26 ต.ค. 2021 เวลา 13:00 • การตลาด
โลกคู่ขนานที่เป็นจริง! รู้จัก ‘Metaverse’ ความหวังใหม่ของวงการเทคโนโลยี
2
ไม่กี่วันที่ผ่านมา Facebook ได้ประกาศวางแผนรีแบรนด์และเปลี่ยนชื่อบริษัท เพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่ง ‘Metaverse’ หรือโลกเสมือนอย่างเต็มรูปแบบ
6
โดยการผลักดันนี้ไม่ใช่เป็นเพียงการพัฒนาเทคโนโลยีหรือยกระดับบทบาทของโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศว่า Facebook จะเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีที่จะทำให้วิถีชีวิตของเราทุกคนเปลี่ยนแปลงไปโดยปริยาย
1
นอกจาก Facebook ที่สนใจดึง Metaverse ให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในบริษัทแล้ว บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ ก็มีความสนใจในสิ่งนี้เช่นกัน เช่น บริษัท Epic Games ผู้ผลิตเกม Fortnite หรือบริษัทพัฒนาเทคโนโลยี Beamable เป็นต้น เห็นแบบนี้แล้ว หลายคนคงสงสัยแล้วว่า ‘Metaverse’ คืออะไร เพราะเหตุใดมันจึงมีความสำคัญต่อบริษัท เพื่อไขข้อสงสัยเหล่านี้ เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันเลย!
4
‘Metaverse’ คืออะไร?
4
เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ VR (Virtual Reality) กับ AR (Augmented Reality) เป็นยุคของอินเทอร์เน็ตแบบ 3 มิติ ที่ไม่ใช่แค่สามารถค้นหาข้อมูล หรือดูเนื้อหาความเคลื่อนไหวผ่านหน้าจอ แต่จะเป็นการ ‘ท่อง’ เข้าไปในโลกเสมือนจริงตามความต้องการของเรา ช่องทางนี้จะช่วยให้เราได้ปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นโอกาสให้เราได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ล้ำหน้าและเป็นจริงยิ่งขึ้น
9
‘Metaverse’ สำคัญอย่างไรในโลกปัจจุบัน?
3
ประโยชน์ของ Metaverse มีอยู่หลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพัฒนาด้านเกม ปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ซับซ้อนน้อยลง กระตุ้นการซื้อขาย และเพื่อทำความเข้าใจให้เห็นภาพกันมากขึ้น เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า
3
1) ทำให้สามารถสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกม ดูคอนเสิร์ตและการสื่อสารผ่านออนไลน์ที่สมจริงยิ่งขึ้น
Metaverse จะช่วยให้ผู้คนเข้าถึงวัฒนธรรมที่หลากหลายมากขึ้น อย่างวิดีโอเกมของ ‘Fortnite’ และ ‘Roblox’ ที่ได้เพิ่มตัวเลือกให้ผู้เล่นที่แต่งตัวเป็น Lebron James สามารถต่อสู้กับผู้อื่นโดยใช้หน้ากากของตัวละครในหนังสือการ์ตูนอย่าง Deadpool หรือ Joker สิ่งนี้ไม่เพียงทำให้ตัวละครเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ยังเพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้มีสีสันขึ้นอีกด้วย
4
วิดีโอเกมส่วนใหญ่ มักนำเสนอในรูปแบบที่จำกัด โดยเน้นไปที่กลไกของฉาก อย่างการยิงหรือการขับรถ ทว่า การมุ่งพัฒนาแต่ระบบหรือรูปแบบการนำเสนอไม่สามารถสร้างประสบการณ์ผู้เล่นได้อย่างแท้จริง การเชื่อมต่อให้ผู้เล่นสื่อสารกันผ่าน Metaverse จะเป็นการทำให้ผู้เล่นได้แบ่งปันช่วงเวลาแห่งความสนุกสนานกับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้เช่นกัน
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจด้านการบันเทิงก็ค่อยๆ ปรับรูปแบบไปสู่การท่องโลกเสมือนจริงมากขึ้น เราเริ่มเห็นการจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบที่เปลี่ยนไป เป็นการชมคอนเสิร์ตจากบ้านด้วยเทคโนโลยี VR โดยที่เราไม่ต้องออกจากบ้าน ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คอนเสิร์ตเสมือนจริงของ Ariana Grande ได้รับความนิยามอย่างล้นหลาม โดยมีผู้เข้าชมมากถึง 78 ล้านคนเลยทีเดียว
4
จากความนิยมการรับชมคอนเสิร์ตในรูปแบบเสมือนจริงที่มากมายเช่นนี้ ทำให้เราเห็นว่า การจัดคอนเสิร์ตรูปแบบใหม่มีแนวโน้มที่จะเติบโตและยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ยังมีงานศิลปะ การจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ที่เริ่มเข้าสู่โลกเสมือนเช่นกัน เช่น เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัด "To The Moon" เทศกาลดนตรีและศิลปะเสมือนจริงครั้งแรกที่ใช้ Ethereum Blockchain เป็นต้น
3
การนำผลงานศิลปะ ความบันเทิงเข้าสู่เทคโนโลยี Metaverse ทำให้สายผลิตและผู้เสพงานเชื่อมโยงกันมากขึ้น เปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยน การสื่อสารโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
1
2) มีสิทธิ์เข้าถึงและถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
ความนิยมในการครอบครองทรัพย์สินทางดิจิทัลที่เกิดจาก NFT จะเป็นประโยชน์ทั้งตัวผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะนอกจากจะทำให้การซื้อขายของสะสม ศิลปะ หรือสินทรัพย์เกิดขึ้นบนโลกดิจิทัลอย่างง่ายดายแล้ว ยังเป็นทางเลือกใหม่ของการลงทุนที่สามารถเก็งกำไรและเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ และถึงแม้ว่าธุรกรรมการแลกเปลี่ยนจะเกิดขึ้นบนโลกดิจิทัล แต่มันก็สามารถมอบประสบการณ์เสมือนจริงที่มีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงได้
3
ยกตัวอย่างเช่น Decentraland แพลตฟอร์มสินทรัพย์ NFT แบบ 3D Virtual Reality ผู้ใช้งานสามารถซื้อที่ดินเสมือนจริงพร้อมกับไอเทมอื่นๆ โดยใช้ MANA Token เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนซื้อขาย LAND NFT ทั้งนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถสำรวจโต้ตอบซึ่งกันและกันผ่านโลกเสมือนจริงได้อีกด้วย
นอกจากนี้ Sotheby's บริษัทผู้จัดการประมูลชั้นนำระดับโลก ได้มีการเปิดแพลตฟอร์มตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยน NFT ที่มุ่งเน้นสร้างการขายและประมูลงานศิลปะดิจิทัลที่ล้ำสมัย โดยมูลค่าการซื้อขายตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเมื่อ 9 กันยายนที่ผ่านมา NFTs จำนวน 101 รายการจาก Bored Ape Yacht Club ถูกขายด้วยราคาประมูลสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นจำนวนเงินมากถึง 24.4 ล้านดอลลาร์กันเลยทีเดียว
เราอาจสรุปได้ว่า การซื้อขายแบบ NFT ผลักดันให้สายผลิตและผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับผลงานต่างๆ รวมถึงช่วยให้เศรษฐกิจเป็นไปในทิศทางที่คล่องตัวมากขึ้น
3) เพิ่มโอกาสการซื้อขายให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้น
1
เมื่อเราใช้เวลาในโลกเสมือนจริงมากขึ้น เท่ากับว่าแพลตฟอร์มออนไลน์จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตเรามากขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งสิ่งนี้เป็นโอกาสที่ทำให้ร้านค้ามีพื้นที่โฆษณา และการที่ผู้คนเข้าสู่โลกออนไลน์เสมือนจริงยังทำให้บริษัทต่างๆ เข้าถึงฐานข้อมูลของผู้บริโภค สามารถที่จะเก็บข้อมูลผ่านช่องทางเหล่านี้ และนำไปวิเคราะห์และพัฒนาต่อไป
3
ยกตัวอย่างแบรนด์ที่น่าสนใจอย่าง Gucci ที่ได้เปิดตัวคอลเลกชันสินค้าดิจิทัลแบบ NFT ซึ่งเป็นการใช้ “Direct-to-Avatar (D2A) หรือรูปแบบการขายผลิตภัณฑ์โดยตรงไปยังอวาตาร์ (D2A) โดยทาง Emma Chiu ผู้อำนวยการระดับโลกของ Wunderman Thompson Intelligence กล่าวว่า แพลตฟอร์ม NFT จะทำให้แบรนด์ทราบความสนใจ ปริมาณคนที่เข้าร่วม และกิจกรรมอื่นๆ ที่ผู้คนใช้ในแพลตฟอร์มต่างๆ สิ่งนี้ทำให้เราสามารถประเมินแนวโน้มความต้องการในอนาคตและทำให้แบรนด์ก้าวสู่การเป็นผู้นำเทรนด์
1
4) ทำให้เราใช้ชีวิตง่ายขึ้น
1
Facebook ได้เปิดตัวแอป Horizon Workrooms ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Virtual Reality เป็นการจำลองห้องประชุมเสมือนจริง ที่จะทำให้เรารู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในห้องประชุมจริงๆ สามารถช่วยให้การประชุมออนไลน์สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ใครหลายคนต้อง Work From Home
และหากเราต้องการคุยงานกับใครสักคนเพื่อแก้ปัญหา แทนที่จะโทรหาพวกเขาทางโทรศัพท์ เมื่อเชื่อมต่อผ่านระบบ Metaverse เข้ามาได้แล้ว เราจะเห็นจอภาพทั้งหมดที่เราเปิดอยู่บนคอมพิวเตอร์ เห็นหน้าเอกสารหรือโค้ดที่เราเขียนได้ทั้งหมด เป็นเหมือนการยืนข้างโต๊ะทำงานและโต้ตอบกับเรา นอกจากนี้ ยังทำให้เราสามารถเปิดหน้าจอได้มากเท่าที่ต้องการ และรังสรรค์ไอเดียบนกระดาน Whiteboard ได้แบบเรียลไทม์ มีฟังก์ชันปักหมุดภาพที่สนใจไว้บนบอร์ดผ่านคอมพิวเตอร์ ทำให้เราสามารถย้อนกลับมาดูข้อความนั้นได้
1
แล้วแบรนด์ต่างๆ ควรรับมืออย่างไรกับการมาถึงของ Metaverse?
Michael E. Porter ผู้บริหาร Unilever กล่าวว่า “Metaverse เป็นโลกที่สมบูรณ์แบบ มันจะดึงดูดผู้ใช้ทุกประเภท จะสร้างประสบการณ์และก่อให้ธุรกรรมเชิงพาณิชย์” เขามีจุดยืนว่า เป้าหมายของ Unilever คือการเติบโต เพราะฉะนั้นแบรนด์จึงมองหาวิถีแห่ง Metaverse เพื่อปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์โลก เขายังเล็งเห็นว่า ในอนาคต Metaverse จะเข้ามามีบทบาทในโลกธุรกิจอย่างแน่นอน ดังนั้น ทุกแบรนด์ต้องมีส่วนร่วมกับมัน หากพวกเขาต้องการเติบโตต่อไป
ทว่า การกระโจนใส่เทรนด์เพียงอย่างเดียวไม่ใช่สิ่งที่แบรนด์ควรทำ แบรนด์ต้องพิจารณาความเหมาะสม ความเป็นไปได้ด้วย สำหรับแบรนด์ที่สงสัยว่าตนเองควรจะเริ่มต้นอย่างไร และอยากรู้ว่า Metaverse เหมาะสมกับแบรนด์ของเราหรือไม่?
แบรนด์สามารถเริ่มจากพิจารณาฐานลูกค้าของแบรนด์ ว่าพวกเขาต้องการอะไร และสำรวจพฤติกรรมลูกค้าของแบรนด์ในปัจจุบันจนถึงอนาคต ตรวจสอบว่า Metaverse เข้ามามีบทบาทในชีวิตลูกค้าของเรามากแค่ไหน สิ่งเหล่านี้จะทำให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่า แบรนด์ควรปรับเปลี่ยนและเปิดรับ Metaverse มากน้อยเท่าไหร่
2
เมื่อแบรนด์ตัดสินใจว่าจะนำ Metaverse เข้ามาใช้ในการทำธุรกิจแล้ว ก็ถึงเวลาที่แบรนด์จะต้องลงมือทำ Tessa Conrad ตำแหน่ง Head of Innovation จาก TBWA ได้ให้ความเห็นว่า การที่แบรนด์จะประสบความสำเร็จได้นั้น เกิดจากการเริ่มลงมือทำก่อน และมีเวลาลองผิดลองถูกจนทำให้แบรนด์สามารถเป็นผู้นำเทรนด์ได้ โดยการเริ่มลงมือทำในช่วงแรกนั้นไม่ต้องคิดซับซ้อนมากนัก ผู้นำสมาคมโฆษณา The World Federation of Advertisers ในภูมิภาค APAC กล่าวว่าการถูกมองว่าเป็น ‘คนแรก’ ที่ทำบางสิ่งจะทำให้เป็นที่จดจำของผู้คน
2
เขายังแนะนำอีกว่า “หากการเคลื่อนไหวครั้งแรกของคุณรอบคอบและทำได้ดี คุณสามารถเพิ่มความคาดหวังที่ผู้บริโภคมีต่อคุณ การเริ่มต้นเป็นคนแรกหมายความว่าคุณจะได้รับการประชาสัมพันธ์มากขึ้น เพื่อมองหาประสบการณ์ที่กว้างขึ้น คุณยังสามารถสำรวจและทดลองเครื่องมืออื่นๆ นอกเหนือจากการใช้ Metaverse ก็ได้เช่นกัน”
2
ไม่เพียงต้องรีบเดินนำเทรนด์ก่อนใคร เรียนรู้ประสบการณ์จากการลงมือ มองหาคุณค่าใหม่ๆ จากสิ่งรอบตัว แต่ต้องพิจารณาการวางแผนเพื่อความยั่งยืนด้วย แบรนด์ Wills คิดว่าการพัฒนากลยุทธ์ควรทำตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เวลาลองถูกลองผิด และแผนงานการลงทุนนี้ไม่ควรสูงจนเกินไป ละทิ้งงานที่ต้องทำเพียงครั้งเดียว และให้ความสำคัญกับงานที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะยาว ระหว่างทางนี้ เราต้องตรวจสอบด้วยว่าสิ่งที่ทำตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงและสมเหตุสมผลหรือไม่
1
แบรนด์ต้องสร้างกลยุทธ์ระยะยาวที่มั่นคง โดยเริ่มจากการทดลองและเรียนรู้ตอนนี้ หาจุดบกพร่องของการดำเนินงานเพื่อแก้ไขและพัฒนา แบรนด์ต้องมองข้ามแบรนด์ตัวอย่างที่มีความคิดเก่าๆ เรียนรู้วิธีสร้างสิ่งที่มีคุณค่า ถอดบทเรียนจากแบรนด์ที่กำลังเป็นผู้นำในวงการ Metaverse สิ่งนี้จะทำให้แบรนด์สามารถเรียนรู้และนำมันไปใช้เป็นแนวทางที่เป็นจริงมากกว่าการมองจากแบรนด์ที่มีความคิดเดิมๆ
การทำความเข้าใจและมีเป้าหมายที่ชัดเจนนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง แบรนด์ควรวัดผล และควรมีแผนรับมือล่วงหน้า ในบางครั้ง อาจเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด สิ่งที่แบรนด์ควรทำคือการเปิดรับผลลัพธ์ที่แตกต่าง เพราะไม่มีใครรู้ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะส่งผลต่อแบรนด์อย่างไรในอนาคต การมีความคิดที่ยืดหยุ่นและเปิดกว้างจะเป็นปัจจัยที่ทำให้แบรนด์มีโอกาสประสบความสำเร็จในการใช้ Metaverse
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#marketing
โฆษณา