31 ต.ค. 2021 เวลา 05:12 • ข่าวรอบโลก
จากภาพยนตร์ “ร่างทรง” ถึง “มูซกอิน” ลัทธิ คนทรงเจ้าในเกาหลี...เรื่องราวจากคอลัมน์ "เกาหลี everything ทุกสิ่งมีเรื่องเล่า" บนแอป 2read
คุณผู้อ่านเชื่อเรื่องผีและวิญญาณไหมคะ ?
และเคยมีประสบการณ์ในสำนักร่างทรงมาก่อนไหม?
วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักโลกทางจิตวิญญาณหรือลัทธิมูซกอินในเกาหลีใต้ ซึ่งมีความเชื่อมโยงและคล้ายคลึงกับร่างทรงในไทยอย่างน่าประหลาด โดยสาเหตุที่หัวข้อในครั้งนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับจิตวิญญาณและคนทรงเจ้า ก็คงหนีไม่พ้นความเชื่อมโยงที่เกิดจากภาพยนตร์เรื่อง “ร่างทรง” (The Meduim) ภาพยนตร์ไทยที่ได้ผู้กำกับ โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล ผู้กำกับหนังสยองขวัญชื่อดังอย่าง ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2004) กลับมากำกับหนังสยองขวัญอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าเดิมตรงที่ได้ผู้กำกับชาวเกาหลีอย่าง นา ฮงจิน ผู้กำกับภาพยนตร์ดังหลายเรื่อง เช่น The Yellow Sea (2010) และ The Wailing (2016) มารับตำแหน่งโปรดิวเซอร์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
นอกจากความน่าสนใจที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานระหว่างสองชาติแล้ว ช่วงกลางปีที่ผ่านมา เมื่อ ร่างทรงได้เข้าฉายในเกาหลีใต้เป็นวันแรก ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทำสถิติกวาดรายได้เปิดตัววันแรกสูงถึง 36 ล้านบาท และยังได้รับรางวัล Best of Bucheon ที่เทศกาลภาพยนตร์ Bucheon International Fantastic Film Festival (BIFAN) ครั้งที่ 25 ที่ประเทศเกาหลีใต้ด้วย
อะไรที่ทำให้คนเกาหลีใต้อินกับเรื่องราวทางจิตวิญญาณได้ขนาดนี้... วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจบริบทสังคมและความเชื่อของคนเกาหลีใต้ ผ่านเรื่องราวของลัทธิมูซกอินกันค่ะ
มูซก คืออะไร
“มูซก” (무속) คือลัทธิที่เชื่อว่าในธรรมชาติมีจิตวิญญาณสิงสถิตอยู่
เป้าหมายของมูซก คือการเชื่อมต่อระหว่างโลกแห่งวิญญาณกับมนุษย์
โดยมี “มูซกอิน” (무속인) หรือร่างทรง ทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อความ หรือสารระหว่างโลกวิญญาณกับมนุษย์ให้เชื่อมต่อถึงกัน
มูซกอินหรือคนทรงเจ้าดูเป็นเรื่องที่ขัดกับภาพลักษณ์ที่ทันสมัยของประเทศเกาหลีใต้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ในปัจจุบันมีมูซกอินในเกาหลีใต้มากถึง 300,000 คน โดยแต่ละคนก็มีเทพเจ้าหรือดวงวิญญาณที่ตนเคารพแตกต่างกันออกไป
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า เรื่องราวของการทรงเจ้าและความเชื่อทางจิตวิญญาณนี้ ถูกสืบทอดกันมาเนิ่นนานในคาบสมุทรเกาหลีกว่า 40,000 ปีแล้ว เรียกได้ว่ามาก่อนการกำเนิดสามอาณาจักรอย่าง โครยอ แพกเจ และชิลลาเสียอีก ซึ่งหากวิเคราะห์กันตามหลักมานุษยวิทยาแล้ว เราจะพบว่า แนวคิดวิญญาณนิยม (Animism) ได้เกิดขึ้นและมีวิวัฒนาการมาพร้อมๆ กับการสร้างสังคมมนุษย์
ในอดีตที่มนุษย์ยังไม่สามารถหาคำอธิบายในปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และวิทยาศาสตร์ก็ยังคงไม่สามารถตอบคำถามได้นั้น เรื่องของความเชื่อที่ว่าในธรรมชาติและทุกสรรพสิ่งมีจิตวิญญาณคอยควบคุมและกำกับอยู่จึงเกิดขึ้น เพื่อตอบคำถามและเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจให้กับมนุษย์ผู้ซึ่งต้องอาศัยธรรมชาติในการอยู่อาศัย ทำการเกษตร และเลี้ยงชีพเพื่อความอยู่รอด
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะพบว่า ประเทศที่พึ่งพาการเกษตรเป็นหลัก หรือมีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรในอดีต มักจะมีแนวคิดวิญญาณนิยมเป็นฉากหลังที่ควบคู่ไปกับสังคมและวัฒนธรรมของผู้คนในประเทศนั้นๆ เสมอ
มูซกอิน ร่างทรง ผู้ถูกลิขิตมาแล้ว
เส้นทางการเป็นร่างทรงของเกาหลี หรือมูซกอิน มีอยู่สองวิธีด้วยกัน
หนึ่งคือการเป็นโดยสืบตระกูลคนทรงเจ้า หรือเรียกเป็นภาษาเกาหลีว่า “เซซึบมู” ( 세습무 ) วิธีนี้จะมีผู้อาวุโสถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับผู้สืบตระกูล ส่วนมากจะพบมูซกอินลักษณะนี้บริเวณทางใต้ของแม่น้ำฮัน
อีกวิธีเรียกว่า “คังชินมู” ( 강신무 ) เป็นการเข้าสู่วงการมูซกอินแบบที่ไม่ได้สืบมาจากสายตระกูล แต่เป็นผู้ที่ถูกเลือกจากจิตวิญญาณนั้นๆ โดยก่อนหน้าที่จะถูกเลือกให้มาเป็นคนทรงเจ้า คนเหล่านี้ก็มีวิถีชีวิตปกติ จนกระทั่งอาจเกิดการล้มป่วย หรือประสบอุบัติเหตุ และหลังจากนั้นก็สามารถติดต่อเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณได้ โดยผู้ที่ถูกเลือกแบบคังชินมู จะต้องเข้าพิธีที่เรียกว่า “กุด” ( 굿 ) หรือพิธีกรรมที่มูซกอินจะออกมาร่ายรำทำการแสดง โดยเชื่อว่าเป็นการเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณ คล้ายๆ กับเจ้าเข้าร่าง องค์ลงประทับในตัวคนนั้น แต่กุดที่มูซกอินแบบคังชินมูต้องทำ จะเป็นกุดพิเศษ เรียกว่า “แนริมกุด” ( 내림굿 ) คือพิธีกรรมที่วิญญาณเข้าสู่ร่างทรงใหม่ คล้ายกับเป็นการเบิกฤกษ์ และเป็นสัญญาณการเปลี่ยนสถานะจากคนธรรมดาสู่ร่างทรง
มูซกอินหน้าใหม่ที่มาจากวิธีการที่ไม่ใช่การสืบสายตระกูลนี้ จะต้องฝึกหัดและเรียนรู้วิชาจากมูซกอินอาวุโส และนับถือประหนึ่งเป็นอาจารย์ประจำตัว แม้ว่าเทพหรือดวงวิญญาณที่ตนนับถือจะเป็นคนละองค์กันกับอาจารย์ก็ตาม เพราะถือว่ามูซกอินหน้าใหม่เป็นผู้น้อย ที่ต้องคอยรับใช้ เรียนความรู้ และเชื่อฟังมูซกอินอาวุโส ซึ่งขั้นตอนการเรียนวิชานี้ อาจกินระยะเวลานานเป็นปีๆ เลยทีเดียว
ความเป็นหญิงในลัทธิมูซก กับแรงกดทับของหลักปิตาธิปไตยในลัทธิขงจื้อใหม่
ร่างทรงในเกาหลีส่วนใหญ่คือเพศหญิง ซึ่งจะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับความเชื่อเรื่องผีและวิญญาณในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มักให้น้ำหนักกับเพศหญิงมากกว่าเพศชาย เห็นได้จากผีส่วนใหญ่ในไทยหรือประเทศเพื่อนบ้านที่ขึ้นชื่อว่าเฮี้ยนหรือดุ ก็มักจะเป็นเพศหญิงทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น ผีแม่นาก ผีกระสือ ผีพราย ยิ่งถ้าเป็นผีตายทั้งกลม ยิ่งมีความเชื่อฝังแน่นว่าจะดุร้ายกว่าผีปกติ
หากมองในแง่ของที่มาความเชื่อที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราจะพบว่า ในอดีตนั้น เพศหญิงหรือแนวคิดมาตาธิปไตย มีอิทธิพลกว้างขวางและมาก่อนกรอบความคิดปิตาธิปไตยหรือชายเป็นใหญ่ ดังจะเห็นได้จากในอดีต ชนเผ่าหรือกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มในอุษาคเนย์ มีแม่หมอเป็นผู้นำหมู่บ้าน และนิยมการแต่งงานที่ให้ฝ่ายชายย้ายเข้ามาอยู่บ้านของฝ่ายหญิง หมอตำแยที่ทำคลอด ผู้ซึ่งชี้เป็นชี้ตายชีวิตของคนก็เป็นเพศหญิง รวมถึงคำศัพท์พื้นฐานในภาษาไทยเองที่ขึ้นต้นด้วยแม่ ก็มีจำนวนมากกว่าพ่อ สิ่งเหล่านี้คือภาพสะท้อนแนวคิดมาตาธิปไตยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในฝั่งของเกาหลีหรือสังคมเอเชียตะวันออกนั้น แนวคิดปิตาธิไตยดูจะเข้มข้นและแข็งแรงกว่าในแถบบ้านเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแนวคิดขงจื้อใหม่ได้เข้ามาแทนที่พุทธศาสนาช่วงราวศตวรรษที่ 14 ชีวิตของมูซกอินในขณะนั้นก็ดูเหมือนจะถูกลดบทบาท และได้รับแรงสั่นคลอนไปด้วย กรอบคิดขงจื้อที่ให้คุณค่าความเป็นชายมากกว่าหญิง และเชื่อในการมุ่งสร้างสังคมที่เป็นระเบียบแบบแผน ส่งผลให้ลัทธิทรงเจ้าที่ถูกผูกติดอยู่กับศาสนาพุทธในเกาหลีถูกมองว่าเป็นสิ่งงมงาย และไร้อารยะ
นอกจากวัดพุทธในเกาหลีจะถูกกีดกันให้อยู่ห่างจากตัวเมืองแล้ว มูซกอินหรือที่ถูกเรียกว่า “มูดัง” ( 무당 ) ในยุคโชซอน (ค.ศ. 1392 – 1897) ก็ถูกจัดให้อยู่ในวรรณะชอนมิน ( 천민 ) ซึ่งถือเป็นวรรณะที่ต่ำที่สุดในสังคม ไม่สามารถแต่งงานข้ามวรรณะได้ และต้องทำตามคำขอของรัฐอย่างเคร่งครัดหากรัฐสั่ง
มูซกอิน บุคคลพิเศษที่ถูกเรียกหายามต้องการ
แม้ระบบวรรณะในเกาหลีใต้จะไม่มีอยู่แล้ว แต่ชีวิตของมูซกอินในปัจจุบัน ก็ยังเป็นบุคคลที่หลายคนหวาดกลัวและหลีกเลี่ยงการคบค้าสมาคมด้วย เว้นแต่ต้องการความช่วยเหลือ อยากล่วงรู้สิ่งที่ตนเองหาคำตอบไม่ได้ อยากให้ตรวจดวงชะตา ทำพิธีขอพรจากวิญญาณในงานขึ้นบ้านหรือเปิดบริษัทใหม่ มูซกอินจึงจะถูกมองเห็นและเรียกใช้ในวาระพิเศษนั้นๆ
มูซกอินในเกาหลีใต้ จึงไม่ต่างอะไรกับหมอดูในเมืองไทย ที่เป็นเหมือนกึ่งนักจิตวิทยาที่ปรึกษายามทุกข์ และผู้ล่วงรู้สิ่งเหนือธรรมชาติ ที่พร้อมให้คำแนะนำทางโลกสายมูที่คนปกติไม่สามารถให้ได้
จากคำสัมภาษณ์ของสารคดีหลายรายการ มูซกอินเองต่างก็พูดคล้ายกันว่า ถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากจะมาเป็นมูซกอิน เพราะชีวิตคนทรงเจ้าในสังคมเกาหลี ถูกผูกติดมาด้วยเงื่อนไขต่างๆ ที่ต่างออกไปจากคนปกติ เป็นชีวิตที่โดดเดี่ยว ไม่สามารถแต่งงานได้ เป็นวิถีที่ต้องแลกมากับการเป็นผู้ที่ถูกเลือกแล้ว
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับร่างทรงในเกาหลีก็คือ แม้มูซกอินจะถูกจัดให้เป็นบุคคลพิเศษ และอยู่ในชนชั้นล่างสุดของยุคโชซอน แต่บันทึกทางประวัติศาสตร์รวมถึงในปัจจุบันเอง ก็ปรากฏถึงบทบาทของมูซกอินที่รับใช้คนชั้นสูงอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นบันทึกของพระราชินีมินในช่วงปลายยุคโชซอน ที่ว่าจ้างมูซกอินมาเป็นที่ปรึกษาและทำพิธีกุด เส้นไหว้บูชาดวงวิญญาณ รวมไปถึงกลุ่มสมาชิกครอบครัวแชโบล ผู้มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจในเกาหลีใต้ ก็ทุ่มเงินจัดพิธีกุด เพราะเชื่อในพิธีอัญเชิญเทพและดวงวิญญาณที่จะประทานพรและโชคดีมาสู่ตน
แม้คนทรงเจ้าในเกาหลี จะถูกโจมตีอย่างหนักจากผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ และถูกหลงลืมไปในบางช่วงเวลาจากผู้ที่นับถือพุทธ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มูซกอิน หรือคนทรงเจ้าในเกาหลี ยังคงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญและร่วมขับเคลื่อนสังคม วัฒนธรรม และความเป็นเกาหลีให้คงอยู่ต่อไป
เพราะความเชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล และตราบใดที่มนุษย์ยังคงสุข เศร้า เหงา ทุกข์... การสร้างความหวังด้วยความเชื่อ ไม่ว่าจะจากเส้นทางไหน ก็ดูจะยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้หล่อเลี้ยงมนุษย์ทุกคน ให้มีพลังใจที่จะก้าวต่อไปในวันพรุ่งนี้
1
เรื่องโดย ธัญญ์พิศา กิ๊ฟ
อ้างอิงข้อมูล
Daniel Tudor. (2017). มหัศจรรย์เกาหลี. แปลจาก Korea The impossible country. โดย ฐิติพงษ์ เหลืองอรุณเลิศ. กรุงเทพฯ : โอเพ่นเวิลด์ส พับลิชชิ่ง เฮาส์.
ภาพประกอบ
📌 อ่านบทความอื่นๆ ในคอลัมน์ "เกาหลี everything ทุกสิ่งมีเรื่องเล่า" บนแอป 2read หรือจิ้มภาพด้านล่าง
📲ดาวน์โหลดแอป 2read จิ้มลิงก์นี้เลย! 👉 https://bit.ly/3bQtbiV
✅อ่านง่าย อ่านสะดวก อ่านที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ตามใจต้องการ มีบทฟรีให้อ่าน เลือกอ่านเฉพาะบทที่อยากอ่านก็ได้ ซื้ออ่านทั้งเล่ม (เล่มที่จบแล้ว) ลด 10% ก็ดี๊ดี ใช้เหรียญเงินเปิดอ่านฟรีดีต่อใจ❤️
📚มีทั้งหมวดการลงทุน ธุรกิจ พัฒนาตนเอง ไลฟ์สไตล์ (ประวัติศาสตร์และการท่องเที่ยว) นิยาย การ์ตูน และคอลัมน์หลากหลายเรื่องราวที่น่าสนใจ จากผู้รู้ลึกที่หลงใหลในเรื่องราวนั้นๆ
🎉สมัครสมาชิกกับแอป 2read รับไปเลย 30 เหรียญเงิน ฟรี! เอาไว้ใช้อ่านหนังสือบนแอป 2read (เหรียญเงินมีวันหมดอายุนะ)
💥อย่าลืมแวะมาอ่านบทความฟรีของ 2read Around U
มีทั้งคอลัมน์...
🌐“JOURNALIST IN YOUR SIDE” โดย นักผจญข่าว
🇨🇳“สดทุกเช้า อ่านข่าวจีน” โดย พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
🚌“ทัศนศึกษา Sight & See ไปกับครูพี่ต้นคูน” โดย พี่ต้นคูน - ดร.ณัฐพงศ์ ลาภบุญทรัพย์
🇰🇷"เกาหลี Everything ทุกสิ่งมีเรื่องเล่า" โดย ธัญญ์พิศา กิ๊ฟ
ชอบเรื่องไหน ก็ตามอ่านกันได้เลยที่แอป 2read ที่เดียว!
#2read #แอปที่มากกว่าการอ่านศูนย์กลางการอัพสกิล
โฆษณา