27 ต.ค. 2021 เวลา 07:41 • ศิลปะ & ออกแบบ
กำเนิด(ภาพ)พระพุทธะราหู
การเดินทางของงานศิลปะชิ้นนี้ใกล้สิ้นสุดแล้ว นับจากเดือน มีนาคม มาจนถึง เดือน ตุลาคม กำหนดเสร็จสิ้นในเดือน พฤศจิกายน
พระพุทธะ คือ พระพุทธเจ้า
ราหูคือนามของเทพ
ที่เคยได้ยินกัน คือราหูอมจันทร์
ด้านซ้ายคือพระนารทพุทธเจ้า ด้านขวาคือพระราหู
เป็นภาพที่ถูกออกแบบมาจากคำทำนายของพระไตรปิฎก คือ พระราหูจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้านามว่า "พระนารทพุทธเจ้า" นับเป็นองค์ที่ห้าถัดจากพระศรีอารยเมตไตรพุทธเจ้า
จากคติดังกล่าวนี้ จึงถือว่าพระราหูนั้นมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์ และเป็นหน่อเนื้อพระพุทธางกูรแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่น่าเคารพกราบไหว้ของชาวพุทธ
การเริ่มวาดลงเฟรมเป็นอะไรที่ยากมากต้องวัดให้ดี ไม่งั้นลำบากแน่ ผมเลยต้องใช้สมาธิสูงมาก จึงไปเริ่มที่วัดเก่าในป่าช้า มีเจดีย์เก่าแก่ในเมืองเชียงแสน
บางคนก็อาจมองว่าพระราหูเป็นอสูรชั่วร้าย เพราะมีเขี้ยวใหญ่เหมือนยักษ์ หน้าตาดูโหดร้ายน่าเกรงขาม
ภาพร่างด้วยดินสอสเกลบนเฟรม 60*80 ซ.ม. จะต่างจากตัวแบบที่ถูกพิมพ์ลงบนกระดาษ A4 จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนบางอย่าง
แต่ถ้าได้ลองศึกษาเรื่องราวของพระราหูแล้ว จะได้รู้ว่าทำไม เค้าถึงยอมรับให้พระราหูเป็นเทพที่น่าสักการะบูชา
พระราหูจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเคราะห์ ชะตากรรม วิบากกรรม
ผมจะไม่ลงเรื่องราวของพระราหูมาก เพราะจะยาวเกินไป
ในขณะวาดภาพนี้ ผมจึงยอมอุทิศชีวิตเพื่อเจอกับวิบากกรรม และชะตากรรมที่จะมาถึง ผมต้องสละเวลานอนเพื่อมาสร้างงานนี้ หลับ ตี1 ตี2 แทบทุกวัน
พึ่งได้นับ ว่ามันผ่านมาเป็นเวลากว่าครึ่งปีแล้ว ที่ต้องขังตัวเอาไว้ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ทั้งความร้อน อากาศหายใจที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
ผมต้องเจอทั้งแรงกดดันต่างๆ ทั้งกำลังใจ และกำลังทรัพย์อันน้อยนิด บางครั้งผมก็ท้อเอากลางคัน กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ก็หนักอยู่
ผมจึงนึกถึงเรื่องราวของพระราหูอยู่เสมอว่าพระราหูต้องผ่านอะไรมาบ้าง
แต่เรื่องที่กระทบจิตใจผมมากที่สุดก็คือเรื่องที่พระราหู ยกลูกเมียให้ท้าวยันตะจับกินต่อหน้าต่อตา
ลึกๆ ในใจ ถ้าเป็นเรา มันจะเป็นยังไงหากเราเห็นยักษ์ตนหนึ่ง กำลังจับลูกเมียเรากิน ค่อยๆ บดเคี้ยวเสียงกระดูกที่กำลังแตกแหลกสลาย เลือดทะลัก ท้องใส้ทะลุ ในปากยักษ์
เผาเพื่อให้เกิดพื้นผิว
ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ถ้าเป็นเราตอนนั้นเราคงเกิดไฟลุก โกรธไฟท่วม จนอยากจะเผายักษ์ตนนั้นให้ตายทั้งเป็น
แต่พอมาคิดในมุมของพระราหูแล้ว ต้องมีจิตขั้นสูงขนาดไหนที่ยังมีความปิติเมื่อยกลูกเมียให้ยักษ์จับกิน
เป็นเลือดจริงนะครับ
จึงทำให้นึกถึงเรื่องของพระพุทธเจ้าที่ยกลูกทั้งสองให้กับชูชก เพียงแค่ชูชกใช้กลอุบายว่า จะสอนวิชาให้ แต่พอได้ลูกของพระพุทธเจ้าไป กลับเอาไปเป็นทาสรับใช้แทน จนผ่านไปเนินนาน ก็ได้เกิดเรื่องที่ทำให้ลูกของพระพุทธเจ้าได้ไปเรียนวิชากับพระฤๅษีแทน
พระพุทธเจ้าไปตรัสไว้ว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม หากลูกทั้งสองยังมีบุญบารมีก็จะหลุดพ้นจากบาปเคราะห์นั้นๆ เอง
การหลั่งเลือดนี้ที่แทนเหตุการณ์ของลูกเมียพระราหูถูกยักษ์ยันตะจับกินต่อหน้าต่อตา
การปล่อยผ่านกับความรู้สึกตนเองเป็นอะไรที่ยากมาก ความรู้สึกที่เกิดจากภายนอก ความเจ็บของบาดแผลทางกาย ใช้กาลเวลาเพียงน้อยนิดก็จะหายไป แต่ความเจ็บที่เกิดภายใน นึกทีไรก็เจ็บทุกที แต่หากรู้วิธี มันก็จะแค่เข้ามาและผ่านไป
จริงแล้วมนุษย์เรามีทั้งดีและช่วย อยู่ที่เราจะใช้มันกับใคร หรือจะไม่ใช้อะไรเลย แค่ปล่อยให้มันผ่านไปก็เท่านั้น
โปรดติดตาม ภาพที่สมบูรณ์ในเดือน พฤศจิกายน นี้...
โฆษณา