19 ต.ค. 2021 เวลา 04:45 • การตลาด
ตลาดน้ำปลาร้า 10,000 ล้าน
เข้าง่าย แต่เกิดยาก !!!!
1
หากมองเข้ามาที่ตลาดน้ำปลาร้าของบ้านเรา พบว่ามีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท เป็นตลาดที่ การเข้าตลาดนี้มีอุปสรรคในการเข้าค่อนข้างต่ำ เพราะนอกจากจะมีโรงงานที่ผลิตสินค้าทำ OEM เพื่อนำไปติดแบรนด์ของตัวเองกระจายอยู่ทั่วประเทศเป็นจำนวนมากแล้ว หากคนที่จะเข้ามาทำตลาดเป็นคนที่มีชื่อเสียง หรือเป็นดารา นักร้อง ที่สามารถเอา Personal Brand ของตัวเองไป Endorse เพื่อทำแบรนด์น้ำปลาร้าของตัวเองเข้าทำตลาด ก็จะทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
ทำให้ตลาดน้ำปลาร้าในปัจจุบัน มีแบรนด์อยู่ในตลาดถึง 200 – 300 แบรนด์เลยทีเดียว ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือเหล่าบรรดาคนที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ต่างก็เข้ามาทำแบรนด์ของตัวเองเพื่อลุยตลาด ไม่ว่าจะเป็นน้ำปลาร้าแบรนด์แซ่บไมค์ ของนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง “ไมค์ ภิรมย์พร” น้ำปลาร้าแบรนด์หม่ำ จ๊กม๊ก น้ำปลาร้าตุ๊กกี้ ชิงร้อย หรือแม้แต่บอล เชิญยิ้ม ก็เข้ามาร่วมแจมกับเขาในตลาดนี้ด้วยเช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่นักมวยดังอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” ก็มีน้ำปลาร้า แบรนด์บัญชาเมฆ กับเขาด้วย
2
ล่าสุด “เป็ด เชิญยิ้ม” ในนาม บริษัท เชิญยิ้ม ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด ก็มีการจับมือกับบริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ส่งน้ำปลาร้าปรุงสุก “เชิญยิ้ม” เข้ามาร่วมแจมตลาดด้วย เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ถูกต่อยอดมาจาก Iconic Brand ของ “เชิญยิ้ม” ที่คนไทยรู้จักในฐานะของตลกคณะดังที่อยู่ในบ้านเรามากกว่า 30 ปี
ว่ากันว่า ตลาดนี้ ไม่มีเกาะป้องกันที่แข็งแกร่งสำหรับผู้เล่นรายเดิมในตลาด เพราะเป็นตลาดที่สามารถเข้าได้ง่าย แต่การทำตลาดนั้น มีความยากลำบากอยู่ในตัว โดยเฉพาะเรื่องของการกระจายสินค้า เพราะนอกจากการขายผ่านเชนโมเดิร์นเทรดที่มีเรื่องของต้นทุนในการนำสินค้าเข้าไปวางขายที่จะตามมาด้วยอำนาจในการต่อรองแล้ว ยังมีช่องทางขายแบบดั้งเดิมทั้งโชวห่วย และร้านค้าในตลาดสด - ตลาดนัด จึงต้องมีระบบจัดจำหน่ายที่ค่อนข้างดี
พาร์ทเนอร์ ที่เป็นบริษัทจัดจำหน่าย จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ เช่นเดียวกับเรื่องของการทำ Branding ที่ต้นทุนของแบรนด์ดารา หรือแบรนด์คนดังที่นำมา Endorse เข้าไป จึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน
ทำให้ เราได้เห็นน้ำปลาร้าหลายแบรนด์ที่เข้าตลาดก่อนหน้า แทบจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรออกมามากนัก
อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายแบรนด์ที่มีการเติบโตค่อนข้างดี ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็คือ การทำตลาดของน้ำปลาร้า “แซ่บไมค์” ที่ไมค์ ภิรมย์พร นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง คือภาพสะท้อนในเรื่องดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะหากย้อนไปที่การก่อกำเนิดของแซ่บไมค์ จะพบว่า แบรนด์นี้เกิดขึ้นบนดีเอ็นเอของเจ้าของแบรนด์ที่เป็นคนอีสาน ซึ่งคุ้นเคยกับสินค้าเป็นอย่างดี และ Purpose ของการให้กำเนิดแบรนด์ก็คือ ต้องการให้คนอีสานหรือคนไทยได้บริโภคน้ำปลาร้าปรุงสุกที่มีคุณภาพ เพื่อลดปัญหาการบริโภคปลาร้าดิบที่เป็นต้นตอหนึ่งของการเกิดโรคพยาธิใบไม้ในตับ
อีกสิ่งที่เป็นตัวเชื่อมโยงไปสู่แบรนด์น้ำปลาร้าที่ส่งลงตลาดได้เป็นอย่างดีก็คือ การที่ไมค์ ภิรมย์พร เคยทำร้านอาหารอีสานมาก่อน ทำให้เข้าใจในเรื่องของเครื่องปรุงต่างๆ ที่มีน้ำปลาร้าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องปรุงรสเหล่านั้นด้วย
ที่เป็นหัวใจสำคัญในการทำให้น้ำปลาร้าแบรนด์นี้สามารถก้าวข้ามจากการเป็น Iconic Business สู่การเป็นแบรนด์สินค้าที่ขายให้กับคนทั้งประเทศก็คือ การได้บริษัทจัดจำหน่ายอย่าง APF Distribution ในเครือของกลุ่มบริษัทอำพลฟูดส์ เข้ามาเป็นคนจัดจำหน่ายให้ ซึ่งไมค์แซ่บ ถือเป็นสินค้านอกเครือแบรนด์แรกที่ APF Distribution จัดจำหน่ายให้
เพราะหลังจากที่แบรนด์สามารถ “เทคออฟ” และเป็นที่รู้จักของตลาดแล้ว การได้บริษัทจัดจำหน่ายที่มีเครือข่ายการจัดจำหน่ายเป็นหน่วยรถกระจายสินค้ากว่า 100 คัน มีคลังสินค้าที่ค่ายนี้ประกาศจะลงทุนเปิด 30 แห่งทั่วประเทศ เข้ามาเป็นตัวช่วยสนับสนุนการขายนั้น จะช่วยทำให้สามารถผลักดันสินค้าเข้าสู่ทุกช่องทางขายทั้งที่เป็นโมเดิร์นเทรด ร้านค้าดั้งเดิม ตลาดสด และตลาดนัด รวมถึงช่องทางขายผ่านออนไลน์ ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศ สิ่งที่ตามมาก็คือ การมีสเกลเป็นแมสที่เข้ามาช่วยซัพพอร์ตโรงงานผลิตได้เป็นอย่างดี
หากเทียบกับแบรนด์น้ำปลาร้าของคนดังแบรนด์อื่นๆ จะพบว่า แซ่บไมค์ มีช่องทางการขายที่ค่อนข้างจะครอบคลุม ซึ่งเมื่อครั้งแถลงข่าวเปิดตัวการเป็นพันธมิตรกับกลุ่มอำพลฟูดส์ คุณเกรียงศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อำพลฟูดส์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า ผลตอบรับจากลูกค้ามีออกมาค่อนข้างดี ทำให้มียอดขายในช่วงแรกถึงสัปดาห์ละ 1 แสนโหล ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ออกมาค่อนข้างดี
ตามโรดแม็บของแซ่บไมค์นั้น นอกจาก การทำตลาดในประเทศแล้ว น้ำปลาร้าแบรนด์นี้ยังมองถึงการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นสเตปต่อไปของการทำตลาด ซึ่งว่าไปแล้ว ด้วยคุณสมบัติของตัวสินค้าที่เป็นเครื่องปรุงรสประเภทหนึ่ง ทำให้กลายเป็น 1 ในสินค้าที่มีความถี่ในการบริโภคไม่แพ้เครื่องปรุงรสประเภทอื่นๆ
นั่นคือเหตุผลว่า ทำไม ผู้เล่นหลายรายจึงสนใจตลาดนี้ และการเข้าตลาดของน้ำปลาร้าปรุงสุก “เชิญยิ้ม” คืออีก 1 ตัวอย่างที่น่าสนใจ
เพราะถ้ามองมาที่ “เชิญยิ้ม” แล้ว การเป็นตำนานในวงการตลกของบ้านเรามากกว่า 30 ปี สามารถส่งให้ “เชิญยิ้ม” ก้าวข้ามจากแค่คณะตลก มาสู่การเป็นแบรนด์ได้ในสายตาของคนไทย ทำให้สามารถนำไปต่อยอดสู่การทำสินค้าบริการอื่นๆ ที่มีดีเอ็นเอใกล้เคียงกัน นั่นคือ ความสนุกสนาน อารมณ์ดี และมีความสู้ชีวิตในตัว
การลงตลาดน้ำปลาร้า เป็นอีกคำตอบในเรื่องนี้ เพราะ “เป็ด เชิญยิ้ม” ดร.ธัญญา โพธิ์วิจิตร รองประธานกรรมการ และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชิญยิ้ม ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด (CYP) ทำหน้าที่เสมือนการส่งต่อแบรนด์ไปให้กับพันธมิตรอย่าง ริษัท เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) บทบาทหน้าที่ในการเข้ามาเป็นผู้ผลิต และจัดจำหน่าย พร้อมดูแลเรื่องการกระจายสินค้าของ บริษัท เชิญยิ้ม ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด และต่อยอดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมทำการตลาดร่วมกันในทุกมิติ เพื่อนำไปสู่การขยายขีดความสามารถที่จะกระจายสินค้าสู่ตลาดโลก
1
เป็ด เชิญยิ้ม บอกว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการริเริ่มความร่วมมือทางธุรกิจซึ่งทั้งสองบริษัทฯ ต่างเห็นพ้องต้องกันถึงโอกาสทางธุรกิจ ในการสร้างและผลักดันผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าปรุงรสต้มสุกสู่ตลาด ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหารที่มีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท(หนึ่งหมื่นล้านบาท) ต่อปี จึงเป็นโอกาสที่ทางบริษัทจะผลิตผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าปรุงรสต้มสุก อีกทั้งทาง บริษัทยังมีศักยภาพเพียงพอในด้านการสื่อสารการตลาดเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งทาง Online, Offline, On ground Activity รวมถึงทางรายการ “ก่อนบ่ายคลายเครียด” ที่จัดเป็นสื่อประชา สัมพันธ์อย่างดีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์สู่กลุ่มเป้าหมาย ซึ่งกลุ่มประชากรส่วนใหญ่ที่เป็นผู้ชมรายการคือกลุ่มพ่อบ้าน แม่บ้าน พ่อค้า แม่ค้า และผู้ที่ชื่นชอบการทำอาหาร ในทุกเพศทุกวัย
แม้ในตลาดของผลิตภัณฑ์น้ำปลาร้าปรุงรสต้มสุกนั้น จะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด แต่ด้านเอกลักษณ์อันเป็นที่จดจำของผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาร้าปรุงรสต้มสุก ตราเชิญยิ้ม” นั้น คือ ความสะอาด รสชาติอร่อย เข้มข้น และสามารถนำไปปรุงประกอบได้กับอาหารหลายเมนู ไม่เฉพาะแค่อาหารจานเผ็ดเท่านั้น และ “เชิญยิ้ม” คือแบรนด์ที่ผู้บริโภครู้จักเป็นวงกว้าง และเป็นชื่อที่มีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคมาอย่างช้านาน ในแง่ของการสร้างความบันเทิง และเสียงหัวเราะจากตลกคณะ “เชิญยิ้ม” ซึ่งเป็นคณะดาราตลกที่มีชื่อเสียง และมีสมาชิกมากที่สุดของวงการบันเทิงไทย จึงมีจุดยืนที่เข้มแข็งในด้าน Brand Positioning
1
สำหรับยอดขายที่ตั้งเป้าหมายไว้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 อยู่ที่จำนวน 1 ล้านขวด และตั้งเป้ายอดขายในปี 2565 อยู่ที่ 9 ล้านขวด ซึ่งความเชื่อมั่นนั้นวิเคราะห์ได้จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจากวิกฤต การณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นั้น ที่ยังไม่ส่งผลกระทบใดๆ จึงไม่ถือเป็นอุปสรรคและความท้าทายของการผลักดันยอดขายตามที่ตั้งเป้าไว้
นอกจากนี้ในอนาคต ผลิตภัณฑ์ “น้ำปลาร้าปรุงรสต้มสุก ตราเชิญยิ้ม” ยังมีแผนในการต่อยอดผลิตภัณฑ์เป็นน้ำปลาร้าปรุงรสต้มสุก สูตรแม่ค้าขนาดใหญ่ (Big Size) เหมาะสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารที่มีความจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ปรุงรสเป็นจำนวนมาก สำหรับแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “เชิญยิ้ม” ในปี 2565 จะอยู่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร กลุ่มอาหารทานเล่น อาทิ ลูกชิ้นคากิ, ไส้กรอกอีสาน , ไส้กรอกคากิ, หมูยอ, ขาหมูชิ้น, หมูบะช่อ กลุ่มเครื่องดื่มกาแฟสุขภาพ 3 in 1 ผลิตภัณฑ์ขนมกัมมี่ “อารมณ์ดี” ผลิตภัณฑ์อาหารบนสายการบิน ผลิตภัณฑ์ประเภทกับข้าว แกงถ้วยสำเร็จรูป ฯลฯซึ่งเป็นแผนการขยายฐานธุรกิจในอนาคต ที่ทางบริษัทฯ ตั้งใจส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพ สะอาด อร่อย ปลอดภัยต่อสุขภาพให้ผู้บริโภคต่อไปภายใต้แนวคิด Enjoy Life Enjoy Food
การมาแบบ “ฟอร์มใหญ่” ของน้ำปลาร้าปรุงสุก เชิญยิ้ม น่าจะเป็นอีก 1 สีสัน ที่เขย่าให้ตลาดน้าปลาร้า 10,000 ล้าน มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น.....
#BrandAgeOnline
โฆษณา