21 ต.ค. 2021 เวลา 08:39 • กีฬา
ซอง คัง : เมื่อบท “ฮาน หลิว" แห่ง Fast & Furious เปลี่ยนชีวิตสู่ "คนบ้ารถ" | Main Stand
1
“รังหรูดี”
ประโยคเดียวสั้น ๆ จากปากของหนึ่งในตัวละครอันเป็นที่รักของแฟน ๆ “ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส” อย่าง “ฮาน” ในภาพยนตร์เรื่อง “F9 : The Fast Saga” หรือ “เร็ว แรง ทะลุนรก 9” ภาพยนตร์ลำดับที่ ของแฟรนไชส์ ที่ได้กลับมาโลดแล่นบนหน้าจอให้หายคิดถึงกันอีกครั้ง พร้อมสร้างความตื่นเต้นแบบเต็มหลอดให้กับแฟน ๆ หลังจากที่เราเข้าใจว่าตัวละครของเขาหายไปจากแฟรนไชส์แล้วในตอนจบของภาค 6
ฮาน หลิว ปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ “The Fast and the Furious : Tokyo Drift” ภาพยนตร์ลำดับที่ 3 ของแฟรนไชส์ และมีบทบาทต่อเนื่องมาจนถึงภาค 5 ด้วยบุคลิก วิธีการพูด และฝีมือการขับรถสุดเท่ของเขาทำให้เขากลายเป็นตัวละครสุดโปรดของผู้ชมได้ไม่ยาก
5
นอกจากฮาน นี่คือการหวนคืนจอกลับสู่แฟรนไชส์ของ “ซอง คัง” นักแสดงคนเดิมผู้กลับมารับบทนี้อีกครั้ง ซึ่งนอกจากในเรื่องเขาจะรับบทเป็นนักขับตัวยงแล้ว รู้หรือไม่ว่าในชีวิตจริงของเขา คังก็เป็นคนรักรถพอ ๆ กับฮาน และการรับแสดงในแฟรนไชส์ภาพยนตร์ ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ของเขานั้น ก็เปรียบเสมือนเป็นการตอกย้ำความชอบนี้ให้เขาขึ้นไปอีก จนอาจกล่าวได้ว่าเขาเหมือนกับคนรักรถที่แสดงหนัง มากกว่านักแสดงหนังที่รักรถเสียอีก
ความเนิร์ดรถของ ซอง คัง นั้นมีมากขนาดไหน แฟรนไชส์ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความหมายกับเขาอย่างไร ?​
1
Main Stand ขออาสาเล่าให้ฟัง
JUSTICE FOR HAN
“ซอง คัง” หรือ ชื่อเต็ม “ซอง โฮ คัง” เป็นนักแสดงชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลี เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน ปี 1982 ในเมืองคลากส์ตัน รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครอบครัวผู้อพยพจากประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้การดูแลโดยคุณแม่ชาวเกาหลีและพ่อเลี้ยงที่เป็นชาวแอฟริกัน-อเมริกัน
เมื่อเข้าสู่วัยมัธยม เขาก็ได้ย้ายบ้านอีกครั้งไปอยู่ที่ บาร์สโตว์ แคลิฟอร์เนีย เนื่องจากพ่อเลี้ยงของเขาที่เป็นทหารต้องย้ายไปประจำการอยู่ที่ฟากตะวันตกของประเทศ เมื่อเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวคังก็ได้ย้ายออกจากบ้านไปตามความฝันการเป็นนักแสดงที่ลอสแอนเจลิส
1
Photo : MTV Films/Everett Collection
ที่นั่นเอง คังได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพนักแสดงอย่างจริงจัง เขาได้รู้จักกับ “จัสติน ลิน” ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนและได้มีส่วนร่วมในภาพยนตร์แจ้งเกิดของลินอย่าง “Better Luck Tomorrow” (2002) ภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นเอเชียนที่พาตัวเองเข้าไปพัวพันกับอาชญากรรม ที่เป็นเหมือนประตูแจ้งเกิดของคังไปด้วย เกร็ดน่ารู้เล็กน้อยจากเรื่องนี้คือ ก่อนที่เขาจะมาเป็นฮานใน ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ในภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเขาก็รับบทตัวละครที่ชื่อฮานเช่นเดียวกัน
ซอง คัง ในบทบาทของ “ฮาน หลิว” ปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ “The Fast and the Furious : Tokyo Drift” ที่ออกฉายเมื่อปี 2006 ที่กำกับโดย จัสติน ลิน อีกเช่นเคย คาแร็กเตอร์ของเขาเปรียบเสมือนการเป็นอาจารย์มาดขรึมผู้ถ่ายทอดวิชาการดริฟต์รถสุดระห่ำให้กับพระเอกของเรื่องอย่าง ฌอณ (นำแสดงโดย ลูคัส แบล็ค) เพื่อที่จะพัฒนาฝีมือให้เก่งขึ้นไปอีกขั้นให้ได้ ฮานได้กลับมามีบทบาทอีกครั้งใน “Fast Five” ภาพยนตร์ลำดับที่ 5 ในปี 2011 และ Fast and Furious 6 ในปี 2013 ก่อนที่จะหลุดไปจากแฟรนไชส์ในตอนท้ายของภาค 6
1
หลังจากนี้มีสปอยล์เล็กน้อย
คำเตือนสำหรับใครที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์และไม่เก็ตว่าทำไมตัวละครฮานถึงเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลายนัก เราขอแนะนำให้ไปดูก่อนดีกว่า หรือถ้ามากไปและต้องการทำความเข้าใจเฉพาะเส้นเรื่องของฮาน เราจะสรุปให้ฟังสั้น ๆ
จริง ๆ แล้ว ฮานได้ตายไปตั้งแต่ภาคที่ 3 ของแฟรนไชส์จากการประสบอุบัติเหตุในขณะที่กำลังขับ DK RX-7 FD และจู่ ๆ ก็มี Mercedes Benz S-Class คันหนึ่งโผล่มาชนจนรถระเบิด หลายคนจึงเข้าใจว่าเขาได้ตายไปแล้วจากอุบัติเหตุ แต่เมื่อความนิยมเพิ่มมากขึ้น ภาพยนตร์ก็ได้เริ่มทำการขยายจักรวาล พร้อมกับทำการรีเซ็ตจักรวาลใหม่แบบกลาย ๆ นำเสนอภาพยนตร์แบบย้อนไทม์ไลน์ 4-5-6 เมื่อนำมาเรียงไทม์ไลน์ใหม่เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียสจึงเป็น 1-2-4-5-6-3-7-8
Photo : insider.com
เมื่อเข้าสู่ภาค 6 ก็ได้มีการเฉลยในเครดิตท้ายภาพยนตร์ว่า จริง ๆ แล้วเบนซ์คันที่ขับชนฮานไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นความตั้งใจในการพยายามฆ่าโดย “เดกคาร์ด ชอว์” (นำแสดงโดย เจสัน สเตแธม) ที่ขับชนเพื่อจะ ล้างแค้นให้ “โอเว่น ชอว์” (นำแสดงโดย ลุค อีแวนส์) น้องชาย ตัวร้ายที่โดนพวกดอมรุมตีในภาค 6
การตายของฮานจึงเป็นการส่งเนื้อเรื่องให้ได้ไปต่อและจะได้มีแรงจูงใจให้พวกดอม ในการปราบวายร้ายคนใหม่ที่เพิ่งถูกแนะนำมาในแฟรนไชส์นี้ในภาค 7
จบการสปอยล์
Photo : insider.com
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ฮานได้หายออกไปจากแฟรนไชส์นี้ แฟน ๆ บางกลุ่มก็ไม่พอใจและมองว่าเขาไปแบบไม่สมศักดิ์ศรี ถึงขนาดมีการเรียกร้องติดแฮชแท็ก #JusticeForHan เพื่อเป็นการกดดันให้นำตัวละครนี้กลับมาอีกครั้ง แม้บางส่วนจะมองว่ามันเป็นการยัดเยียดเกินไปจนไม่สมเหตุสมผล แต่การกลับมาของเขาในภาคนี้ก็ทำให้แฟน ๆ อีกกลุ่มตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เมื่อฮานที่พวกเขารู้จักจะได้กลับมาโลดแล่นบนหน้าจอภาพยนตร์อีกครั้ง
ซอง คัง เอง ได้ทราบถึงกระแสดังกล่าวและรู้สึกเป็นเกียรติที่มีคนรักตัวละครตัวนี้ การที่เขาเต็มใจกลับมาเล่นก็อาจจะเป็นเพราะในชีวิตจริงนั้น เขาก็รักรถพอ ๆ กับฮาน
CAR ENTHUSIAST
ช่วงเวลาหนึ่งในขณะที่คังวิ่งไล่ตามความฝันการเป็นนักแสดง จนเขาเกือบลืมไปว่าความรักที่มีต่อรถของเขานั้นมีมากขนาดไหน เพราะนอกจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์อย่าง ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส จะทำให้เขาสนใจรถมากขึ้น แต่มันยังทำให้เขารู้สึกถึงความเชื่อมโยงของตัวเขากับรถยนต์ได้อีกครั้ง
จากบทสัมภาษณ​์ตอนหนึ่งจาก HYPEBEAST คัง เล่าว่า จริง ๆ แล้วเขาเริ่มสนใจรถมาตั้งแต่เด็ก ๆ เขามักจะชอบออกไปเดินเล่นในละแวกบ้านของตนเองอยู่บ่อย ๆ ซึ่งที่นั่นเองที่ทำให้เขาได้พบกับคุณลุงคนหนึ่ง ที่เป็นอดีตทหารผ่านศึก ผู้มีงานอดิเรกคือการซ่อมรถอยู่ที่บ้าน เรื่องราวที่เกิดขึ้นแทบจะเหมือนกับฉากต้นกำเนิดของตัวละครในหนังเรื่องหนึ่ง จริง ๆ แล้วเรื่องนี้แทบจะเป็นพล็อตเรื่องปูมหลังของตัวละครฮานได้เลย
Photo : hypebeast
“เมื่อตอนที่ผมอายุได้ประมาณ 10 หรือ 11 ขวบ ผมจะชอบออกไปเดินเล่นแถวบ้าน แล้วผมก็ได้ไปเจอกับคุณลุงคนหนึ่งกำลังซ่อมรถ อิมพาล่า ปี 64 อยู่ เขาชวนผมเข้าไปดูในโรงรถและได้อธิบายถึงขั้นตอนการซ่อมรถให้ผมฟัง ความกระตือรือร้นและความใส่ใจในรายละเอียดของเขา รวมไปถึงความมีสมาธิของเขาในโรงรถ มันทำให้ผมหลงใหลตามไปด้วย”
1
คังไม่ได้เปิดเผยชื่อของลุงคนดังกล่าวให้ทราบ แต่สิ่งที่เราทราบคือ ลุงคนนั้นเป็นอดีตทหารผ่านศึกในสงครามเกาหลี แต่อย่างไรอายุก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการสร้างความสัมพันธ์ เพราะเด็กชายคังมักจะเข้าไปนั่งรับความรู้จากลุงคนนี้อยู่บ่อยครั้ง พร้อมกับถามคำถามจุกจิกตามประสาเด็ก จนมันค่อย ๆ เติบโต เหมือนกับเมล็ดพันธ์ุของความรักที่มีต่อรถของเขาจนถึงทุกวันนี้
“เขาเป็นอดีตทหารผ่านศึกจากสงครามเกาหลี และผมเป็นเด็กเชื้อสายเกาหลี-อเมริกัน ที่ชอบไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้น เราต่างวัยกันสุด ๆ แต่ความหลงใหลของเขามันส่งมาถึงผมได้ ผมมักจะนั่งอยู่ตรงนั้น ถามคำถามทั่วไปกับเขา อย่างเช่น ลุงเอาไอ้นั่นมาจากไหน ? ทำไมถึงทำแบบนั้น ? ทำไมอันนั้นสีแดง ? แล้วเขาก็กระตือรือร้นและละเอียดมาก ผมเลยได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความหลงใหลของเขาไปด้วย”
นับแต่นั้นเด็กชายคังจึงสนใจเรื่องรถมาตลอด ความสนใจในรถของเขาเริ่มต้นไล่เลี่ยมาพร้อมกับความรักในภาพยนตร์ที่พ่อของเขามักจะเปิดให้ดูอยู่บ่อย ๆ จนถึงวันหนึ่งใครจะไปรู้ว่าเขาจะได้เติบโตมาทำสิ่งที่รักทั้งสองอย่างไปพร้อม ๆ กัน
SUNG’S GARAGE
ความรักของคังที่มีต่อรถสะท้อนผ่านตัวตนของเขาได้อย่างชัดเจน คังเป็นคนหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็น “เนิร์ดรถ” ตัวยง ช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา เขาได้ก่อตั้ง “ซองส์ การาจ” ขึ้น โดยเริ่มจากการเป็นช่องยูทูบและพอดแคสต์ก่อน จากนั้น ซองส์ การาจ ก็ค่อย ๆ เติบโตเป็นคอมมูนิตี้ศูนย์รวมคนรักรถขนาดย่อมขึ้นมา
Photo : carthrottle
แม้ว่าในตอนแรกเขาจะไม่ได้อินเรื่องการแต่งรถขนาดนั้น แม้จะสนใจก็จริงแต่ก็ไม่อยากโดนตัดสินว่า เขาก็เป็นแค่นักแสดงจากหนังรถซิ่งที่ทำมาเป็นสนใจในรถแข่ง แต่ในภายหลังเขาก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าเป็นเพราะหนังเรื่องดังกล่าวนี้เองที่ทำให้เขากล้าที่จะแชร์ความรักที่มีต่อรถกับทุก ๆ คน มากไปกว่านั้นเป็นเพราะ พอล วอล์คเกอร์ เพื่อนนักแสดงผู้ล่วงลับของเขาที่เคยรับบท ไบรอัน โอคอนเนอร์ ก็มีส่วนทำให้เขาก้าวเข้ามาในวงการนี้อย่างจริงจังมากขึ้น
1
“ผมไม่เคยเข้าร่วมกับคอมมูนิตี้คนรักรถเลย เพราะผมไม่อยากจะโดนตัดสินว่าเป็นไอหนุ่มขับรถจากฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส แต่ผมเริ่มที่จะสังเกตว่าพอลได้ใช้ตรงนี้เป็นจุดเริ่มต้นเหมือนกัน เพราะว่าผู้คนจำนวนมากได้มาแชร์ความรักที่มีต่อรถกัน แล้วผมก็คิดว่า ‘รู้อะไรไหม ? จริง ๆ แล้วฉันก็อยากจะมาเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนี้ด้วยแฮะ’ มันมีความทะเยอะทะยานอยู่มากในคอมมูนิตี้นี้”
แพชชั่นของคังยังถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการบูรณะรถ “Datsun 240Z” โปรเจ็กต์สุดยิ่งใหญ่ที่เริ่มมาจากการซื้อรถ “ดัตสัน 240Z” โมเดลปี 1973 เก่า ๆ คันหนึ่งที่เขาไปเจอมาในเคร็กลิสต์ เว็บซื้อขายออนไลน์​ของสหรัฐอเมริกา เขาตัดสินใจซื้อเพราะว่านี่เป็นหนึ่งในรถสปอร์ตที่เขาเคยชอบและพบเห็นมันบ่อย ๆ บนถนนในวัยเด็กของเขา
2
คังได้โพสต์รูปของรถคันดังกล่าวลงบนอินเทอร์เน็ตและได้รับความสนใจจากโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก จนได้มีการรวมกลุ่มแลกเปลี่ยนพูดคุยให้ความช่วยเหลือในการบูรณะรถคันนี้ขึ้นมาใหม่จากผู้เชี่ยวชาญด้านรถหลาย ๆ คนและคนรักรถอื่น ๆ จน ซอง คัง ได้นิยามรถคันนี้ว่าเป็น “International Social Media Car” ที่มาไกลจากไอเดียตั้งต้นที่เขาและเพื่อน ๆ อยากทำรถแข่งกันก็เท่านั้น
ดัตสัน 240Z เป็นรถสปอร์ตรุ่นตำนานของ “ดัตสัน” บริษัทรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ “นิสสัน” อีกที หลังจากที่มีการซื้อบริษัทมาครอบครองในปี 1934 และรุ่นตระกูล Z ถูกผลิตออกมาในช่วงปี 1970-1973
สิ่งที่ทำให้รถรุ่นดังกล่าวได้รับความนิยมนั้นมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะที่ดี มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 ลิตร ความแรงสูงสุด 150 แรงม้า ดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวที่ไม่ว่าใครในตอนนั้นก็อยากได้มาครอบครอง แต่สิ่งที่ดึงดูดที่สุดคือ เพราะรถคันดังกล่าวเป็นรถสปอร์ตที่ราคาเอื้อมถึง หากเทียบกันกับรถสปอร์ตยี่ห้ออื่น ๆ ในยุคนั้นที่มีราคามหาโหด อย่างเช่น Toyota 2000GT
คังและเพื่อนของเขาได้จัดการนำซากรถคันดังกล่าวมาชุบชีวิตใหม่หลังจากที่มันถูกจอดทิ้งไว้นานถึง 13 ปี โดยเขาเริ่มจัดการตั้งแต่รื้อภายในออกให้หมดจนเหลือแต่โครง ไม่นานหลังจากนั้น “จีเรดดี้” (GReddy) บริษัทจัดจำหน่ายอะไหล่แต่งรถยนต์จากญี่ปุ่นก็ได้เข้ามาให้การสนับสนุนด้วย นอกจากนี้ยังมีบริษัทจัดจำหน่ายบอดี้พาร์ตรถยนต์จากญี่ปุ่นอย่าง “ร็อกเก็ต บันนี่” (Rocket Bunny) เข้ามาร่วมแจมในการปรับแต่งเพิ่มเติม
Photo : sungsgarage
คังและโซเชียลมีเดียเฟรนด์ของเขาได้ให้กำเนิดรถสปอร์ตคันใหม่ขึ้นมา ยกเครื่อง 2.4 ลิตรออกไปเปลี่ยนเป็น เครื่อง 2.6 ลิตร RB26 ของนิสสันสกายไลน์ GT-R จากความเร็วสูงสุด 150 แรงม้า ขยับขึ้นมาถึง 245 แรงม้า พร้อมชื่อใหม่ว่า “Fuku Z” โดยได้แรงบันดาลใจมาจากคำว่า “ฟุกุ” หรือปลาปักเป้า คังกล่าวว่า
“ปลาปักเป้าเป็นปลาที่ถ้าไม่ได้มีการเตรียมให้ดี มันจะสามารถฆ่าคุณได้เลย มันก็เหมือนกับรถแข่งที่ถ้าไม่มีการเตรียมรถให้ดีก่อนลงสนามมันก็จะมีแต่ปัญหา”
ฟุกุ Z ของคังและเพื่อน ๆ ได้นำไปจัดแสดงที่งาน SEMA ที่เป็นเหมือนงานมอเตอร์โชว์สำหรับรถแต่ง และมันก็ได้ขโมยซีนเด่นสุดประจำปี 2015 ไปโดยปริยาย ทั้งที่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่องานนี้ในตอนแรกแต่อย่างใด
Photo : carscoops.com
นอกจาก ฟุกุ Z คังยังไปต่อกับการแต่งรถคันต่อไปใน “โปรเจ็กต์อันเดอร์ด็อก” (Project Underdog) ในปี 2016 โดยร่วมงานกับเด็กนักเรียนมัธธม 3 คนที่มีความหลงใหลในยานยนต์ จากโรงเรียนมัธยมอัลแฮมบรา รัฐแคลิฟอร์เนีย ได้แก่ อเล็กซิส เออร์นันเดส, คริสเตียน กิโรส และ โทนี่ เฉิน ให้ช่วยกันฟื้นคืนชีพรถในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน แบบที่เขาเคยทำกับ ฟุกุ Z
คังระลึกย้อนกลับไปถึงคุณลุงข้างบ้านคนนั้นที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเขา มอบความหลงใหลในยานยนต์ให้แก่เขา ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาก็อยากจะทำเช่นเดียวกัน อย่างการมอบแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ เหล่านี้ อีกทั้งยังช่วยเหลือพวกเขาในเรื่องของทุนการศึกษาอีกด้วย
“สำหรับผมแล้ว ความสำเร็จทุกวันนี้ของผม เริ่มมาได้เพราะชีวิตวัยเด็กกับเพื่อนบ้านของผมที่อยู่ติดกัน โปรเจ็กต์อันเดอร์ด็อกคือโปรเจ็กต์ที่ผมได้ร่วมงานกับเด็ก ๆ เหล่านี้ ช่วยกันสร้างรถออกมาในช่วงฤดูร้อน หลังจากนั้นเราจะนำรถคันดังกล่าวไปประมูล เงินที่ได้มาจะเป็นทุนการศึกษาให้แก่พวกเขาสำหรับการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย”
Photo : 6speedonline
โปรเจ็กต์อันเดอร์ด็อก คือการร่วมกันทำรถ “ฟอร์ด มาเวอริค” รถยนต์ขนาดกระทัดรัด ที่ถูกผลิตออกมาในช่วงทศวรรษ 1970s ขณะที่ตลาดรถสปอร์ตกำลังเฟื่องฟู เรียกได้ว่าเสมือนเป็นการงัดไม้ตายของฟอร์ด เพื่อมาประชันกับรถคู่แข่งที่เข้ามาตีตลาดในสหรัฐ อย่างดัตสันและโตโยต้า ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “นักสู้อิมพอร์ต”​ จากแดนอาทิตย์อุทัย อย่างไรก็ดีมาเวอริคก็ไม่ใช่รถมัสเซิลคาร์ตัวท็อปแบบมัสแตง มันเป็นรถราคาประหยัด กลไกของมันนั้นเรียบง่ายกว่า ขับเคลื่อนล้อหลัง วางเครื่องยนต์ไว้ที่ด้านหน้าของรถแบบทั่ว ๆ ไป
1
คังและเด็ก ๆ ทั้งสามคนร่วมกันช่วยรื้อ ฟอร์ด มาเวอริค รุ่นปี 1972 ซึ่งเป็นโมเดลรุ่นเดียวกันกับที่ ฮาน ตัวละครของคังเคยขับใน Fast Five โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากบริษัทน้ำมันเครื่องเพนน์ซอยล์, จีเรดดี้และร็อคกี้ บันนี่เจ้าเดิมในเรื่องอะไหล่ โดยเริ่มตั้งแต่การยกเครื่องยนต์ใหม่ เปลี่ยนเป็นเครื่อง 2.3 ลิตร Ford EcoBoost เครื่องยนต์ขนาดเล็ก 4 สูบ ที่มักจะใช้กันในรุ่นมัสแตงเจน 6 รุ่งรอง แต่ก็แรงพอที่จะมอบชีวิตใหม่ให้มาเวอริคคันนี้ได้
Photo : motor1.com
บอดี้ของรถเป็นสีขาวคาดฟ้า พร้อมลงตราประทับ “U3” อันมีความหมายถึงอันเดอร์ด็อกที่เด็ก ๆ ทั้งสามคนได้ช่วยกันสร้างขึ้นมา โปรเจ็กต์อันเดอร์ด็อก ได้คว้ารางวัล Cooperate Design Award หรือรางวัลร่วมออกแบบยอดเยี่ยม ของงาน SEMA ประจำปี 2016 กลับบ้านไปด้วย
นี่คือตัวอย่างของความรักในเรื่องรถของคังที่ไม่ได้อยู่แค่ในจอภาพยนตร์เท่านั้น แพชชั่นและความจริงจังของเขาตอกย้ำว่าเขาคือคนรักรถจริง ๆ และเราก็จะได้เห็นเขาหวนคืนจออีกครั้งใน ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส ภาคที่ 9 นี้
“IT’S GOOD TO BE BACK”
แม้เราจะยังไม่ทราบสาเหตุว่าคาแร็กเตอร์ของคัง อย่าง ฮาน หลิว กลับมาได้อย่างไรในภาคที่ 9 แต่การได้เห็นหน้าของเขาจากตัวอย่างภาพยนตร์ที่ถูกปล่อยออกมา ก็ทำให้รู้สึกถึงบรรยากาศรวมญาติแบบอบอุ่นชอบกล ความรักของแฟน ๆ ได้พิสูจน์แล้วว่า พวกเขาสามารถช่วยกันโน้มน้าวให้ จัสติน ลิน หาทางพาตัวละครนี้กลับมาได้สำเร็จผ่าน #JusticeForHan ซึ่งเขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ว่ามีคนรักฮานมากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เป็นตัวละครเอเชียน ในแบบที่เขาไม่คิดว่าจะเป็นที่ชื่นชอบของแฟน ๆ
คังกล่าวกับ Empire ว่า
“เรื่อง #JusticeForHan เนี่ยมันทำให้ผมคิดว่า ‘ว้าว มีคนชื่นชมผลงานของเราจริง ๆ ด้วย งานที่เราทำในฐานะนักแสดง’ ในฐานะนักแสดงเอเชียน-อเมริกัน ที่เผชิญโมงยามอันยากลำบากมา ผมได้แต่คิดว่า ‘มีคนจากทั่วทุกมุมโลกให้คุณค่ากับสิ่งที่ผมมอบให้ตัวละครตัวนี้ด้วย”
Photo : facebook.com/SungKangOfficial
ไม่ว่าบทบาทของเขาจะเป็นอย่างไรในภาคนี้ สิ่งที่เรามั่นใจได้คือ ฮาน และ ซอง คัง ยังคงเป็นเนิร์ดรถคนเดิมที่เราคุ้นเคย ภาพลักษณ์อันสุขุม พูดน้อย กินแต่ขนมของเขา น่าจะทำให้แฟนหนังรู้สึกหายคิดถึงกันไปได้เยอะ และเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เขาจะกลับมาวาดลวดลายขับรถดุเดือดอีกครั้ง เพื่อให้คุ้มค่ากับการเรียกร้องของแฟน ๆ
ภาพยนตร์ F9 : The Fast Saga หรือ เร็ว แรง ทะลุนรก 9 จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 21 ตุลาคม 2021 ร่วมติดตามเรื่องราวที่ยังไม่ถูกเปิดเผยของฮานได้ในโรงภาพยนตร์
แหล่งอ้างอิง :
โฆษณา