Facebook จะเปลี่ยนชื่อในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ จะส่งผลกระทบอย่างไรกับคนไทยบ้าง
Credit: A Facebook Name Change Is Coming & The Internet Didn't Hold Back With Its Suggestions - Narcity
ถือว่าเป็นข่าวที่ทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอันมาก เพราะยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของ Platform Social Media ของโลก ที่มีประชากรกว่า 2,895 ล้านคนเข้าไปใช้งานในไตรมาศที่ 2 ของปีนี้ (statista.com) หรือมากกว่าประชากรไทยประมาณ 42 เท่า จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ชาวโลกจะให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
Facebook กำลังวางแผนที่จะเปลี่ยนชื่อบริษัท วางแผนที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการประชุมประจำปีของบริษัท ในวันที่ 28 ตุลาคม 2564 นี้ เพื่อเป็นการรองรับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการสื่อสารครั้งใหญ่ในรูปแบบ Metaverse หรือ เทคโนโลยีผ่านกล้อง VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) ที่เป็นโลกเสมือนจริง
ที่มา Nezumi Lab
การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ส่งให้ทั้งโลก ได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการสื่อสารครั้งใหญ่ ที่จะทำให้การติดต่อกันไปมาเหมือนพูดคุยกันอยู่ตรงหน้า ดูแล้วอาจจะส่งผลให้ในอีกไม่กี่ปี โลกเราอาจจะไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้ต่อไปแล้ว
ณ ช่วงเวลานี้ยังไม่ใครรู้ว่า Facebook จะเปลี่ยนเป็นชื่ออะไร อาจจะเปลี่ยนชื่อบริษัทแบบ Google ที่เปลี่ยนเป็น Alphabet ในปี 2015 แต่ก็ยังใช้ชื่อ Google ต่อไปหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนชื่อ Facebook ไปเป็นชื่ออื่นไปเลย
Credit: Stock Market Today - WordPress.com
สำหรับ Facebook นี่ไม่ใช่แนวคิดใหม่ Mark Zuckerberg มองว่า Metaverse เป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีการสื่อสาร ซึ่งคล้ายกับการประดิษฐ์อินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน
การเปลี่ยนชื่อในครั้งนี้ Facebook คงไม่ได้ทำการเปลี่ยนชื่อเพื่อการสื่อสารแบรนด์หรือสร้างการรับรู้ในแบรนด์เหมือนธุรกิจอื่นๆอย่างแน่นอน แต่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตามมาอีกมากมายแน่นอน วัตถุประสงค์ของ Facebook ไม่เป็นการปรับเปลี่ยน (Disruption) เพื่อจะได้ครอบครองตลาดนี้ ก็จะเป็นการชิงความได้เปรียบคู่แข่งหรือทั้ง 2 อย่าง
Credit: YouTube: The Movement /Ton
สิ่งที่คนไทยจะต้องเผชิญนั่นก็คือ เทคโนโลยีใหม่ที่จะเกิดขึ้น ที่เราไม่สามารถต่อต้านการเปลี่ยนแปลงได้ แน่นอนว่าต้องมีการศึกษาหาข้อมูลใหม่ๆในเทคโนโลยี Metaverse ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง และที่สำคัญไปกว่านั้นคือจะใช้ประโยชน์อย่างเทคโนโลยีนี้อย่างไร ในสร้างเม็ดเงินในการทำมาหากินต่อไป
ในขณะที่ต้องพบกับต้นทุนที่สูงขึ้นกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป “ยุคใหม่ฯ” ก็เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ผู้ประกอบการต่างๆ จะต้องลงทุนใหม่เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ที่อาจจะไม่ได้คืนทุนในระยะเวลาอันสั้น นั่นก็หมายความว่าผู้ที่มีสายป่านสั้นก็จะถูกคัดออก หากอยากอยู่ได้ก็ต้องรวมตัวกันเป็นกลุ่มธุรกิจ
ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นก็คือ การค้าขายออนไลน์ผ่าน Facebook Instagram หรือ What’s App ที่มีการหลอกขายสินค้ากันในรูปแบบเดิมคงทำไม่ได้แล้ว และก็เชื่อว่าเรื่องการหลอกลวงแบบเดิมนี้เกิดขึ้นไม่ได้อย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่สำคัญใปกว่านั้นในโลกยุคใหม่ก็คือข้อมูลที่เป็น Big Data ที่ปัจจุบันนี้ใครได้ครอบครองก็จะสามารถกำหนดชะตาชีวิตของชาวโลกได้อย่างง่ายดาย ที่จริงตอนนี้ก็เป็นแล้วหากเราสังเกตดูดีๆ เราจะพบว่าข้อมูลที่เราได้จากสื่อออนไลน์ จะเป็นการกำหนดพฤติกรรมของผู้เสพโดยผ่านระบบ AI แต่ Metaverse จะทำได้มากกว่านั้นมาก
Credit: Blaze Trends
ประเทศไทยหรืออีกหลายประเทศที่ไม้ได้มีการศึกษาเพื่อเตรียมการรองรับไว้ก่อน อาจจะพบว่าผู้บริหารหรือผู้กำหนดนโยบายต่างๆ อาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริงเป็นร่างอวตารก็ได้ใครจะไปรู้
หากรู้ทันเราก็จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ได้ หากรู้ไม่ทันเทคโนโลยีก็จะใช้ประโยชน์จากเราแทน จากผู้ที่ได้รับประโยชน์เพียงไม่กลุ่ม
อ้างอิง
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernization Marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
ท่านที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ตู้กาแฟหยอดเหรียญ ที่สามารถขายแฟรนไชส์และมีรายได้จากการขยาย
สามารถสร้างรายได้ทั้งรายวันและรายสัปดาห์และรายเดือนได้
ติดต่อได้ที่
- 54
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
