26 ต.ค. 2021 เวลา 03:44 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 26 ต.ค. 2021
"ดาวโจนส์และ S&P500 ปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้
แรงหนุนจากราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้นกว่า 12%
ขานรับยอดสั่งซื้อจำนวนมากถึง 100,000 คัน"
4
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 % ​(ที่ จุด), ดัชนี HSTECH % (ที่ จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่ 1803 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 24.41 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 71 (Greed > Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากราคาหุ้นเทสลาที่พุ่งขึ้นกว่า 12% ขานรับยอดสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากถึง 100,000 คัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานประกอบการของบริษัทยักษ์ใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊กและอัลฟาเบท
📌 ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มที่เกี่ยวกับสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น
📌 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) หลังพุ่งขึ้นทะลุ 85 ดอลลาร์ แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี อันเนื่องมาจากต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 83.76 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 85.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
📌 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ระดับ 1,806.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย.
📌 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐประกาศขยายเวลาบังคับใช้คำสั่งสำหรับผู้ให้บริการเรือสำราญออกไปจนถึงวันที่ 15 ม.ค. 2565 จากเดิมซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตายังคงน่าวิตกกังวล คำสั่งดังกล่าวซึ่งบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนต.ค. 2563 กำหนดให้ผู้บริการเรือสำราญต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมกับให้ลูกเรือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเพิ่มเติม โดยเป็นส่วนหนึ่งของการอนุญาตให้ผู้ให้บริการเรือสำราญกลับมาให้บริการอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ CDC ระบุว่า ในการขยายเวลาคำสั่งครั้งนี้ จะมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กน้อย และเมื่อสิ้นสุดกำหนดบังคับใช้คำสั่งแล้ว ทาง CDC จะเปลี่ยนไปดำเนินโครงการตามความสมัครใจ และทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเรือสำราญเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 บนเรือสำราญ ก่อนหน้านี้เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายได้ง่ายนั้น ได้ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่และยอดผู้เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น อย่างไรก็ดี ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขดังกล่าวเริ่มปรับลดลงแล้ว
📌 บริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่า องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) ได้เริ่มต้นกระบวนการประเมินประสิทธิภาพของยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเร่งด่วนแล้ว ที่ผ่านมา EMA จะใช้มาตรการ "rolling review" ในการเร่งกระบวนการประเมินผลต่อยาที่มีแนวโน้มให้ประสิทธิภาพสูงในช่วงที่เกิดภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข โดย EMA จะทำการประเมินข้อมูลประสิทธิภาพของยาทันทีที่มีการเผยแพร่ออกมา แทนที่จะรอให้บริษัทยารวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด และยื่นเรื่องขออนุมัติอย่างเป็นทางการต่อ EMA
นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย กล่าววานนี้ว่า รัฐบาลกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายในการเจรจากับบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค เพื่อซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยคาดว่าอินโดนีเซียจะได้รับยาดังกล่าวภายในสิ้นปีนี้ นอกจากนี้ นายซาดิคินกล่าวเสริมว่า อินโดนีเซียกำลังเจรจากับเมอร์คเกี่ยวกับการตั้งโรงงานผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ในอินโดนีเซีย หากการเจรจาเป็นผลสำเร็จ อินโดนีเซียจะเป็นประเทศที่สองนอกสหรัฐที่จะได้รับสิทธิบัตรการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ หลังจากที่เมอร์คได้มอบสิทธิบัตรการผลิตยาโมลนูพิราเวียร์ก่อนหน้านี้ให้แก่บริษัทยาของอินเดียจำนวน 7 แห่ง
📌 ราคาหุ้นของบริษัทเทสลา อิงค์ พุ่งขึ้นกว่า 10% เมื่อวานนี้ ส่งผลให้เทสลากลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ขานรับข่าวที่ว่า บริษัทเฮิร์ซ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถยนต์เช่ารายใหญ่ของโลก ได้สั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาจำนวนถึง 100,000 คัน คำสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็นคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุด และจะทำรายได้ให้แก่เทสลาถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์
📌 เศรษฐกิจเกาหลีใต้ชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 3/2564 เนื่องจากการอุปโภคบริโภคในภาคเอกชน ประกอบกับการลงทุนด้านการก่อสร้างและด้านสาธารณูปโภคที่ลดลง ได้บดบังการเติบโตของยอดส่งออก ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเกาหลีใต้เมื่อปรับค่าตามฤดูกาลอยู่ที่ 0.3% ในไตรมาส 3 นับเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาส หลังปรับตัวขึ้น 0.8% ในไตรมาสที่ 2 และยังขยายตัวต่ำกว่าตัวเลขประมาณการในแบบสำรวจของรอยเตอร์ซึ่งระบุไว้ที่ 0.6%
📌 รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) ว่า เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีจะได้รับการยกเว้นให้ไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนก่อนเดินทางเข้าสหรัฐ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.นี้ สำหรับประชาชนกลุ่มอื่น ๆ จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนที่ผ่านการรับรองโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ รวมถึงวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO) อาทิ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และซิโนฟาร์ม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่สหรัฐเตรียมออกนโยบายชุดใหม่ด้านการเดินทางโดยเครื่องบินท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐได้บังคับใช้นโยบายสกัดโควิดโดยพิจารณาเป็นรายประเทศ
ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. เป็นต้นไป ประชาชนที่ไม่ใช่พลเมืองและผู้อยู่อาศัยของสหรัฐที่เดินทางโดยเครื่องบิน จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว รวมถึงต้องมีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบภายในช่วงเวลา 3 วันก่อนออกเดินทางไปยังสหรัฐ ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีจะได้รับการยกเว้น เนื่องจากเด็กเล็กยังอยู่ในกลุ่มที่ไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ รวมถึงเกณฑ์ในการฉีดวัคซีนของเด็กโตแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ อย่างไรก็ตาม เด็กที่มีอายุ 2-17 ปียังคงต้องตรวจเชื้อไวรัสก่อนการเดินทาง
1
📌 ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นในวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ ตลอดจนขานรับข่าวที่พรรคเดโมแครตของสหรัฐใกล้สรุปแผนใช้จ่ายด้านสวัสดิการสังคมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
📌 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จีนจะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้กับเด็กอายุน้อยสุด 3 ปี ขณะที่ประชากร 76% ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และทางการจีนยังคงดำเนินนโยบายความอดทนต่อโควิดเป็นศูนย์ รายงานระบุว่า จีนกลายเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กเล็ก โดยคิวบาที่ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้แก่เด็กอายุ น้อยสุด 2 ปี ขณะที่สหรัฐและหลายประเทศในยุโรปอนุมัติการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป และขณะนี้สหรัฐกำลังเร่งเดินหน้าเพื่อฉีดวัคซีนให้แก่เด็กที่มีอายุ 5-11 ปี
2
รัฐบาลระดับท้องถิ่นในอย่างน้อย 5 มณฑลของจีนได้ประกาศในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า เด็กอายุ 3-11 ปีจะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน การขยายช่วงอายุของผู้เข้ารับวัคซีนโควิด-19 มีขึ้น เนื่องจากจีนดำเนินมาตรการที่เข้มงวดเพื่อสกัดการแพร่ระบาดขนาดเล็ก โดยมณฑลกานซูทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศได้สั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งในพื้นที่แล้วเมื่อวานนี้ (25 ต.ค.) หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ขณะที่ผู้อยู่อาศัยในเขตปกครองตนเองมองโกเลียในได้รับคำสั่งให้อยู่แต่ภายในบ้าน เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดขึ้น
1
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน (NHC) รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในประเทศเพิ่มอีก 35 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดย 4 รายมาจากมณฑลกานซู, 19 รายมาจากเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน และที่เหลือกระจายกันอยู่ตามเมืองอื่น ๆ ของจีน
1
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.07 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าต่อเนื่อง จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.13 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากนโยบายเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.64 ที่คาดว่าจะทำ ให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ขณะที่ดอลลาร์เคลื่อนไหวผสมผสานเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆ
1
"บาทแข็งค่าต่อเนื่องจากเย็นวานนี้ เนื่องจากตลาดตอบรับนโยบายเปิดประเทศที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาได้มากถึง 46 ประเทศจากที่เคยประกาศไว้เพียง 10 ประเทศ" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.00 - 33.20 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์แถลงยอดนำเข้า-ส่งออกเดือน ก.ย.64, สหรัฐประกาศยอดขายบ้านใหม่
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1 ASP-DISRUPT
2 ASP-EUG
3 ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
4 ASP-JHC
5 ASP-ROBOT
6 B-Bharata
7 B-GTO
8 B-INNOTECH
9 BCAP-CLEAN
10 BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
11 BCARE
12 K-CHANGE-A
13 K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
14 K-HIT
15 K-USA-A
16 K-USXNDQ-A
17 K-WORLDX
18 KF-EUROPE
19 KF-GTECH
20 KF-ORTFLEX
21 KF-US
22 KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
23 KFGBRAND-A
24 KFHTECH-A
25 KFINFRA-A
26 KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
27 KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
28 KT-EURO/K-EUSMALL
29 KT-PRECIOUS
30 KT-WTAI-A
4
31 LHCYBER-A
32 LHESPORT-A / WE-PLAY
33 LHINNO-A
34 LHMOBILITY
35 M-EM
36 MATECH-A
37 MFTECH
38 ONE-DISC-RA
39 ONE-GECOM
40 ONE-UGG-RA
41 P-CGREEN
42 PRINCIPAL GCLEAN-A
43 PRINCIPAL GCLOUD-A
44 PRINCIPAL GHEALTH-A
45 Principal VNEQ-A
46 PWIN
47 SCBDJI(A)
48 SCBGOLD (แบบไม่ Hedge)
49 SCBGOLDH (แบบ Hedge)
50 SCBKEQTG 💵💵💵
51 SCBNK225
52 SCBS&P500
53 SCBSEMI
54 SCBUSSM
55 T-ES-GGREEN
56 T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO
57 T-GLOBALENERGY / MRENEW
58 T-Premium Brand
59 TBIOTECH
60 TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
5
61 TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
62 TCLOUD
63 TGENOME
64 TGHDIGI
65 TMB-ES-AUTOMATION
66 TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
67 TMB-ES-STARTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
68 TMBAGLF
69 TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70 TMBGQG
71 TMBWDEQ
72 TNEWENGY
73 TNEXTGEN / WE-CYBER
74 UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
75 UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
76 UEDTECH 💵💵💵
77 UEV
78 WE-CANB, MCANN 💵💵💵
79 WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
80 WE-GOLD 💵💵💵
81 WE-TENERGY / SCBCLEANA
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1775, 1800, 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (24 ต.ค. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/61757b89d38ff20ca2b8b35b
2
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
13. กองทุนญี่ปุ่น เช่น ASP-JHC, SCBNK225
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
2
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50, STOXX600
ประจำวันที่ 24 ต.ค. 2021 https://www.blockdit.com/posts/61751fd6cf47960cab6ce9d5
2
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, XRP, BNB, ADA, LTC, DOGE, SOL
ประจำวันที่ 24 ต.ค. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/61752b531f9f520ca44fc8d2
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
2
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - https://bit.ly/lineneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา