมพิวเตอร์ ทำสมองให้โล่ง ไม่แน่อาจมีไอเดียอะไรพุ่งมาในหัวก็ได้
1
เราอยู่ในสังคมที่เราต่าง “พลาดไม่ได้” ความเชื่อเรื่องความสร้างสรรค์จึงอยู่บนรากฐานแห่งความล้มเหลว นั่นทำให้เราต่าง พยายาม Play safe กับการทำงานตัวเอง เพราะไม่อยากเพิ่มความเสี่ยง ดังนั้นหากไม่อยากให้พลังสร้างสรรค์ของคุณหายไป คุณเองก็ต้องอย่าลืมที่จะปกป้อง ความเป็นเด็ก ความเป็นตัวเอง ที่อยู่ข้างในด้วยนะ
3
เรียบเรียงโดย : Chanin Sakunkarnkirati
ที่มา : Psychology Today / ResearchGate / BBC / Business Insider
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
1
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
1
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
.
.
“Knowledge is the only way to success”
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามคอนเทนต์เพื่อพัฒนาตัวเองสู่ความสำเร็จจาก Future Trends ได้ที่
(อย่าลืมกด See First เพื่อไม่ให้พลาดคอนเทนต์ใหม่ในทุก ๆ วัน)
#FutureTrends #KnowledgeforSuccess
โฆษณา