25 ต.ค. 2021 เวลา 15:01 • หนังสือ
33 (+3) ฤษีในรามเกียรติ์
1. อจนคาวี
2. ยุคอัคระ
3. ทหะ
4. ยาคะ
ฤษี 4 รูป บำเพ็ญพรตที่ป่าทวาราวดีมาแก่กล้ายาวนานนับ 100,000 ปี
ตอนที่พระอินทร์ลงมาสร้างเมืองให้ท้าวอโนมาตัน ฤษีทั้ง 4 ได้บอกพระอินทร์ว่าป่านี้มีต้นฉัตรของพระอิศวรอยู่กลางป่า จึงเหมาะสร้างเมือง และได้ตั้งชื่อเมืองด้วยการนำเอาชื่อป่ามาบวกกับชื่อฤษีทั้งสี่ว่า “กรุงศรีอยุธยาทวาราวดี”
เมื่อนั้น
ทั้งสี่พระดาบสพรตกล้า
ได้ฟังโกสีย์ก็ปรีดา
จึ่งว่าป่านี้ประเสริฐนัก
.
ชื่อทวารวดีพนาสณฑ์
ต้นฉัตรพระศุลีเป็นหลัก
อยู่บูรพาหน้าศาลเทพารักษ์
ต้องด้วยลักขณาธานี
.
รูปจะบอกนามเมืองไว้
ให้เป็นมงคลเฉลิมศรี
จงเอาสมญาป่านี้
กับนามเราทั้งสี่ประสมกัน
.
เรียกว่ากรุงศรีอยุธยา
ทวาราวดีเขตขัณฑ์
จะเป็นที่สามโลกอภิวันท์
พระเกียรตินั้นจะทั่วแดนไตร ฯ
กรุงศรีอยุธยาทวาราวดี ภาพจาก รามเกียรติ์ ดิ แอนิเมชัน : ธรรมะแห่งราชา [https://youtu.be/Bo3oN8S9fJQ]
5. โคดม
อดีตเจ้าเมืองสาเกด ต่อมาบวชเป็นฤษี หนวดเครายาวขนาดนกกระจาบไปทำรัง
เป็นสามีกาลอัจนา เป็นพ่อสวาหะ และเป็นพ่อเลี้ยงพาลี + สุครีพ
ต้นฉบับรามายณะเรียก เคาตมะ (Gautama)
ฤษีโคดมชุบนางกาลอัคคี
6. อตันตะ
7. วชิรา
8. วิสูต
9. มหาโรมสิงค์
ฤษี 4 รูป บำเพ็ญพรตที่ป่าทวาราวดี ชุบชีวิตจากนางกบ เป็นนางมณโฑ
โอมอ่านคาถามหาเวท
อันวิเศษสำหรับกระลากิจ
เอากบใส่กองเพลิงชวลิต
แล้วชุบด้วยฤทธิ์พระนักธรรม์ ฯ
.
เดชะพระเวทสิทธิศักดิ์
พระวิษณุรักษ์รังสรรค์
เกิดเป็นกัลยาวิลาวัณย์
งามวิจิตรพิศพรรณขวัญตา
กำเนิดนางมณโฑ จิตรกรรมฝาผนังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
10 . โคบุตร
อาจารย์ของทศกัณฐ์ ออกแนวตัวโจ๊กเสียมากกว่า
11. อังคต
อาจารย์ของพาลี ต้นฉบับรามายณะเรียก อคัสตยะ (Agastya)
12. สุเมธ
อาจารย์ของไมยราพ ฝากหัวใจไมยราพไว้กับแมลงภู่ไว้ที่เขาตรีกูฏ
13. อิสีสิงฆ
พ่อของฤษีกไลโกฎ
มาจะกล่าวบทไป
ถึงพระกไลโกฏฤๅษี
เป็นบุตรอิสีสิงฆมุนี
มฤคีนั้นเป็นมารดา
14. กไลโกฎ
ฤษีหน้ากวาง ลูกของฤษีอิสีสิงฆ กับนางกวาง บำเพ็ญที่เมืองโรมพัตจนทำให้บ้านเมืองเกิดฝนแล้งยาวนานถึง 3 ปี! อรุณวดี ธิดาเจ้าเมืองอาสาไปทำลายตบะ เปิดหน่มน้มทำให้ฤษีคิดว่าเป็นเขาสัตว์
ทำให้ฤษีตบะแตกและได้นางอรุณวดีมาเป็นเมีย ทำให้เกิดฝนตก เย้ เย้ เย้
ป.ล. ยังเป็น 1 ใน 5 ผู้ไปเชิญพระนารายณ์อวตารลงมา
+ ทำพิธีขอลูก
ต้นฉบับรามายณะเรียก ฤษยะสฤงค์ (Rishyasringa)
ฤษีกไลโกฎ กับเขาสัตว์กลางอก (หน่มน้ม)
15. ภารทวาช
เป็น 1 ใน 5 ผู้ไปเชิญพระนารายณ์อวตารลงมา
+ ทำพิธีขอลูก
และฤษีที่พระรามพบตอนเดินดง ต้นฉบับรามายณะเรียก ภรัทวาช (Bharadwaja)
16. วัชอัคคี
เป็น 1 ใน 5 ผู้ไปเชิญพระนารายณ์อวตารลงมา
+ ทำพิธีขอลูก
เมื่อนั้น
พระวสิษฐ์สวามิตรฌานกล้า
พระวัชอัคคีผู้ปรีชา
พระภารทวาชมุนี
.
แจ้งว่าพระวงศ์เทเวศ
จอมเกศอยุธยากรุงศรี
ให้นิมนต์เข้าไปพระบูรี
ก็มีความยินดีปรีดา
17. วสิษฐ์
1 ใน 2 อาจารย์ของสี่ยอดกุมารของอโยธยา
(ราม พรต ลักษมณ์ สัตรุด)
ป.ล. ยังเป็น 1 ใน 5 ผู้ไปเชิญพระนารายณ์อวตารลงมา
+ ทำพิธีขอลูก
ต้นฉบับรามายณะเรียก วสิษฐ์ (Vasishtha)
ฤษีวสิษฐ์ (Vasishtha)
18. สวามิตร
1 ใน 2 อาจารย์ของสี่ยอดกุมารของอโยธยา
(ราม พรต ลักษมณ์ สัตรุด)
ป.ล. ยังเป็น 1 ใน 5 ผู้ไปเชิญพระนารายณ์อวตารลงมา
+ ทำพิธีขอลูก
ต้นฉบับรามายณะเรียก วิศวามิตร (Vishvamitra)
ฤษีวิศวามิตร (Vishvamitra)
19. ชนก
อดีตเจ้าเมืองมิถิลา ไปบวชเป็นฤษี ก่อนกลับมาครองเมืองอีกที
ฤษีชนกไถดินจนพบนางสีดา
20. สุธามันตัน
ฤษีแห่งดินแดนมิถิลา ผู้ประกอบพิธีอภิเษกสมรสให้ราม กับ สีดา
ต้นฉบับรามายณะเรียก ศตานทะ (Shatananda)
ครั้นถึงศาลาอารัญ
พระสุธามันตันอาจารย์ใหญ่
แจ้งว่าพระองค์ทรงภพไตร
ภูวไนยจะแต่งการวิวาห์
.
ให้มานิมนต์พระนักพรต
กับคณะดาบสชีป่า
เข้าไปให้ทันเวลา
มหาศุภฤกษ์นาที ฯ
21. สระภังค์
ฤษีที่พระรามพบตอนเดินดง
ต้นฉบับรามายณะเรียก ศสรภังคะ (Sharabhanga)
เมื่อนั้น
พระสระภังค์ดาบสอาจารย์ใหญ่
ได้ฟังบัญชาก็ตอบไป
ตานี้ขอบใจหลานรัก
22. สุทัศน์
ฤษีที่พระรามพบตอนเดินดง เดิมเป็นเจ้าเมืองปัญจา มีเมียนามศุกไข ทั้งสองทิ้งสมบัติมาบวชได้ 10,000 ปี
ต้นฉบับรามายณะเรียก สุติกษณะ (Suteekshna)
เราสองนี้เป็นกษัตรา
ครองกรุงปัญจาธานี
.
ทรงนามชื่อว่าท้าวสุทัศน์
นางกษัตริย์นี้เป็นมเหสี
ชื่อว่าศุกไขเทวี
ไม่มีบุตรีโอรส
.
สละสมบัติพัสถาน
มาจำเริญฌานเป็นดาบส
อยู่ในหิมวันต์บรรพต
กำหนดหมื่นปีล่วงไป
23. อรรคต
ฤษีที่พระรามพบตอนเดินดง
ได้มอบเกราะ (ของพระศิวะตอนศึกตรีบูรัม) ให้พระราม
ว่าแล้วยื่นเกราะสุรกานต์
ถวายพระอวตารนาถา
จงมีชัยแก่หมู่อสุรา
ใต้ฟ้าอย่าทานฤทธิรอน ฯ
24. ชฎิล
ฤษีที่หนุมาน-องคต-ชมพูพานพบตอนไปสำรวจลงกา (สืบมรรคา)
ชี้ทางให้ทั้งคณะไปพบกับสัมพาที
จึ่งว่าลงกานี้ไปยาก
แสนลำบากข้ามห้วยเหวไศล
กำหนดแต่ที่นี้ไป
ได้สิบห้าโยชน์คณนา
.
จะถึงซึ่งเขาหนึ่งนั้น
ชื่อเหมติรันภูผา
อยู่ริมมหาคงคา
เป็นท่าข้ามไปเมืองมาร ฯ
ฤษีชฎิลบอกทางให้หนุมาน + องคต + ชมพูพาน
25. นารท
ฤษีที่หนุมานพบตอนไปสำรวจลงกา (สืบมรรคา)
ตอนแรกจะไปกวนตีนเขา แม้เจอฤษีเสกปลิงกลับ
แถมยังเป็นคนแนะนำให้หนุมานดับไฟด้วย “น้ำบ่อน้อย”
หนุมานถูกฤษีเกรียนกลับ เสกปลิงเกาะคาง
26. คาวินท์
ฤษีที่สาปให้นิลราช (โทษฐานเอาไม้เท้าไปทิ้งน้ำ)
ว่าถ้าเอาสิ่งใดไปทิ้งลงน้ำ สิ่งนั้นจะจมอยู่ตลอดกาล…
ว่านิลราชวานร
ผู้มีฤทธิรอนแกล้วกล้า
ไปหยอกพระมหาสิทธา
มีนามชื่อว่าคาวินท์
.ลักเอาไม้เท้าของเธอไป
ซ่อนไว้ในท่ากระแสสินธุ์
จับได้ก็สาปขุนกบินทร์
ว่าพานรินทร์ตัวนี้
.จะเอาสิ่งใดทิ้งน้ำลง
ให้คงจมอยู่กับที่
อย่าลอยขึ้นหลังนที
แม้นพระจักรีสี่กร
.
จะข้ามไปลงกาปราบมาร
ใช้พวกทวยหาญชาญสมร
จองถนนข้ามมหาสาคร
วานรนั้นขนภูเขามา
27. อมเรศ
ฤษีที่บอกให้พระรามใช้ไชยามพวานเป็นคนเชิญธง
เมื่อนั้น
พระอมรเมศฤๅษี
ได้ฟังก็แจ้งแต่เดิมที
ว่าองค์เจ้าตรีโลกา
.
ประสาทพรไชยามพวาน
ถ้านารายณ์อวตารให้อาสา
ถือธงนำพยุหโยธา
จริงเหมือนวาจาพานร
28. ทิศไพ
ฤษีที่บอกใบ้การสังหารบรรลัยกัลป์ (ผ่านทราย) ให้หนุมานทราบ
และยังเป็นคนออกบวชฤษีให้หนุมานอีกด้วย!
หนุมานตอนออกบวช
29. กาล
ฤษีที่สอนวิชาข้ามด่านเพลิงกรด-น้ำกรดให้ไพนาสุริยวงศ์ + วรณีสูร
จะขอบังคมลาบาท
ไปเรียนศิลปศาสตร์ศรศรี
สำนักพระกาลมุนี
ภูมีจงได้เมตตา ฯ
30. ปรเมศ
ฤษีประจำเมืองมลิวัน
ครั้นท้าวจักรวรรดิเกิดฝันร้าย จึงทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้
ครั้นถ้วนคำรบพันคาบ
พระดาบสรดอาบพระองค์ให้
พลางอวยสวัสดิ์อวยชัย
สารพัดเภทภัยอย่าแผ้วพาน ฯ
31. วัชมฤค
ฤษีที่อนุญาตให้นางสีดามาพำนักอยู่ด้วยคราวพระรามเนรเทศ
แถมยังเป็นผู้เสกพระลบขึ้นมา และเป็นอาจารย์ของสองพี่น้อง
ต้นฉบับรามายณะเรียก วาลมิกิ (Valmiki)
ฤษีวาลมิกิ (Valmiki) ผู้รจนารามายณะ
32. โคศภ
ฤษีที่มาบอกพระรามเรื่องท้าวอุณาราช
แถมยังแนะนำให้ใช้ศรกกจัดการตรึงร่างไว้ตลอดกาล
มาจะกล่าวบทไป
ถึงพระโคศภฤๅษี
เข้าฌานสำรวมอินทรีย์
อยู่ที่ศาลาอารัญ
.
แจ้งว่าองค์พระอวตาร
สังหารอุณาราชไม่อาสัญ
ก็ออกจากพิธีตบะกรรม์
พระนักธรรม์เหาะรีบระเห็จไป ฯ
33. โควินท์
ฤษีประจำเมืองไกยเกษ
ตอนที่ท้าวคนธรรพนุราชยกทัพมาตีเมือง
ท้าวไกยเกษก็ได้ทิ้งเมืองไปขอพึ่งใบบุญพระฤษี
ครั้นเสร็จก็ขับรัถา
ออกจากทวาราราชฐาน
ไปยังโควินท์พระอาจารย์
ทวยหาญคนสนิทก็ตามไป ฯ
นอกจากนี้ ยังมีชื่อปลอมที่ทศกัณฐ์แปลงเป็นฤษีอีก 2 ครั้ง
1.สุธรรม์ :
ชื่อปลอมที่ป๋าแปลงไปหลอกล่อสีดาให้ออกจากอาณาเขต ก่อนจะฉุดกลับลงกา
2. กาลสิทธ :
ชื่อปลอมที่ป๋าแปลงไปโน้มน้าวให้พระรามยอมแพ้ และอย่าไว้ใจพิเภก
+ เสกไม่ให้พิเภกพูด
ฤษีสุธรรม์ (ทศกัณฐ์แปลง) ภาพจาก รามาวตาร จิตรกรรมฝาผนังมีชีวิต [https://youtu.be/tAJO2Sexp0c]
และยังมีฤษีสุขวัฒน์
ฤษีที่บำเพ็ญตบะอยู่ที่เชิงเขาไกรลาส จนเกิดมีต้นไผ่เกิดขึ้น
ฤษีจึงตัดต้นไผ่นำขึ้นไปถวายพระอิศวร
พระอิศวรรับเอาไม้ไผ่นั้นมาทำเป็นคันธนู ก่อนจะทดลองโก่งคันธนูด้วยกำลังทั้งหมด แต่ธนูนั้นหักออกเป็นสองท่อน
จึงเกิดความเสียดาย ขว้างท่อนปลายงลงไปยังพื้นดิน
บังเกิดเป็นลิงชื่อชามพูวราช
ขว้างท่อนต้นลงไป บังเกิดเป็นพญาอสูรชื่อ เวรัมภ์
เวลาผ่านไปนาน วานรและอสูรทั้งสองต่างก็ขึ้นไปเฝ้าพระอิศวร และบังเอิญพบกันโดยมิได้นัดหมาย ต่างก็ดีใจที่มีกำเนิดมาจากแหล่งเดียวกัน แต่พระอิศวรกลับทำนายว่าต่อไปวานรกับอสูรจะต้องสู้รบกัน แล้วฝ่ายวานรจะต้องเป็นฝ่ายมีชัย
ส่วนไม้ไผ่ที่ฤษีนำเอามาถวายพระอิศวรนั้น
ต่อมาก็ได้ตั้งชื่อต้นไผ่ชนิดนั้นว่าไผ่ษีสุข หรือ ไผ่ฤษีสุข
ฤษีสุขวัฒน์ กับไผ่สีสุก
โฆษณา