31 ต.ค. 2021 เวลา 08:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รายงานหนังทำเงินในอเมริกาเหนือ 22-24 ตุลาคม 2021: ‘Dune’ เปิดตัวด้วยรายได้ 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่รายได้รวมทั่วโลก ออกตัวที่ 223 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายงานหนังทำเงินในอเมริกาเหนือ 22-24 ตุลาคม 2021 - หนังทำเงินในอเมริกาเหนือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องให้พูดให้คุยกันอีกแล้ว เมื่อหนังทุนสร้าง 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เปิดตัวด้วยอันดับ 1 ได้สำเร็จ แต่กลับไม่ใช่ความสำเร็จ แล้วก็เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่า แม้จะเป็นช่วงของการระบาด แต่การปล่อยหนังแบบไฮบริด ลงโรงพร้อมสตรีมมิง เพื่อเก็บรายได้ให้มากที่สุดในระยะสั้น ๆ แทนที่จะปล่อยหนังค้างโปรแกรมเอาไว้ รอกำหนดฉายเหมาะ ๆ แต่ต้องฉีกแบงค์จ่ายดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ กลายเป็นการเฉือนรายได้ที่ควรจะเป็นออกไปเรื่อย ๆ
และในคราวนี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดกับ ‘Dune’ หนังที่เลเจนดารี พิกเฌอร์ส กับวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ลงขันร่วมกันสร้าง 75 - 25% ที่เปิดตัวในโรงวันเดียวกับเอชบีโอแม็กซ์ ซึ่งทำให้การเปิดตัวอันดับ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศกลายเป็น “ความสำเร็จที่น่าผิดหวัง” โดยหนังเปิดตัวด้วยรายได้ 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าที่ ‘Blade Runner 2049’ ทำเอาไว้เมื่อเดือนตุลาคม 2017 - 32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ 28% และถึงรายได้ในวันเสาร์ (17.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) จะมากกว่าวันศุกร์ (12.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ถึงราว ๆ 40% แต่หากเป็นช่วงเวลาปกติ รายได้ในช่วงสุดสัปดาห์ในระดับคูณ 2.29 ถือเป็นสัญญาณว่ารายได้ในสัปดาห์ต่อไปจะไม่ดีนัก
รายได้ของ ‘Dune’ ถือว่าทำได้พอ ๆ กับ ‘Watchmen ที่ทำเงินไป 108 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หลังเปิดตัวด้วยตัวเลข 55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ช่วงสุดสัปดาห์ ส่วนรายได้วันศุกร์ทำไว้ 24.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2009) ต่อให้เอชบีโอ แม็กซ์ ที่ถูกมองเป็นผู้ร้ายในกรณีนี้ จะพยายามโปรโมตว่านี่คือหนังที่ต้องดูในโรง ก็ยังกระตุ้นอะไรได้ไม่มากนัก
หนังจะไปต่อได้ดีขนาดไหน นั่นคือคำถาม เมื่อต้องชนกับเอชบีโอ แม็กซ์ และการที่ไม่ใช่งานเอาใจผู้ชมหมู่มาก เมื่อเทียบกับ ‘The Force Awakens’ หรือ ‘The Fellowship of the Ring’ หนึ่งในทางเลือกก็คือเก็บหนังไว้ในไอแม็กซ์, โรงดอลบี้ หรือโรงจอยักษ์ ที่ทำรายได้ถึง 22% ของรายได้ในสุดสัปดาห์เปิดตัว
กับการที่หนังเป็นงาน ‘ใหม่’ ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องราวที่รู้จักกัน ไม่ใช่งานที่มีแรงส่งแบบเดียวกับหนังมาร์เวลหรือว่าดีซี การเปิดตัว 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในยุคโรคระบาดพร้อมมีให้ชมทางสตรีมมิง ที่มีการคำนวณว่าหนังจะมีรายได้ลดลงจากในช่วงปกติอย่างน้อยราว ๆ 15% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใช้เทียบกับรายได้ของ ‘Shang-Chi', ‘A Quiet Place part II’ และ ‘F9’ นั่นหมายความว่า หากไม่ใช่สถานการณ์โควิด ‘Dune’ น่าจะเปิดตัวที่ราว ๆ 48 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พอ ๆ กับ ‘The Meg’ และ ‘Mad Max: Fury Road’ แล้วด้วยการเป็นหนังทุนสูง นี่คือนรกของการทำการตลาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหนังในระดับเดียวกัน อย่าง ‘Blade Runner 2049’ (เปิดตัว 32 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) หรือ ‘Jupiter Ascending’ (เปิดตัว 18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ที่ต่างหนีสถานการณ์เลวร้ายไม่พ้น
หนังเปิดตัวในจีนไปแล้ว และทำรายได้ 21.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พอ ๆ กับที่ ‘Free Guy’ ทำได้ในสุดสัปดาห์เปิดตัว แต่ในสัปดาห์ต่อมา หนังต้องเจอกับของแข็งอย่าง ‘No Time to Die’ และที่หนังเจ้าถิ่น ‘The Battle At Lake Changjin’ ที่ทำเงินไปแล้ว 829 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็ยังทำเงินอยู่ ทำให้โอกาสของ ‘Dune’ ไม่ได้สดใสเหมือน ‘Pacific Rim’ หรือ ‘Terminator: Genisys’ ที่ทำรายได้ในจีนสวย ๆ เกินร้อยล้าน และเปิดไฟเขียวให้กับหนังภาคต่อสำเร็จ
ส่วนการที่หนังออกตัวด้วยรายได้รวมทั่วโลกเกิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้คาดกันว่า หนังน่าจะทำรายได้ด้วยตัวเลข 353 - 405 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นรายได้ที่หนัง ‘The Legend of Tarzan’ และ ‘Alita: Battle Angel’ ทำได้ แล้วสำหรับใครที่ห่วงว่าจะได้ชมภาค 2 ของหนังหรือไม่ แอนน์ ซาร์นอฟฟ์ ผู้บริหารของวอร์เนอร์ มีเดีย ออกมาบอกแล้วว่า สตูดิโอจะใช้ตัวเลขผู้ชมทางเอชบีโอแม็กซ์มาประกอบการตัดสินใจด้วย และตอนนี้ก็มีข่าวว่า หนังได้ไฟเขียวแล้ว
หนังอีกเรื่องที่เปิดตัวในวงกว้างสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคือ ‘Ron’s Gone Wrong’ แอนิเมชันดิสนีย์/ ทะเว็นตี้ธ์เซ็นจูรี่ ทำรายได้ไป 7.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อยู่ในอันดับ 5 หนังถูกเลื่อนฉายมาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ปี 2019 หลังดิสนีย์เทคโอเวอร์ฟ็อกซ์ โดยแอนิเมชันเรื่องนี้เป็นเรื่องของ หุ่นยนต์คู่หูที่ทำงานผิดปกติ (แซ็ก กาลิฟอานาคิส ให้เสียง)
ในสัปดาห์ที่สอง ‘Halloween Kills’ ตกมาอยู่ที่สอง ด้วยรายได้ 14.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากสัปดาห์แรกราว ๆ 70% ซึ่งมากกว่าที่หนังปี 2018 ทำไว้ ตอนนั้นรายได้สัปดาห์ที่สองของ ‘Halloween’ ลดจากสัปดาห์แรกแค่ 58.8% โดยรายได้ที่ตกแรงขนาดนี้ อาจเป็นเพราะหนังไม่ได้ใจนักวิจารณ์กับคนดูนัก เมื่อ ‘Halloween’ ได้คะแนนซีนีมาสกอร์ บีบวก แต่ ‘Kills’ ได้ บีลบ แถมยังเปิดตัวในโรงพร้อมสตรีมมิง หนังบอนด์ ‘No Time to Die’ มาเป็นที่สาม ด้วยรายได้ 12.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่สาม รายได้รวมในอเมริกาเหนือเพิ่มเป็น 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนังเรื่องที่ 7 ในปีนี้ ที่ทำรายได้ผ่านร้อยล้านในอเมริกาเหนือสำเร็จ ขณะที่ ‘Venom: Let There Be Carnage’ มาเป็นที่สี่ รายได้ 9.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมตอนนี้เป็น 183 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ดี หลังจากออกตัวได้อย่างสวยงาม 90.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หนังเปิดตัวในวงจำกัด ‘The French Dispatch’ ของเวส แอนเดอร์สัน ทำเงินไป 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 52 จอ มากพอจะกลายเป็นหนังรายได้เฉลี่ยต่อโรงสูงที่สุดนับตั้งแต่ ‘1917’ เมื่อปี 2019 โดยดิสนี์/ เซิร์ชไลต์ มีแผนจะเพิ่มโรงฉายวงกว้าง ในสุดสัปดาห์ที่สอง
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
ดูหนังเรื่อง Dune กันแล้ว ร่วมสนุกลุ้นรับของรางวัลจากหนังเรื่อง 'DUNE' กันได้ที่นี่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา