28 ต.ค. 2021 เวลา 09:16 • ท่องเที่ยว
ลอนดอนวันที่ 5 (ตอน 1) เจอเพื่อนใหม่แล้ว
พื้นที่สาธารณะของที่พักที่นี่เป็นห้องโถงใหญ่ มีโซฟา กาแฟ น้ำดื่ม เครื่องคอมพิวเตอร์ และที่ชั้นวางหนังสือที่ซึ่งมีหนังสือให้อ่านอยู่ไม่มากแต่ก็มีหนังสือท่องเที่ยวประเทศไทยเล่มนึง ผมมาอยู่บริเวณห้องนี้แทบทุกเช้าก่อนออกไปเผชิญโลกด้วยการเขียนไดอารี่ กินกาแฟฟรี แต่ก็ไม่ค่อยชอบบรรยากาศนักเพราะคนแน่น ที่นั่งมักจะเต็ม และผมก็ไม่ชอบมนุษย์ (หมายถึงไม่ชอบสถานที่ซึ่งมีคนอยู่หนาแน่น) สักเท่าไหรด้วย
หากใครได้มาใช้ห้องโถงตอนเช้าก็จะได้เจอพนักงานผมทองคนนึงกำลังทำวามสะอาด กวาดพื้น จัดเก้าอี้ ท่าทางเธอเคร่งเครียดและดูเหมือนจะบ่นในใจว่าทำไมคนชอบวางของพวกถ้วยกาแฟเกะกะไม่วางเข้าที่ แถมฝรั่งบางคนก็เคยโดนดุอีกเวลาไม่ได้เก็บอะไรเข้าที่เดิม แม้ว่าเธอก็ไม่ได้ดูแก่เท่าไรแต่หากมาอยู่เมืองไทยคงโดนเรียกมนุษย์ป้าไปแล้ว บางทีผมก็กลัวว่าจะโดนแจ๊คพอตเกิดไปทำอะไรพลาดแล้วเจอเธอมาท้าวสะเอวด่าอยู่เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม วันนี้มีเหตุการณ์ที่ดีอยู่อย่างหนึ่งคือได้เพื่อนใหม่ ซึ่งก็คือแม่นางคนหนึ่งที่นอนเตียงตรงข้ามกันและมีนิสัยเหมือนกัน คือชอบเขียนบันทึกก่อนนอน วันนี้บังเอิญเรามานั่งบนโซฟาตรงข้ามกันก็เลยยิ้มให้ ทักทาย รู้สึกแปลกใจที่เราไม่ได้คุยกันก่อนนี้ทั้งที่เจอกันบ่อย
เธอเป็นสาวสวยญี่ปุ่นอายุประมาณต้นสามสิบใส่แว่นกลมหน้าตาดีมีชื่อว่าซากิ มาจากโอซากาและเที่ยวอังกฤษเป็นครั้งแรกเช่นเดียวกับเรา ก่อนหน้านี้ไปมาแล้วหลายแห่งในยุโรปและเคยมาเมืองไทยที่กรุงเทพฯ อยุธยา เชียงใหม่ด้วย พอเห็นสมุดไดอารี่เราก็รู้ว่ามาจากเมืองไทยเพราะหน้าปกเป็นรูปในหลวงภูมิพลกำลังสะพายกล้อง เลยรู้ว่าเป็นคนไทยมาสักพักแล้ว
หลังจากนี้เราก็มาแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องที่เที่ยวอังกฤษก็ได้ความรู้เพิ่มเติมดี และก็ถามไปถึงญี่ปุ่นอีกด้วย เพราะคิดว่าคงจะได้ไปสักวันหนึ่ง แต่ที่แน่นอนก็คือถามถึงเรื่องที่พักที่นี่ว่าเป็นไง ซากิก็คิดแบบเดียวกับเราว่า ราคาถูกแต่ก็ไม่ดี ห้องพักรวมหนาแน่นเกินไปและก็ห้องน้ำ ห้องครัวอีก โชคยังดีที่เธอไม่ได้ใช้ครัวมากนัก บอกกับเราว่าคิดผิดอยู่เหมือนกันที่มาจองที่นี่
คุยกันสักพักก็แยกย้ายกัน เธอไปดูพิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum) ส่วนผมไปชมงานศิลปะที่หอศิลป์เทต (Tate Gallery) คืนนี้ก็คงกลับมาเจอกันอีก คงได้เม้าท์มอยกันมากกว่านี้
โฆษณา