21 ต.ค. 2021 เวลา 08:47 • ปรัชญา
#รู้มากก็ฉลาดมาก
#รู้น้อยก็โง่ดักดาน
#ไม่รู้นิพพานไม่ได้ต้องรู้ก่อนคนโง่สอนคนอื่นให้ฉลาดไม่ได้เพราะตนเองก็โง่ดักดานอยู่แล้วจะไปสอนคนอื่นให้ฉลาดได้ยังไง
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าพิพพาน
3
่่
คือ ฝั่ง อสังขต ส่วนสงสารนี้ที่มีตั้งแต่ สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน สัตว์เปรตวิสัย สัตว์มนุษย์ สัตว์เทวดา พวกนี้ล้วนเป็นสัตว์ ที่เวียนว่ายตายเกิดในสงสารนี้(วิญญาณไม่ได้เวียนว่ายตายเกิดสัตว์ต่างหากที่เป็นผู้เวียนว่ายตายเกิด) คือฝั่ง สังขต สิ่งที่เรียกกันว่าสัตว์ไม่ได้เห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะ
สัตว์ละเอียดกว่า วิญญาณๆ ละเอียดกว่าสังขารๆละเอียดกว่าสัญญาๆละเอียดกว่าเวทนาๆละเอียดกว่ารูปส่วนสิ่งที่เรียกว่าสัตว์คือละเอียดที่สุด รูป คือร่างกายนี้เวทนาคือสุขทุกข์เฉยๆ สัญญาคือความจำได้หมายรู้จำอดีต สังขาร
คือ ความคิดปรุงแต่งอนาคตวิญญาณ(จิตใจ) เป็นเพียงธาตุรู้ นี้เรียกว่าขันธ์5 สัตว์เป็นผู้เข้ามาหลงยึดในขันธ์ทั้ง5 สัตว์มายึดวิญญาณๆมายึดขันธ์ทั้ง4อีกทีซึ่งวิญญาณสามารถเกาะยึดได้ทีละขันธ์ ยึดรูปบ้าง เวทนาบ้าง สัญญาบ้าง สังขารบ้าง
สภาพเดิมของสัตว์ คือ อสังขต แต่สัตว์มาหลงยึด ฝั่งสังขตเอง ก็เลยเกิดความไม่รู้
สัตตานังแปลว่าผู้ยึดติด
ยึดรูปว่าเป็นของเรายึดในเวทนาสุขทุกข์เฉยๆว่าเป็นของเรายึดในสัญญาความจำได้หมายรู้จำอดีตว่าอดีตนั้นๆเป็นของเรายึดในสังขารความคิดปรุงแต่งอนาคตนั้นๆที่ยังไม่มาถึงว่าเป็นของเรายึดใน
วิญญาณ(จิตใจ)ว่าเป็นของเรา เราก็เลยเป็นทุกข์เข้าใจไหม ไม่ยึดมันก็ไม่ทุกข์ก็แค่นั้น เพราะฉะนั้น คนที่จะนิพพานได้ต้องมีทุกข์ก่อน ถ้าไม่รู้จักทุกข์ก็นิพพานไม่ได้
สรุปขันธ์ทั้ง5เป็นทุกข์สรุป นิพพาน ก็อาศัยลมหายใจเข้าลมหายใจออกก่อนตาย คือต้องมีสมาธิรู้สึกตัวตลอดเวลา ถึงจะนิพพานได้
แล้วก็ต้องรู้ในสิ่งที่พิมพ์มาด้วยเข้าใจแทงตลอดอย่างดีด้วยความเห็นศึกษาและปฏิบัติจะรู้ได้เองเห็นได้เองจากการปฏิบัติ อานาปานสติ และสุดท้ายจริง
นิพพาน รู้ได้ ตทายตนัง รู้แบบไม่พัง เข้าใจด้วยไม่ใช่ไม่รู้ถ้างั้นพระพุทธเจ้าก็ไม่รู้จึงนิพพานได้น่ะสิติ๊งต๊องมากเพื่อนของคุณน่ะ😏
โฆษณา