31 ต.ค. 2021 เวลา 13:00 • หนังสือ
สวัสดีคนรักหนังสือและนักอ่านทุกท่านนะคะ💕
ในวันนี้ลี่ก็จะมารีวิวหนังสือเล่มแรกที่นำมาชวนอ่านกันในกิจกรรมชวนอ่านหนังสือประจำเดือนตุลาคมนี้ ลี่หวังว่าทุกท่านจะสนุกสนานและได้เริ่มอ่านหนังสือดี ๆ ในธีม “เรื่องราวของหนังสือในหนังสือ” รอบนี้ไปพร้อม ๆ กันนะคะ สำหรับหนังสือเล่มแรกในครั้งนี้ เราไปเริ่มอ่านรีวิวกันเลยดีกว่าค่ะว่าจะน่าอ่านขนาดไหน
Lin Review : เล่มที่ 20
หนังสือ : หนังสือที่กลืนกินคุณพ่อของผม / Os Livros Que Devoraram o Meu Pai
ชื่อผู้เขียน : อะฟงซู ครุช
ชื่อผู้แปลจากภาษาโปรตุเกส : เบญจรัศมี รุจน์รวีหิรัญ
สำนักพิมพ์ : Book Moby Press
ประเภทหนังสือ : วรรณกรรมแปล (ขนาดสั้นและหรรษา)
จำนวนหน้า : 157 หน้า
ราคาปก : 220 บาท
📕ความรู้สึกก่อนอ่าน :
ก่อนหยิบวรรณกรรมเรื่องนี้มาอ่าน ลี่ค่อนข้างคาดหวังความแฟนตาซีสุด ๆ จากชื่อเรื่องเอาไว้มากพอสมควร และเลือกเรื่องนี้มาอ่านเป็นเล่มเปิดในห้องชวนอ่านหนังสือเพราะอยากประเดิมด้วย “เรื่องราวของหนังสือในหนังสือ” ที่คาดเดาไม่ได้ค่ะ
📕เนื้อเรื่องโดยรวม :
หนังสือที่กลืนกินคุณพ่อของผม เป็นเรื่องราวของ อีลิยัช บงฟิง เด็กชายอายุสิบสองปี ที่ไม่เคยได้พบพ่อของเขาเลยสักครั้ง เขารู้จักพ่อผ่านเรื่องเล่าของย่า และมรดกหนังสือในห้องใต้หลังคาที่พ่อฝากย่าให้มอบให้เขาเมื่อเขาพร้อมเท่านั้น
เมื่ออายุครบสิบสองปีอีลิยัชก็ได้รู้จักกับโลกของพ่อ โลกแห่งหนังสือและตัวละครต่าง ๆ ที่พ่อเคยรู้จัก พวกเขาออกจากหน้ากระดาษมาโลดแล่นไปพร้อมกับหนุ่มน้อย และช่วยเขาตามหาคำตอบของการหายไปที่เป็นปริศนาของพ่อ ในขณะเดียวกัน อีลิยัช ก็ต้องรักษาโลกแห่งความจริงที่เขาดำรงอยู่ควบคู่กันไปด้วย
ในท้ายที่สุดการผจญภัยตามหาพ่อในครั้งนี้กลับทำให้เขาค้นพบคำตอบของสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า นั่นก็คือ วิธีการเยียวยาจิตวิญญาณต่อสิ่งที่จากไปและสูญหายตลอดกาล
📕ความรู้สึกหลังอ่าน :
หลังอ่านจบคืออึ้งไปเลยค่ะ เหมือนคาดหวังจะเจอเรื่องแฟนตาซีแต่ได้สนุกกับนิยายสืบสวนสหบท ที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรม เอาล่ะสิ อ่านรีวิวบรรทัดแรกทุกคนถอยแล้วหนึ่งก้าว😂 ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ ไม่เว่อร์วังถึงขั้นนั้น นี่เป็นเพียงการบรรยายถึงความรู้สึกระหว่างอ่านให้เห็นภาพ
เรื่องราวในวรรณกรรมเรื่อง หนังสือที่กลืนกินคุณพ่อของผมอาจจะไม่ใช่เรื่องที่พุ่งไปในโลกต่างมิติ ผจญภัยข้ามน้ำข้ามทะเล แต่ความสนุกของเรื่องนี้คือการที่เราจะค่อย ๆ ได้ คลี่คลายปมปริศนาและได้รู้จักกับนักเขียน รวมถึงตัวละครในวรรณกรรมชื่อดังระดับโลกแบบใกล้ชิด และได้เห็นมุมมองความคิดของตัวละครในรูปแบบที่เรายังไม่เคยได้รู้จัก
ลี่คิดว่านักอ่านที่เป็นแฟนวรรณกรรมของ เฮช จี เวลส์, โรเบิร์ต สตีเวนสัน, ฟีโอดอร์ ดอสโตเยียฟสกี จะต้องชื่นชอบวรรณกรรมเรื่องนี้อย่างแน่นอนค่ะ และอาจจะปลิ้มนิด ๆ ที่ได้พบปะตัวละครที่คุ้นเคย เพราะในเรื่องนี้อีลิยัชจะพาเราไปกระทบไหล่คุณเพร็นดิก ดร.ซีครอฟ มิตเตอร์ไฮด์ และราสโคลนิคอฟ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้เอง ที่จะช่วยไขปริศนารวมถึงสอดแทรกมุมมองที่มีต่อโลกใบนี้ให้กับเราไปพร้อม ๆ กัน
ในส่วนของสิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับลี่ ไม่ได้มีเพียงเรื่องที่เรากระทบไหล่ตัวละครดังเท่านั้นค่ะ แต่เป็นประเด็นและสิ่งที่ลี่ได้เรียนรู้ไปพร้อมกับอีลิยัช ไม่ว่าจะเป็นมุมมองที่มีต่อมนุษย์ ความเข้าใจตนเองและการเมตตาต่อตนเองเพื่อปลดปล่อยจิตวิญญาณที่ถูกขังไว้ด้วยความรู้สึกผิด ไม่ใช่การโบยตีมันเพื่อให้สำนึก
เรื่อง หนังสือที่กลืนกินคุณพ่อของผม มีความพิเศษคือวิธีการเล่าเรื่องที่ตัดสลับไปมาระหว่างเรื่องราวในโลกวรรณกรรม กับ เรื่องราวในโลกความจริง ในตอนแรกเราจะสับสนเล็กน้อยกับเรื่องราวนอกหนังสือแต่พออ่านไปเรื่อย ๆ เราจะเริ่มเข้าใจและมองเห็นภาพรวมของจุดหมายแห่งการผจญภัยมากขึ้นว่า อีลิยัช คือหนึ่งในผู้ที่ใช้หนังสือในการนำทางชีวิตและเยียวยาจิตใจของเขาจากเรื่องโหดร้ายที่เด็กอายุสิบสองย่างสามสิบต้องเผชิญ ทั้งปมในอดีตที่โหยหาพ่อมาโดยตลอด ซึ่งทำให้การอ่านหนังสือ ณ ห้องใต้หลังคา เป็นช่วงเวลาที่เหมือนว่าเขาได้อยู่ใกล้พ่อมากที่สุด และการอ่านหนังสืออีกเช่นกันที่เป็นแสงสว่างนำทางเขาออกจากความมืดมิดในจิตใจและเยียวยาความบอบช้ำจากการสูญเสียครั้งใหญ่ที่ต้องเผชิญ
สุดท้ายนี้ลี่คิดว่าวรรณกรรมแปลเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านง่าย อ่านสนุก ด้วยวิธีการแบ่งบท การเล่าที่น่าติดตาม จริงอยู่ที่หากคุณคาดหวังวรรณกรรมแฟนตาซีจ๋า อบอุ่นหัวใจอาจจะต้องผิดหวัง แต่เรื่องนี้จะช่วยให้คุณเผชิญหน้ากับชีวิตในยามที่เราอยากโบยตีหัวใจของตัวเองเพื่อทดแทนความรู้สึกผิดได้ดีอย่างมากแน่นอน
📕หนังสือเล่มนี้เหมาะกับ : นักอ่านที่กำลังมองหาวรรณกรรมสั้น ๆ สักเรื่อง ที่อ่านเพลินแต่ให้แง่คิดและสะเทือนอารมณ์เบา ๆ ค่ะ
📕Quote ที่ประทับใจ :
“คุกที่แท้จริงของเขาอยู่ภายในหัวของเขาเอง กล่าวได้ว่าที่นั่น เป็นที่ที่มนุษย์ทุกคนเป็นอิสระหรือถูกลงทัณฑ์อยู่” — หนังสือที่กลืนกินคุณพ่อของผม, อะฟงซู ครุช, หน้า105
“ความทรงจำของเราน่ะไม่เคยเป็นจริงหรือแท้แน่นอนหรอก มันเป็นแค่การตีความเท่านั้น ยังมีการตีความแบบอื่นอยู่อีก และเมื่อวันเวลาผ่านไป เราก็จะมองเห็นอดีตด้วยวิธีที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ ความทรงจำของพวกเราก็จะถูกมองด้วยมุมมองที่แตกต่างไปเรื่อย ๆ ตามแต่สิ่งที่เราเรียนรู้และตามแต่สิ่งที่เรารู้สึกในชั่วขณะที่เราระลึกถึงมัน” — หนังสือที่กลืนกินคุณพ่อของผม, อะฟงซู ครุช, หน้า 136
“คนคนหนึ่งมีตัวตนจากสารพัดสารพันเรื่องราวไม่ใช่จากดีเอ็นเอ กล้ามเนื้อ หรือกระดูกแต่อย่างใด หากแต่จากสารพัดสารพันเรื่องราวต่างหากเล่า” — หนังสือที่กลืนกินคุณพ่อของผม, อะฟงซู ครุช, หน้า144
📕ระดับความชอบ : 8/10
📕หนังสือที่น่าอ่านเพิ่ม :
สำหรับเล่มนี้ควรใช้ชื่อหัวข้อว่า “หนังสือที่น่าอ่านก่อนหรืออ่านตาม” มากกว่าค่ะ เพราะอย่างที่ได้บอกไปตอนต้นว่า วรรณกรรมเรื่องนี้ผ่านเราไปรู้จักกับนักขียนและเพลิดเพลินไปกับหนังสือเรื่องอื่น ๆ ได้อย่างน่ามหัศจรรย์ จนรู้สึกเหมือนโดนป้ายยาโดยที่ไม่รู้ตัว
ดังนั้นในส่วนของหนังสือที่น่าอ่านตาม ลี่เลยอยากจะรวบรวมนังสือเล่มที่อ่านแล้วรู้สึกว่าได้รับการกล่าวถึงเด่น ๆ มาแนะนำให้ทุกท่านไปตามอ่าน หรือ่านก่อนนะคะ เพื่อเพิ่มความฟินสำหรับการอ่านเรื่องหนังสือที่กลืนกินคุณพ่อของผม
🏝เกาะของ ดร.มอโร เขียนโดย H. G. Well : เรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์สติเฟื้องที่อยากจะสร้างสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบขึ้นมาโดยไม่ข้ามขีดจำกัดของคำว่าศีลธรรม เขาได้รับแรงบันดาลใจจากทฤษฎีธรรมชาติคัดสรรของดาร์วิชี และแน่นอนว่าการทดลองอันแปลประหลาดนี้จะต้องทำในที่ที่ห่างไกลผู้คนซึ่งเราจะได้รู้จักกันในชื่อ “เกาะของดร.มอโร”
😈ดร.เจนกิล กับมิตเตอร์ไฮด์ เขียนโดย โรเบิร์ต ลูอิส สตีเวนสัน : วรรณกรรมสืบสวนคลาสสิก เรื่องราวของทนายความที่สูญเสีย เจนกิล เพื่อนอันเป็นที่รักและพยายามสืบหาว่าเหตุใดเพื่อนของเขาจึงยกมรดกให้ มิตเตอร์ไฮด์ บุรุษที่มีนิสัยร้ายกาจ จนในที่สุดเขาก็ได้พบว่า ดร.เจนกิลและมิตเตอร์ไฮด์คือคนคนเดียวกัน
🗡อาชญากรรมและการลงทัณฑ์ เขียนโดย ฟีโอดอร์ มิคาอิลโลวิช ดอสโตเยียฟสกี : เรื่องราวของราสโคลนิคอฟ นักศึกษาหนุ่มผู้ยากจน เขาเช่าห้องอยู่ในกรุงเซนต์ปีตอร์สเบิร์ก แต่ฐานะทางการเงินที่ขัดสนและความบีบคั้นทำให้เขาวางแผนและลงมือฆ่าหญิงสองคน คนแรกเขาตั้งใจแต่คนที่สองคือผู้เคราะห์ร้ายที่บังเอิญผ่านมาเห็นเหตุการณ์ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวการฆาตรกรรมแต่ยังพูดถึงปัญหาทางปรัชญาและจิตวิทยาอีกด้วย วรรณกรรมเล่มนี้ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ในสุดยอดวรรณกรรมจากนักเขียนทั่วโลก
🧯ฟาเรนไฮต์ 451 เขียนโดย Ray Bradbury : วรรณกรรมเรื่องนี้ได้เป็น 1 น 100 วรรณกรรมที่ Amazon จัดว่าต้องอ่านสักครั้งก่อนตาย ฟาเรนไฮต์ 451 เรื่องราวของ “มอนแท็ก” บุรุษเพลิงผู้เก็บหนังสือจากการวางเพลิงเอาไว้ซึ่งปกติแล้วคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำหรับโลกที่หนังสือถูกสั่งห้าม และบุรุษเพลิงไม่ได้มีหน้าที่ดับเพลิงไหม้ของไฟในอาคาร แต่มีหน้าที่ดับไฟแห่งพลังของหนังสือที่ลุกโชนนั้น ทำให้สิ่งที่มอนแท็กทำลงไปเป็นความผิดมหันต์ (เรื่องนี้น่าอ่านมากค่ะ ลี่โดนเรื่องน้ีตกเต็ม ๆ )
สุดท้ายนี้ขอให้ทุก ๆ คนมีความสุขกับการอ่าน และพบเจอหนังสือที่เป็นเนื้อคู่ของเรานะคะ หากนักอ่านท่านใดสนใจอ่านรีวิวหนังสือเล่มต่อไป สามารถติดตามเพจ Linderelly ได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในโพสหน้าค่ะ😊🏠🌷💕
#LinReview #รีวิวหนังสือ #LovetoReadme
#หนังสือที่กลืนกินคุณพ่อของผม #bookmobypress #ByLinderelly

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา