22 ต.ค. 2021 เวลา 06:29 • ความคิดเห็น
โลกนี้วุ่นวาย หรือ ใจเราวุ่นวายกันแน่?
pinterest
เพื่อนๆเคยสังเกตไหมครับว่าโลกรอบตัวของเรา ปัจจุบันกำลังก้าวเดินไปอย่างรวดเร็วแค่ไหน?
ยุคสมัยที่พัฒนาอย่างรวดเร็วราวกับวันพรุ่งนี้ที่เป็นไปไม่ได้ กลับกลายเป็นวันนี้ที่แสนธรรมดาไม่โดดเด่นเหมือนที่คาดฝัน
แล้วการที่โลกใบนี้พัฒนาไปมากมายขนาดนั้น ส่งผลต่อการรับรู้ของเรามากไหม ?
แน่นอนว่า ไม่มากก็น้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลครับ ถ้าเราเป็นคนชอบเสพ Social Media มากมายอยู่แล้ว ย่อมทำให้เรารู้สึกได้ว่า " โลกนี้วุ่นวาย มีแต่ปัญหา มีข่าวในแง่ลบมากมายเกิดขึ้นในทุกๆวัน"
กลับกันถ้าเราเป็นคนไม่ค่อยใช้ Social Media ย่อมมีโอกาสรับสื่อน้อยลงครับ
สื่อที่ดีเองก็มีเกิดขึ้นในแต่ละวันและทุกๆวัน ถ้าพูดตามหลักข้อเท็จจริงแล้ว เรื่องดีๆมีมากมายกว่าเรื่องแย่ๆเสียด้วยซ้ำ แต่กลับไม่ได้รับการนำเสนอ เหมือนกับ สื่อ Drama ต่างๆ
เพราะอะไรทราบไหมครับ?
เพราะว่า สื่อด้านลบดึงดูดความสนใจของพวกเราได้ง่ายกว่า สื่อด้านบวก นั่นเอง
สมองของมนุษย์เราถูกออกแบบมาให้รับรู้ต่อสิ่งที่เป็นภัยต่อตนเองและสังคมได้ง่ายกว่าการรับรู้เรื่องที่ดีมากนัก การจะรับรู้เรื่องที่ดีนั้นต้องได้รับการฝึกฝนให้มองสิ่งที่ดีๆ บางคนอาจเกิดมามีพันธุกรรมในการมองโลกในแง่ดีอยู่แล้ว เรื่องร้ายๆจึงไม่อาจส่งผลกระทบต่อเขาได้ หรือ ถึงส่งผลอาจส่งผลน้อย
แล้วสังคมกับสภาพแวดล้อมล่ะ?
แน่นอนมีผลต่อความคิดของเราครับ หากเราเข้าไปอยู่ในสภาพสังคมที่มีแต่คนคิดบวก เราย่อมรับพลังงานด้านบวกมาเป็นแรงผลักดัน
กลับกันหากเราอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ลบ เราย่อมได้รับพลังงานด้านลบ
ยิ่งได้รับเรื่องแย่ๆเข้ามามากเท่าไหร่ สมองของเรายิ่งทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้น เราจะรู้สึกเครียด กดดัน และ รู้สึกว่า "โลกนี้วุ่นวาย"
แต่ในความเป็นจริงแล้วโลกวุ่นวายจริงๆอย่างที่เราคิดหรือเปล่านะ
โลกใบนี้ก็วุ่นวายตามแบบฉบับของโลกแหละครับ แต่ว่า ตัวเราเองนี่ละ จะยอมให้ใจเราวุ่นวายไปด้วยไหม? หรือว่าจะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองเอาไว้เผชิญโลกใบนี้?
ถ้าหากเราต้องการเผชิญโลกใบนี้สร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองผมมีวิธีแนะนำครับ
1.ตั้งสติด้วยการสูดลมหายใจเข้าลึกๆ 5 วินาที เก็บลมหายใจไว้ 5 วินาที หายใจออกภายใน5 วินาที ฝึกทำไปเรื่อยๆแม้กระทั่งอยู่ในเวลาทำงาน อยู่กับเพื่อน หรือฝึกทำก่อนนอนก็ช่วยให้มีสติรู้ทันเท่าทันตัวเองได้ครับ
2.ฝึกมองข้อดีของสถานการณ์การต่างๆ
เคยคิดกันไหมครับว่า ในเรื่องแย่ๆเองก็มีข้อดี หลายคนอาจจะไม่คิดแบบนั้นแต่ถ้าฝึกไปเรื่อยๆผลลัพธ์ย่อมพลิดอกออกผลในอนาคตแน่นอนครับ
เช่น หากเราตกบันไดแล้วเจ็บแขน อย่างน้อยก็ยังดีที่แขนไม่หัก หรือ ลูกชายเราติดเกมส์ ก็ยังดีกว่าติดยาเสพติด เป็นต้นครับ
3.เรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มีมานานแล้ว
เพื่อนๆหลายคนอาจคิดว่า "โลกทุกวันนี้โหดร้าย มีแต่ข่าว การฆ่ากัน ปล้น จี้ ภัยพิบัติ" แต่อย่าลืมนะครับ เรื่องแบบนี้มีมานานมากๆตั้งแต่สมัยหาของป่าล่าสัตว์ รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ก็มีครับ แต่เพียงคนส่วนใหญ่ไม่รู้ เพราะสมัยนั้นโลกเราไม่ได้มี Social media ในการถ่ายรูป ถ่ายคลิปกระจายให้เพื่อนมนุษย์รู้เรื่อง และพื้นที่ ที่เรื่องเกิดมีแค่คนส่วนน้อยที่รู้เรื่อง และ คนส่วนน้อยนี้ไม่ได้มีเครื่องมือในการถ่ายทอดเรื่องราวออกมา คนอื่นๆจึงไม่ทราบเรื่องครับ
4. งดรับเรื่องดราม่า หรือ รับให้น้อยลง
อย่านำตัวเองเข้าไปอยู่ในสังคมหรือสภาพแวดล้อมที่พูดถึงแต่เรื่องแย่ๆ เพราะจะทำให้เรา มีความคิดที่แย่ไปด้วย
เมื่อความคิดแย่ การกระทำแย่ ความสัมพันธ์ก็จะแย่ไปด้วย แล้วแบบนี้ยังจะรับเรื่องดราม่าอีกหรือ
แล้วเพื่อนๆคิดว่าอย่างไรกันบ้างครับ
ถ้าชอบกด Like
ถ้ามีประโยชน์กด Share
และอย่าลืมกดติดตามกันด้วยนะครับ
โฆษณา