28 ต.ค. 2021 เวลา 14:13 • หนังสือ
"คนเรามาเจอกันเพื่อจากลา แต่ความสูญเสีย ความสัมพันธ์ และความทรงจำที่มีนั้นหล่อหลอมให้เราเป็นเราในทุกวันนี้และชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป"
********บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของหนังสือ**********
นี่เป็นบทสรุปที่ได้จากการอ่านหน้งสือเรื่อง “ขนมปังของพรุ่งนี้ แกงกะหรี่เมื่อวันวาน“ (Yuube No Kare, Ashita No Pan/ Last Night‘s Curry, Tomorrow's Bread)
นิยายเล่มนี้แปลโดย อิศเรศ ทองปัสโณว์ สำนักพิมพ์ Bibli จากหนังสือต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นซึ่งเขียนโดยนักเขียนบทละครคู่สามีภรรยาที่ใช้นามปากกาว่า "คิซาระ อิซึมิ"
“Yuube No Kare, Ashita No Pan” เป็นนิยายเล่มแรกของผู้เขียน ได้รับรางวัลในการประกวดหนังสือยอดเยี่ยมจากสมาคมร้านหนังสือปี 2014 และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Yamamoto Shuugoro นอกจากนี้ในปีเดียวกัน (2014) ยังถูกนำไปสร้างเป็นซีรีย์ญี่ปุ่นชื่อดังในชื่อเดียวกัน
หนังสือเล่าเรื่องชีวิตคนกลุ่มหนึ่งที่เกี่ยวข้องและผูกพันกันผ่านการจากไปของชายคนหนึ่ง โดยมี “ขนมปัง” เป็นสัญลักษณ์แทนความสัมพันธ์และความทรงจำของพวกเขา
ตัวละครหลักของเรื่องได้แก่ “คาซึกิ“ ชายหนุ่มอายุ 25 ปีที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง/ “เท็ตสึโกะ" ภรรยาของคาซึกิ/ “ป๊า“ (เร็นทาโร่) พ่อของคาซึกิ อดีตผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศอารมณ์ดี/ “ยูโกะ“ แม่ของคาซึกิ ซึ่งมักร้องไห้ก่อนการเสียชีวิตของคนรู้จัก/“ทาคาระ“ เพื่อนบ้านและเพื่อนสมัยเด็กของคาซึกิ อดีตแอร์โฮสเตสสาวที่ยิ้มไม่ได้/ “โองาวะ“ เพื่อนสาวของเท็ตสึโกะ ผู้ชื่นชอบการไต่เขา/“โทราโอะ“ ลูกพี่ลูกน้องของคาซึกิ ผู้มีคาซึกิเป็นไอดอลด้านความสัมพันธ์/"อิวาอิ“ แฟนคนปัจจุบันของเท็ตสึโกะ
3 สิ่งที่ได้เรียนรู้
1. ทุกคนและทุกความสัมพันธ์ล้วนมี "รอยแผลเป็น" จากความสูญเสีย
เร็นทาโร่สูญเสียทั้งภรรยา (ยูโกะ) และลูกชาย (คาซึกิ)
คาซึกิสูญเสียแม่ก่อนที่ตัวเองจะจากไป
ยูโกะเองก็ประสบกับความสูญเสียนับครั้งไม่ถ้วนก่อนที่เธอจะป่วยและเสียชีวิต ทั้งการจากเป็น (เพื่อนที่ออฟฟิศ หลังจากที่เธอลาออกไปแต่งงานกับเร็นทาโร่) และการจากตาย (เพื่อนอายุน้อย ผู้ชายที่เคยนัดดูตัวกับเธอ) โดยมักเกิดขึ้นหลังจากที่เธอร้องไห้
หรือแม้แต่อิวาอิที่พยายามขอเท็ตสึโกะแต่งงาน แต่ถูกบ่ายเบี่ยงเรื่อยมา ก็ได้รับผลกระทบจากการที่เท็ตสึโกะได้สูญเสียอดีตสามีอย่างคาซึกิไปและยังทำใจไม่ได้
2. เรามีวิธีรับมือกับความสูญเสียต่างกันและใช้เวลาในการ “move on" ไม่เท่ากัน
ยูโกะมักจะให้คาซึกิไปซื้อขนมปังสำหรับวันรุ่งขึ้นกลับบ้าน
เร็นทาโร่และเท็ตสึโกะมักแวะซื้อขนมปังที่ร้านใกล้โรงพยาบาล หลังไปเยี่ยมคาซึกิ…
หลังจากที่ยูโกะจากไป คาซึกิก็มีความรู้สึกต่อบ้านที่เปลี่ยนไป จากเดิมที่เคยรู้สึกว่าบ้านมีชีวิตชีวาตอนที่แม่ยังอยู่ กลับรู้สึกเงียบเหงา และไม่อยากกลับบ้าน ความสัมพันธ์กับพ่อก็เปลี่ยนไป พูดคุยกันเฉพาะเรื่องจำเป็น ถึงแม้ว่าคาซึกิจะออกไปสังสรรค์เฮฮากับเพื่อน ๆ แต่เมื่อทุกคนแยกย้าย ความรู้สึกของเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความเงียบเหงาเหมือนตอนอยู่บ้าน
แม้ว่าคาซึกิจะจากไปเป็นเวลา 7 ปีแล้ว เท็ตสึโกะยังคงใช้ชีวิตอยู่ในบ้านของคาซึกิร่วมกับพ่อสามี (ป๊า/เร็นทาโร่) โดยทั้งสองคนใช้ชีวิตไปวันวัน ทำกิจวัตรประจำวันและงานบ้านต่าง ๆ เหมือนตอนที่คาซึกิยังมีชีวิตอยู่ แฟนคนปัจจุบันอย่างอิวาอิแปลกใจและเคยถามเท็ตสึโกะว่า อยู่บ้านอดีตสามีมันแปลกนะ คนอื่นจะว่ายังไง แต่เท็ตสึโกะกลับมองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ส่วนเร็นทาโร่ อดีตผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศที่ภายนอกดูเป็นคนอารมณ์ดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้นึกถึงภรรยาและลูกชายที่ล่วงลับ ก็ยังรู้สึกถึงความสูญเสีย
เร็นทาโร่อยากลองทำกิจกรรมใหม่ ๆ จนวันหนึ่งเห็นรายการโทรทัศน์กำลังรายงานเรื่องการปีนเขาของยามะเกิร์ล (สาวภูเขา) เท็ตสึโกะจึงแนะนำให้ป๊ารู้จักกับโองาวะ และทั้งคู่จึงได้ไปปีนเขาด้วยกัน…โองาวะบอกกับเร็นทาโร่ในขณะกำลังปีนเขาว่า ตัวเองเคยถูกแฟนเก่าทิ้งไป หลังจากนั้นได้มาปีนเขาและหลงใหลในกิจกรรมนี้ เพราะให้ความรู้สึกเหมือนกำลัง "ร่วมเป็นร่วมตาย" กับใครสักคน
3. ชีวิตยังคงดำเนินต่อไป โดยมีความสูญเสียเป็นความทรงจำ
ในที่สุด ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว ตัวละครต่าง ๆ ก็อำลาคาซึกิและใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป
ทาคาระที่เคยยิ้มไม่ออกจนลาออกจากงาน ได้ขอตุ๊กตาที่ตนเคยให้คาซึกิจากเท็ตสึโกะและฝากให้เพื่อนรุ่นน้องแอร์โฮสเตสพาตุ๊กตาขึ้นเครื่องบินเพื่อ ’บินไป‘ ด้วย หลังจากนั้นก็เริ่มกลับไปหางานใหม่
ในขณะที่โทราโอะที่เก็บรถคันเก่าของคาซึกิ ได้ขอเก็บกระป๋องใส่กระดูกจากเท็ตสึโกะไว้เป็นที่ระลึกเพื่อแลกกับการตัดสินใจขายรถให้ร้านอะไหล่รถยนต์มือสอง
เท็ตสึโกะเอากระดูกของคาซึกิที่ตนเก็บมาตลอดไปคืนที่สุสาน และตัดสินใจ ‘เริ่มต้น’ กับอิวาอิอย่างค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ตาม… เมื่อใดที่ได้กลิ่นขนมปัง ความทรงจำเก่า ๆ ก็อาจจะกลับมาอีกครั้ง
โฆษณา