22 ต.ค. 2021 เวลา 23:22
ทำไมทุกมหาวิทยาลัยต้องมีสถาบันวิจัย ?
สถาบันวิจัยเกี่ยวกับการเรียนในมหาวิทยาลัยอย่างไร?
จริงหรือที่ประเทศเยอรมนี มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็งก็เนื่องมาจากงานวิจัย ??
วันนี้มาหาคำตอบกันนะคะ
2
เนื่องมาจากการเข้าไปดู module การเรียนในมหาวิทยาลัยต่างๆ สิ่งที่จะได้เห็น ในเทอมสุดท้าย หรือก่อนหน้าเทอมสุดท้าย จะมีคำว่า Thesis ในทุกๆมหาวิทยาลัยและมีจำนวนเครดิตที่เยอะพอสมควร จึงไปค้นหาต่อก็รู้ว่า ระดับปริญญาตรีก่อนจบทุกคนต้องผ่านการทำ Thesis โดยที่หัวข้อของการทำ Thesis จะเป็นหัวข้อในการทำวิจัยที่มหาวิทยาลัยมีหัวข้อให้ หรือเราสามารถไปหางานวิจัยจากบริษัทต่างๆ ที่เขาจะมีการจ้างงานสำหรับงานวิจัยโดยเฉพาะ ลองดูตัวอย่างนะคะ
👨‍🎓👨‍🎓👨‍🎓อาจสงสัยว่าทำไมเราต้องทำงานวิจัยเพื่อใช้ในการเขียนวิทยานิพนธ์
เพราะ งานวิจัยในวิทยานิพนธ์ แสดงออกถึงความรู้ในทฤษฎีที่เรียนมา VS สร้างองค์ความรู้ใหม่ให้แก่วงการศึกษา
👩‍🎓👩‍🎓ในงานวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาตรีโดยส่วนใหญ่ นักวิจัยจะถูกคาดหวังให้เพียงแค่แสดงออกถึงความรู้ความและเข้าใจในทฤษฎีที่เรียนมา ความสามารถในการหาข้อมูลและวิเคราห์ข้อมูลในหัวข้องานวิจัยของตนเอง และนอกเหนือจาก Thesisแล้ว ใน2ภาคการศึกษาท้ายยังมีการทำProject และ Practical course ซึ่งตรงนี้ต่างจากที่ไทยมาก เพราะในไทยเราระดับปริญญาตรี มีแค่การทำ Special Project เท่านั้น
ในประเทศเยอรมนีงานวิชาการและการวิจัยที่ได้รับการยกย่องว่ามีคุณค่าและเป็นสิ่งที่ทำกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ.1386 ที่เมือง ไฮเดลแบร์ก ปัจจุบันเยอรมนีมีมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรอง จากรัฐประมาณ 400 แห่ง กระจายไปตามที่ต่าง ๆ กว่า 180 เมืองทั่วประเทศ มหาวิทยาลัยเหล่านี้
มีตัวเลือกทางการศึกษาและวิจัยที่หลากหลายให้เลือก รวม ๆ แล้วมีหลักสูตรกว่า 18,000 หลักสูตร เป็นหลักสูตรนานาชาติ
ถึงเกือบ 1,400 หลักสูตร
ผู้ที่บทบาทสำคัญต่อการปฏิรูปการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ก็คือ Willhelm von Humboldt (มีชีวิตอยู่ระหว่างปี ค.ศ. 1767 - 1835) เขาได้เน้นความสำคัญของหลักการศึกษาที่สำคัญคือ "การแยกกันไม่ออกระหว่างการสอนและการวิจัย" ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยของเยอรมันก็ได้ยึดถือหลักการนี้ไว้ตลอด ดังนั้นมหาวิทยาลัยจึงไม่ใช้สถาบันเพื่อการศึกษาและฝึกอบรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสถาบันที่ทำการวิจัยค้นคว้า ทั้งในลักษณะที่เป็นการวิจัยประยุกต์ และงานด้านวิชาการล้วน ๆ
มหาวิทยาลัยเน้นภาคปฏิบัติ หรือที่เรียกกันว่า (Fachhochschule)หรือ FH หรือมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์
มหาวิทยาลัยประเภทนี้ จะเน้นด้านการปฏิบัติ โดยจะมีการสอนและฝึกหัดทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพเฉพาะด้าน โดยในหลักสูตรมักมีการกำหนดให้นักศึกษาฝึกงานด้วย มหาวิทยาลัยจะเน้นทั้งการสอนและการวิจัย การวิจัยจะเน้นการนำผลไปปฏิบัติได้ โดยจะมีการติดต่อร่วมมือใกล้ชิดกับภาคอุตสาหกรรมของเอกชน
แต่มหาวิทยาลัยประเภทนี้ก็จะไม่มีการสอนในระดับปริญญาเอก แต่จะเน้นการนำวิทยาศาสตร์ประยุกต์ มาต่อยอดงานวิจัยนั่นเอง
80,000 ล้านยูโรเพื่อการวิจัยและพัฒนา…
เยอรมนีนับเป็นประเทศวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลก มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกว่า 400 แห่งให้โอกาสค้นคว้าวิจัยมากมาย นอกจากนี้ยังมีองค์กรวิจัยนอกมหาวิทยาลัย 4 แห่งที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง:
» Fraunhofer-Gesellschaft
» Helmholtz-Gemeinschaft
» Leibniz-Gemeinschaft
» Max-Planck-Gesellschaft
บริษัทเยอรมันทำการวิจัยจำนวนมากเช่นกันและเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาส่วนใหญ่ของเยอรมนี เป็นเงินงบประมาณมากกว่าสองในสามของงบประมาณ 80,000 ล้านยูโรต่อปี นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมนานาชาติของสหภาพยุโรปที่ทวีความสำคัญมากขึ้น
มีรุ่นพี่ใจดีจากมหาวิทยาลัย KIT ได้มาเล่าเรื่องนี้ไว้เพื่อเป็นตัวอย่างกับน้องๆรุ่นต่อๆไป ว่าการหาหัวข้องานวิจัย การทำงานวิจัยในระดับปริญญาตรี มีขั้นตอนอย่างไรทำแบบไหน ปัจจุบันพี่เพชรใจดีท่านนี้ศึกษาในระดับปริญญาโทอยู่ที่ RWTH Aachen
ลองมาดูการทำ thesis ในระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัย TU Berlin จะได้มองเห็นภาพคร่าวๆกันนะคะ
คงไม่ต้องสงสัยแล้วว่าทำไมเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมจึงได้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ก็เนืองมาจากงานวิจัยที่ไม่มีหยุดนั่นเอง ระบบการศึกษาและงานวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชนที่สอดคล้องและร่วมมือกันมาอย่างยาวนานจึงทำให้ประเทศเข้มแข็งมาก ไว้มาเจอกันใหม่ในโพสต์ถัดไปนะคะ
โฆษณา