4 พ.ย. 2021 เวลา 00:00 • หนังสือ
somebody แปลตรงตัวว่า ใครบางคน nobody แปลตรงตัวว่า ไม่มีใคร
2
แต่ในความหมายลึกซึ้งกว่านี้ที่เราใช้กันมีนัยของการประสบความสำเร็จ
somebody หมายถึงคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มีศักดิ์ศรี มีอำนาจ เป็นที่รู้จักและยอมรับในสังคม
nobody หมายถึงคนที่ไม่มีค่า ไม่มีอำนาจ ไม่มีใครสนใจ ไม่ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องเป็นราว
ในโลกที่สังคมส่วนใหญ่วัด ‘ความสำเร็จ’ กันที่ตำแหน่ง ชื่อเสียง เงินทอง อำนาจ ใครก็ตามที่มีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งหมดนี้ถือว่า ‘ประสบความสำเร็จ’ ทำให้คนจำนวนมากเชื่อว่าตนเองเป็น nobody พาลทำให้หมดอาลัยตายอยาก ใช้ชีวิตแบบหุ่นยนต์ไปวัน ๆ
4
แต่นี่เป็นมาตรวัดของมนุษย์เพียงกลุ่มเดียว เราไม่จำเป็นต้องเชื่อหรือนำพาเป็นอารมณ์
เรายังมีวิธีวัดความสำเร็จด้วยมาตรวัดคุณค่าที่แท้จริงของคน วัดที่คุณค่าของการกระทำและคุณค่าจิตใจมากกว่าเปลือกนอก
1
ด้วยมาตรวัดคุณค่าที่แท้จริงแบบนี้ เราสามารถบอกว่า :
5
somebody คือคนที่มีจิตใจดีงาม ไม่สร้างปัญหาให้คนอื่น ชอบช่วยเหลือหยิบยื่นไมตรีต่อคนอื่น nobody คือสวะสังคม ไม่เคยทำเรื่องดี คิดแต่จะทำลายสังคม โกงกิน คอร์รัปชั่นสารพัด ไม่ว่าจะสวมสูทราคาแพงเท่าไรหรือขับรถหรูระดับไหน
3
somebody คือคนที่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ มีความสุขกับสิ่งที่ทำ โดยไม่คิดแต่เรื่องจำนวนเงินทองที่ได้จากงานนั้น nobody คือคนที่สนใจเงินทองมากกว่าความสุขของงานที่ทำ
2
somebody คือคนที่รู้จักความพอดี nobody คือคนที่ยอมให้ความโลภครอบครองจิตและวิญญาณ
2
somebody คือคนที่เลือกที่จะมีความสุข nobody คือคนที่เลือกที่จะทุกข์
somebody คือคนที่ลงมือแก้ไขปัญหา nobody คือคนที่บ่นเมื่อเจอปัญหา แล้วรอให้ฟ้าประทานทางออกให้
3
วิธีหนึ่งที่จะรู้ว่าเราเป็น somebody หรือ nobody ก็คือถามตัวเองว่า เราเป็นคนที่ไม่มีสังคมก็ได้หรือเปล่า? หรือโลกนี้ดีกว่าหรือไม่ดีกว่าเดิมที่มีเรา?
ผมเกิดในชุมชนเล็ก ๆ ที่ต่างจังหวัด ตั้งแต่ลืมตาดูโลก ก็พบเห็น ‘ชีวิตเล็ก ๆ’ มากมาย พวกเขามีตั้งแต่คนซ่อมรองเท้า, คนกรีดยาง, คนขายผัก, คนถีบสามล้อรับจ้าง, ช่างตัดเสื้อ, ช่างตีเหล็ก, คนขายปลาหมึกบด, คนขายน้ำแข็งไส ฯลฯ คนเหล่านี้ไม่มีฐานะ ชื่อเสียง ประกอบอาชีพสุจริต ทำงานหนัก โดยนิยามของสังคมก็คือ nobody แต่ด้วยมาตรฐานที่ผมใช้ คนเหล่านี้ก็คือ somebody
3
ด้วยมาตรวัดแบบนี้ ชาวนาชาวไร่ที่ทำงานอย่างสุจริตเพื่อเลี้ยงครอบครัวในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งก็เป็น somebody ได้ ขณะเดียวกันนักธุรกิจที่มีกิจการรุ่งเรือง เป็นที่รู้จักทั่วไปก็อาจเป็น nobody ได้
1
ด้วยมาตรวัดนี้ เราอาจสรุปได้ว่า สถานะ somebody มิจำเป็นต้องเป็นปลายทาง แต่คือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทาง
ชีวิตคนเราสั้นนัก เผลอแผล็บเดียวก็แก่แล้ว แป๊บเดียวก็จากโลกไป ในวันสุดท้ายที่อยู่ในโลก เราจะบอกตัวเองว่าอย่างไร : “วันเวลาส่วนใหญ่ของฉันไม่มีความสุข” หรือ “วันเวลาส่วนใหญ่ของฉันเยี่ยมไปเลย ไม่เสียทีที่เกิดมา” ?
จะผ่านแต่ละนาทีแบบคนไร้ค่าที่มีแต่ความทุกข์หรือคนที่เป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนสังคมก็ขึ้นกับเราเอง
7
เราเลือกได้ที่จะเป็น somebody
เราสามารถปฏิเสธการเป็น nobody
เงินทอง ชื่อเสียง อำนาจ ล้วนเป็นของที่ไม่จีรัง มาได้ก็ไปได้ แต่ความสุข ความสงบ การรู้จักหาความสุขทางใจ การรู้จักพอดี เป็นสิ่งที่อยู่ภายในตัวเราไปตลอด
12
แค่คิดได้ ก็เป็น somebody ไปครึ่งหนึ่งแล้ว
จากหนังสือ #คำที่แปลว่ารัก / https://bit.ly/3183W7I
โฆษณา