22 ต.ค. 2021 เวลา 05:12 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิว DUNE: หนอน ทะเลทราย และเด็กชายผู้ถูกเลือก
#สร้างจากนิยายไซไฟสุดคลาสสิกที่เป็นแม่แบบของStarWars
เสด็จพ่อ Denis Villeneuve เป็นผู้กำกับเบอร์ต้น ๆ แห่งยุค และเคยเข้าชิงออสการ์จากผลงานไซไฟ-ปรัชญาสุดล้ำอย่าง Arrival
บันไดความสำเร็จครั้งนั้น สานฝันในวัยเยาว์ของเขา นั่นคือการหยิบเอานิยายไซไฟสุดคลาสสิกของ Frank Herbert ที่ตีพิมพ์ตั้งแต่ปี 1965 และไม่เคยประสบความสำเร็จในการทำเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์เลยสักครั้ง มาเนรมิตเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์
โดย Dune ใช้ทุนสร้างสูงถึง 165 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และลงทุนไปถ่ายทำ ณ ทะเลทรายจริง ๆ ที่จอร์แดนและสหรัฐฯ อาหรับ เอมิเรตส์ อันร้อนระอุ
#นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของโลกอนาคตอันไกลโพ้น
Dune จ่าหน้าตั้งแต่เริ่มเรื่องว่าเป็น “Part 1” ให้คนดูทำใจล่วงหน้าว่า นี่คือแค่ปฐมบท หนังจะจบแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ เพราะ Dune Part 1 เป็นแค่ครึ่งแรกของหนังสือนิยายเล่มหนึ่งเท่านั้น
ดังนั้น เนื้อหาของ Dune จึงไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิด แต่อาจควรทำการบ้านนิดหน่อยก่อนเข้าไปชมภาพยนตร์ นาจ (อ่านเรื่องย่อฉบับเต็มได้ใน https://www.kwanmanie.com/review-dune/)
#ดื่มด่ำความสโลว์ไลฟ์ไปกับเสด็จพ่อวิลล์เนิร์ฟ
ตามสไตล์ของ Denis Villeneuve หนังของเขาจะไม่ใช่สไตล์หนังตลาดสักเท่าไหร่ ดังนั้น Dune จะไม่ได้เน้นแอ็คชั่นไซไฟเหมือน Star Wars หรือ Star Trek
แต่เขาใช้เวลาสองชั่วโมงครึ่งนี้ ค่อย ๆ เล่าเรื่องเหมือนพาเราอ่านหนังสือ ชนิดเก็บและซึมซับแทบทุกดีเทล ราวกับกำลังอ่านตัวหนังสือบรรยายทีละบรรทัด ๆ ทำให้เราได้ take time กับตัวละครและสถานที่อย่างที่ควรจะเป็น
และงานของเขาก็เหมือนงานศิลป์ ที่โดดเด่นด้วยงาน visual ที่ล้ำเลิศเหนือจินตนาการ, production design ที่น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้, และ score ที่ทรงพลัง
ซึ่งเราต้องค่อย ๆ เสพและดื่มด่ำ แล้วพอเราจมดิ่งเข้าไปแล้ว เราจะรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของ Dune เลยจริง ๆ
#งานวิชวลและสกอร์ที่โคตรล้ำและทรงพลังระดับออสการ์
ใน Dune นี้ Denis Villeneuve ร่วมมือกับ Greig Fraser ซึ่งเป็น cinematographer ผู้เคยเข้าชิงออสการ์จาก Lion, Zero Dark Thirty, Foxcatcher, Rogue One: A Star Wars Story ฯลฯ
และนอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ Hans Zimmer ซึ่งเป็น score composer ที่เคยชิงออสการ์มาแล้วถึง 11 สมัย จาก Dunkirk, Interstellar, Inception, Gladiator, The Lion King ฯลฯ
ผลลัพธ์ของการรวมตัวกันของเทพทั้งสาม จึงทำให้งานออกมาโคตรล้ำ โคตรสวย และโคตรทรงพลัง ในทุก ๆ มิติ
#ควรค่าแก่การดูในIMAX
แน่นอนว่า สเกลภาพและเสียงที่ยิ่งใหญ่อลังการระดับมาสเตอร์พีซขนาดนี้ เขาสร้างมาเพื่อให้คนดูได้ experience ในโรง IMAX โดยเฉพาะ
โดยส่วนตัว เราได้นั่งตรงกลางโรง IMAX ขอบอกว่า ปริ่มมาก เหมือนเราได้ไปเป็นผู้สังเกตการณ์กลางทะเลทรายที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา และเหมือนมีอีหนอนยักษ์มาประจันหน้าจริง ๆ
ซึ่งถ้าเราแค่เจออีสัตว์ตัวมหึมานี้มาอ้าปากใส่บนจอเล็ก ๆ ที่บ้าน มันก็คงเข้าไม่ถึงความสะพรึงถึงไซส์และเสียงคำรามของเจ้าหนอนเท่ากับได้ดูบนจอ IMAX จริง ๆ จริงมั้ย?
#ความเต็มอิ่มที่ไม่เต็มอิ่ม
สิ่งเดียวที่รู้สึกไม่เต็มอิ่มคือ Dune Part 1 มาเพื่อปูล้วน ๆ ไม่มีกุ้งผสม ความรู้สึกถูกทิ้งไว้กลางทาง เวลาสองชั่วโมงครึ่งที่ผ่านมาเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น การเดินทางจริง ๆ ของ Paul มันจะเริ่มขึ้นใน Part 2 นู่นต่างหาก
รวมถึง Zendaya ที่เหมือนถูกโปรโมตเสมือนเป็นตัวนำตีขนาบคู่กับ Timothée และเป็นคนเล่าเรื่อง ก็มีบทไม่ได้มากกว่าที่เราเห็นในเทรลเลอร์สักเท่าไหร่ (เหมือนนางจะไปมีบทบาทในภาคหน้า ๆ มากกว่า)
ส่วนผู้หญิงที่เป็นตัวนำประกบกับ Timothée จริง ๆ ของภาคนี้คือ Ferguson ซึ่งมาในสไตล์แม่มด สกิลพลังจิตโกงชาวบ้านชาวช่องเค้าอีกละ
#งานศิลป์ที่เสพง่ายของเสด็จพ่อวิลล์เนิร์ฟ
จะว่าไป Dune นี่ถือเป็นผลงานที่ดูง่ายแล้ว สำหรับ Denis Villeneuve อย่างน้อยที่สุด เขาก็เอานักแสดงตัวท็อป ทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเล็ก ที่คนดูหนังส่วนใหญ่คุ้นหน้าคุ้นตามาแสดงแทบทั้งแผง
นักแสดงแต่ละลนล้วนมีดีกรีเข้าชิงออสการ์หรือผ่านการเล่นหนังบล็อกบัสเตอร์มาแล้วทั้งนั้น ทำให้คนดูรู้สึก struggle น้อยหน่อยในการจดจำตัวละครและทำความเข้าใจศัพท์แสงลิเกอวกาศจากยุคดิสโธเปีย
นอกจากนี้ หนังสือต้นฉบับของ Frank Herbert มีธีมหรือแก่นของเรื่องที่ค่อนข้าง universal แล้วในปัจจุบัน ทั้งเรื่องความกลัว การแย่งชิงทรัพยากร โลกร้อน สงคราม ความเชื่อหรือศาสนา ระบบทหารและศักดินา การเมือง การยึดอำนาจ การล่าอาณานิคม ที่เราคุ้นเคยกันดีจาก Game of Thrones, Mad Max, ฯลฯ (และชีวิตจริงในประเทศของเรา)
อีกทั้ง Dune ยังเป็นแรงบันดาลใจของหนัง/ซีรีส์ space travel ชื่อดังในยุคต่อมาหลายเรื่อง รวมถึง Star Wars
ดังนั้น เนื้อหาของ Dune จึงไม่ได้เข้าถึงยากอย่างที่คิด แต่อาจควรทำการบ้านนิดหน่อยก่อนเข้าไปชมภาพยนตร์ (อ่านเรื่องย่อฉบับเต็มได้ใน https://www.kwanmanie.com/review-dune/)
#Top10หนังแห่งปีสำหรับเราแต่อาจไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน
สำหรับเรา Dune คือหนังที่เรารู้สึกคุ้มค่า ทั้งเงินและเวลา และชอบติด Top 10 ของปี 2021 อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เราก็ยอมรับว่า มันอาจไม่ใช่หนังที่ทุกคนจะดูสนุก สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับหนังแนวนี้หรือสไตล์ของผู้กำกับคนนี้ ก็อาจจะต้องอดทนและอาศัยความพยายามในการเข้าถึงนิดหน่อยในตอนเริ่มเรื่อง
โดยสำหรับคนกลุ่มลักษณะนี้ เราแนะนำให้อ่านเรื่องย่อและทำความเข้าใจแผนผังตัวละครก่อนเข้าชม (อ่านเรื่องย่อฉบับเต็มได้ใน https://www.kwanmanie.com/review-dune/) เพื่อที่จะได้คลายความกังวลในการติดตามเรื่อง รวมถึงเลือกรับชมในโรง IMAX เพื่อเสพภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่
ซึ่งเราเชื่อว่า หากคุณเครื่องติดเมื่อไหร่ คุณจะต้องถูกดูดและหลุดเข้าไปในโลกของ Dune โดยไม่ทันตั้งตัว
===
อ่านรีวิวฉบับเต็ม บนเว็บไซต์/บล็อก
===
ช่องทางการติดต่อ Kwanmanie >>>
LINE: @kwanmanie
โฆษณา