“เชื่อไหมคะว่า หากเราตั้งใจ และตั้งเป้าหมายให้ดีแล้ว ภายในหนึ่งปีนั้นเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างมหาศาลทีเดียว เป้าหมายหนึ่งของชีวิตมนุษย์ทุกๆ คนก็คือ การพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี”
นี่คือ คำนำ หรือคำชี้ชวนของหนังสือ “Brain Power” คู่มือสมองดี ผลงานเล่มล่าสุดของ หนูดีวนิษา เรซ ผู้เชี่ยวชาญด้านอัจฉริยภาพ และคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
เป็นที่รู้กันว่าหนูดีเขียนหนังสือมาก็หลายเล่ม ทั้งอัจฉริยะสร้างได้ อัจฉริยะเรียนสนุก อัจฉริยะสร้างสุข เล่นให้เป็นอัจฉริยะ จัดบ้านใหม่ถูกใจสมอง ซึ่งแต่ละเล่มนั้นการันตีได้ถึงยอดขายที่ตีพิมพ์กันหลายต่อหลายครั้ง ผู้อ่านก็มีทุกเพศ ทุกวัย และหนังสือแต่ละเล่มก็เสมือนเป็นการจุดประกายทำให้คนเริ่มหันมาสนใจอวัยวะเล็กๆ แต่ทรงพลังอย่างสมองกันมากขึ้น
“คนเรามีสมองอยู่ก้อนเดียว เราทุกคนคงอยากรู้ว่าจะทำยังไงเพื่อใช้มันได้อย่างดี คงไม่มีใครอยากจะมีร่างกาย สมอง หรือสุขภาพที่ไม่ดี ไม่แข็งแรง คนเราก็มีร่างกายอยู่ร่างกายเดียว สมองเดียว คงเป็นธรรมดาสามัญที่เราอยากจะรู้ว่าจะทำยังไงให้ดี หรือใช้อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ งานเขียนของหนูดีที่ออกมาก็เลยเป็นแมสที่ทุกคนอ่านได้ ไม่เฉพาะวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง”
แม้ว่าหนังสือของหนูดีจะเน้นไปเรื่องของการสร้างอัจฉริยะ แต่คำว่าอัจฉริยะในความหมายของเธอนั้นไม่ใช่เรื่องของไอคิว แต่เป็นเรื่องของการพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน ทุกเดือน ทุกปี
“ถ้าเราเก่งขึ้น สามารถทำอะไรที่ไม่เคยทำได้มาก่อน แล้วตอนนี้ทำได้ ก็คือการพัฒนาตัวเองได้แล้ว เพราะฉะนั้นคำว่า อัจฉริยะสมัยใหม่ไม่ใช่พูดถึงว่าไอคิวแค่นี้แล้วเราจะเป็นอัจฉริยะ แต่เราพูดถึงความสามารถในการพัฒนาตัวเอง ในการจัดการปัญหา ไม่ใช่แบบเก่าอีกต่อไปแล้ว”
คงเหมือนกับหนังสือเล่มนี้ Brain Power คู่มือสมองดี ที่หนูดีตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นคู่มือช่วยจัดระบบระเบียบของชีวิต และเป็นคู่มือในการพัฒนาตัวเอง เพื่อให้ทั้ง 365 วันเป็นเหมือนขั้นบันไดให้ผู้อ่านค่อยๆ พัฒนาตัวเองไปทีละนิด ผ่านกิจกรรมสนุกๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังสมองกับ 12 ภารกิจ พร้อมออร์แกไนเซอร์ช่วยเตือนความจำ ซึ่งแต่ละภารกิจนั้นก็เลือกมาจากกิจกรรมที่หนูดีปฏิบัติอยู่เป็นประจำ ถ้าใครทำครบทั้งปีหนูดีเขาการันตีว่าสมองจะดีขึ้นมากมาย
“คนเราควรจะมีการพัฒนาตัวเอง หรือเรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เพราะปกติสมองคนเราจะมีการยืดหยุ่น แต่เมื่อโตขึ้นสมองจะมีการยืดหยุ่นน้อยลง การเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เหมือนเป็นการหลอกสมองให้สมองได้ทำงาน เพื่อให้การทำงานของสมองยังเป็นไปด้วยดี”
โดยแต่ละภารกิจนั้นเริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่หนูดีนั้นยกให้เป็นเดือนแห่งการวางเป้าหมายในชีวิต เพราะมีงานวิจัยออกมาอย่างชัดเจนว่า คนที่มีการตั้งเป้าหมายในชีวิตกับคนที่ไม่มีเป้าหมายนั้นประสบความสำเร็จแตกต่างกันอย่างไร
สำหรับเดือน ก.พ. หนูดีนั้นยกให้เป็นเรื่องของการจัดการเวลา ส่วนเดือนที่สาม
มี.ค. ยกให้เป็นเรื่องของการสะสางความรกในบ้าน เพราะบ้านที่รกก็จะทำให้สมองรกตามไปด้วย
เม.ย. เป็นเรื่องของความจำ
พ.ค. กับการเรียนรู้อาหารที่ดีกับสมอง
มิ.ย. เรื่องราวของการสร้างชีวิตใหม่ ให้โชคดี
ก.ค. อ่านให้เร็วขึ้น เหลือเวลาในชีวิตมากขึ้น
ส.ค. ออกกำลังกาย ออกกำลังสมอง
ก.ย. เรียนรู้เรื่องการจัดการเงินๆ ทองๆ
ต.ค. ก็เริ่มต้นกับภารกิจคนเมืองยุคใหม่ ปลูกผักเอาไว้กินเอง
พ.ย. ฝึกฝนสมาธิ ให้เวลาคุณภาพกับตัวเอง
ส่งท้ายเดือน ธ.ค. ด้วยการวางแผนเฉลิมฉลองชีวิต ผ่านการท่องเที่ยว
หนูดีค่อนข้างโชคดีที่จะเจอกับคนอ่านได้มากกว่านักเขียนคนอื่นๆ เพราะหนูดีมีงานอื่นด้วย เช่น การจัดรายการวิทยุ พิธีกรรายการโทรทัศน์ และอีกอาชีพคือ การบรรยายเรื่องสมองในองค์กร คนมาฟังบางทีเป็นร้อยเป็นพัน พอลงจากเวทีเขาก็จะเข้ามาคุยเลย อ่านเล่มนั้นนะ อ่านเล่มนี้นะ
อย่างอัจฉริยะสร้างได้ เล่มแรกอันนี้ชัดเจนมาก เพราะเป็นหนังสือที่ทำให้งานวิจัยเกี่ยวกับสมองเป็นที่รู้จัก คนสนใจ หรืออัจฉริยะเรียนสนุก อันนี้ก็จะได้ฟีดแบ็กจากน้องๆ นักศึกษาเลย ตอนนั้นไปพูดที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ บางคนก็จะบอกว่าเมื่อก่อนสอบได้เกรด 1 กว่าๆ พออ่านหนังสือแล้วทำตามทุกอย่าง ก็สอบได้ 4.00 ซึ่งไม่ใช่คนแรกที่พูดแบบนี้ เราก็โอ้โห!!! ได้ผลขนาดนั้นเลยเหรอ เล่มนี้ก็เหมือนกัน พอได้ยินแบบนี้เราก็ชื่นใจ เพราะได้ทำตัวเป็นประโยชน์
หนูดีมองว่าเราอุตส่าห์เรียนมาแล้วถ้าไม่ได้ใช้ให้เป็นประโยชน์กับคนอื่นๆ ก็เสียดายปริญญาค่ะ”
ส่วนหนังสือเล่มต่อไป ใครที่มีปัญหากับเรื่องของความจำ หนูดีจะมาไขข้อข้องใจให้ฟังกันค่ะ
สำหรับใครที่อยากหาอ่าน หนังสือมือสอง สภาพดี ที่นี่มีจำหน่ายค่ะ ราคา 298.-
ขอบคุณข้อมูลบทสัมภาษณ์คุณ หนูดี จาก posttoday.com
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
