31 ต.ค. 2021 เวลา 01:00 • หนังสือ
พระท่านบอก ให้อยู่กับปัจจุปัน อย่าอาลัยอดีต อย่าเพ้อฝันถึงอนาคต
แนะนำให้อ่านเล่มนี้ออกเสียงในที่เงียบสงบ ในห้องพระ ห้องนอนก็ได้ แล้วฟังเสียงตัวเอง พิจารณาตาม เป็นของขวัญทางปัญญาให้ตัวเอง
เริ่มจาก "Why" ก็จะเริ่มอ่านหนังสือ 'ชีวิตนี้น้อยนัก' ก่อนเพื่อให้เห็นว่าชาตินึงจริงๆ มันไม่นานเท่าไร และชาตินี้มันก็เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อว่าชีวิตเราจะไปต่อได้ดีหรือจะเวียนว่ายไปอีกหลายๆชาติ สำคัญก็ชาตินี้แหละที่เราต้องทำให้ดี
ถัดไป จะทำอย่างไร "How" หนังสือเล่มนี้ 'วิธีสร้างบุญบารมี' ก็ได้แนะทางเดินให้
ท่านเริ่มจากอธิบายความหมายของ บุญใน 2 ส่วน คือ
1. บุญส่วนที่เป็นเหตุ แปลว่า ชำระ ฟอก ล้าง
2. บุญส่วนที่เป็นผล ก็คือความสุข
เวลาเราพูดว่าทำบุญๆ เราก็ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ การบริจาคเงิน ไหว้พระ ตักบาตร ท่านสรุปย่อไว้ 3 อย่าง ทานมัย สีลมัย ภาวนามัย เรียงตามความปราณีตของจิต และ ผลบุญก็สูงกันไปตามลำดับ แต่ท่านก็ว่าต้องทำควบคู่กันไป ไม่ใช่ว่า ภาวนามัย ยิ่งส่วนวิปัสสนาจะได้ผลบุญมากที่สุดก็มุ่งทำแต่ วิปัสสนาโดยไม่สนใจทานเลย ก็ไม่ควรประมาท
เรื่องทาน นอกจากหลักพื้นฐานคือ ของที่ให้ต้องบริสุทธิ์ เจตนา ก่อนให้ ระหว่างให้ หลังให้ต้องดี เบิกบาน ผู้รับก็ควรเป็นผู้ที่ได้ใช้ประโยชน์
แล้วท่านเน้นเรื่อง อภัยทาน มากกว่า อามิสทาน กับ ธรรมทาน ท่านบอกว่า ทานที่สำคัญที่สุดคืออภัยทาน (และก็เป็นทานที่ทำยากที่สุด ด้วย เพราะต้องมีความกล้าหาญทางจิตถึงทำได้ ถ้าจิตยังเป็นเด็กอนุบาล ยังควบคุมไม่ได้ ก็ยากที่จะทำได้)
เราเห็นด้วยอย่างยิ่งกับท่าน และเห็นด้วยอย่างยิ่งกับท่านพุทธทาส ที่ควรทำ เรื่อง อัตตาทานด้วย คือ บริจาคตัวตนทิ้งไปซะ
ท่านเขียนให้คนอย่างเราๆ น่าจะตื่นได้ ท่านบอกว่า เวลาเราจะลงโทษผู้ที่มาว่าร้ายเรา ด้วยการโกรธ ยิ่งโกรธก็หวังว่าผู้นั้นจะยิ่งโดนลงโทษจากเรา ท่านบอก จริงๆ เรากำลังลงโทษตัวเองต่างหาก (น่าสงสารตัวเองทำตัวเองแท้ๆ) เหมือนคำท่านพุทธทาสว่า โกรธก็เหมือนคนบ้า
โดยสรุป ทุกคนก็ควรจะ 'ทำบุญ' กันในทุกโอกาส ตามควรแก่ฐานะ
🙏🙏

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา