26 ต.ค. 2021 เวลา 03:55 • ธุรกิจ
เฟซบุ๊ก ตั้งกลุ่มธุรกิจใหม่ชื่อ Facebook Reality Labs เพื่อดูแลธุรกิจ Metaverse ทั้งหมด
1
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา Facebook ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2021
ช่วงไม่กี่เดือนมานี้ ก็เรียกได้ว่าเป็นช่วงมรสุมของบริษัท จากเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น
- บริการในเครือล่มทั่วโลก
- ถูกอดีตพนักงานโจมตีว่าสนใจแต่กำไร
- นโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ Apple ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจกลุ่มโซเชียลมีเดียที่มีรายได้จากการโฆษณา ทำให้การเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานยากขึ้น
โดยเมื่อไม่กี่วันก่อน หุ้นของบริษัท Snapchat ที่เพิ่งประกาศผลประกอบการและรายงานว่านโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ Apple ส่งผลกระทบมากกว่าที่บริษัทคาดการณ์เอาไว้ ก็ได้มีมูลค่าปรับตัวลดลงหนักถึง 25% ในวันเดียว
2
แล้ววันนี้ Facebook ที่ประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรามาเริ่มกันที่ผลประกอบการของบริษัท Facebook ไตรมาสที่ 3 ปี 2021
รายได้ 9.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 35%
กำไร 3.0 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%
โดยรายได้ที่บริษัททำได้ในไตรมาสนี้ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 9.8 แสนล้านบาท
ในขณะที่ กำไรเหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เอาไว้
โดยเหตุผลหลัก ๆ ที่รายได้ไม่เป็นไปตามคาดการณ์มาจาก
-การปรับนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ Apple ทำให้ผู้โฆษณาทำแคมเปญถึงกลุ่มเป้าหมายได้ยากขึ้น
-ตลาดซื้อขายของออนไลน์ที่ชะลอตัวลง เมื่อเทียบกับการเติบโตแบบก้าวกระโดดในปีก่อน
สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทแบ่งออกเป็น
รายได้จากค่าโฆษณา 97.5%
รายได้อื่น ๆ เช่น อุปกรณ์และบริการ AR และ VR 2.5%
แล้วในไตรมาสล่าสุด มีผู้ใช้งานบริการในเครือ Facebook มากขนาดไหนแล้ว ?
-ผู้ใช้งาน Facebook ต่อวัน 1,930 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 6%
-ผู้ใช้งาน Facebook ต่อเดือน 2,910 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 6%
-ผู้ใช้งานหนึ่งในบริการของบริษัท ต่อวัน 2,810 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 11%
-ผู้ใช้งานหนึ่งในบริการของบริษัท ต่อเดือน 3,580 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 12%
หากเรามาดูผู้ใช้งาน Facebook ต่อเดือน ตามแต่ละภูมิภาค จะแบ่งได้เป็น
เอเชียแปซิฟิก 1,278 ล้านบัญชี
ยุโรป 423 ล้านบัญชี
สหรัฐอเมริกาและแคนาดา 261 ล้านบัญชี
อื่น ๆ 949 ล้านบัญชี
ในขณะที่ในไตรมาสเดียวกันนี้ Facebook ก็ได้มีพนักงานในบริษัท 68,177 คน หรือเพิ่มขึ้นมากถึง 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับอัปเดตอื่น ๆ จากทางบริษัท
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ได้ระบุในงานประกาศผลประกอบการว่าบริษัทจะมีการเปลี่ยนโฟกัสครั้งสำคัญในปีหน้า ซึ่งจะเน้นหนักไปที่การพัฒนาศักยภาพของ “Reels” ที่กำลังแข่งขันกับ TikTok อยู่ในตอนนี้
1
โดยเหตุผลที่ต้องเน้นก็เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานกลุ่มวัยรุ่น ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปี
ให้เข้ามาใช้งานบริการของบริษัทมากขึ้น
ซักเคอร์เบิร์ก ก็ได้ระบุเพิ่มเติมว่ามันอาจต้องใช้เวลาเป็นปี และความสำคัญของ Reels นั้นจะอยู่ในระดับเดียวกันกับฟีเจอร์ News Feed และ Stories เลยทีเดียว
นอกจากนี้ บริษัทก็ยังได้พูดถึง “Metaverse” โดยระบุว่าการุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่ในครั้งนี้
มีแนวโน้มจะทำให้บริษัท มีโครงสร้างทางธุรกิจแตกต่างไปจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ
และเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น Facebook จึงได้ปรับการรายงานกลุ่มธุรกิจออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกชื่อว่า Family of Apps (FoA) ครอบคลุมธุรกิจ Facebook, Instagram, Messenger, WhatsApp และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มโซเชียล
อีกส่วนก็คือ Facebook Reality Labs (FRL) ครอบคลุมธุรกิจ AR และ VR ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ไปจนถึงคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AR และ VR
สำหรับการคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาสถัดไป
Facebook คาดการณ์ว่าจะทำรายได้อยู่ในช่วงระหว่าง 1.0 ถึง 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งการประเมินรายได้นี้ก็ได้รวมความไม่แน่นอนของทั้งนโยบายความเป็นส่วนตัวใหม่ของ iOS 14 และสถานการณ์โรคระบาดแล้ว
ในขณะที่ กลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการโฆษณา บริษัทก็ได้ระบุว่าอาจมีรายได้ลดลง เนื่องจากปีที่แล้ว มีฐานรายได้ที่สูงจากการวางจำหน่าย Oculus Quest 2 ในช่วงเทศกาลช็อปปิง
ทั้งนี้ บริษัทก็ได้คาดการณ์ค่าใช้จ่ายทั้งปีนี้ เพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อยเป็น 2.3 ถึง 2.4 ล้านล้านบาท
ซึ่งจะหนักไปที่การจ้างพนักงานด้านเทคนิค นักพัฒนาผลิตภัณฑ์และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
โดยไตรมาสนี้ Facebook ได้มีการซื้อหุ้นคืนไปแล้ว 4.74 แสนล้านบาทและได้ระบุเพิ่มเติมว่าจะปรับโปรแกรมการซื้อหุ้นคืน เพิ่มขึ้นอีก 1.65 ล้านล้านบาท
จากภาพรวมผลประกอบการทั้งหมดในไตรมาสที่ 3 และการประกาศซื้อหุ้นคืนเพิ่ม
ก็ได้ทำให้หุ้นของบริษัท Facebook หลังเวลาทำการ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2%
โดยปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ 30.6 ล้านล้านบาท ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 7 ของโลก..
โฆษณา