31 ต.ค. 2021 เวลา 06:54 • นิยาย เรื่องสั้น
เซียวเล้งนึ่ง ภาคปัจฉิมบท 🔚 🔚
……..
สองมือขัดแย้งแบ่งภาคร่างแยก
กระบี่คู่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์
.
...
ต่อมาเตี่ยจี่เก่ง กับอิงจี่เปี้ย พลันไปขอความช่วยเหลือ
จากกิมลุ้นก๊กซือราชครูมองโกล
และได้พานพบจิวแป๊ะทงระหว่าง
จนกิมลุ้นก๊กซือนัดจิวแป๊ะทงให้ขโมยธงของกุบไลข่าน🏴‍☠️
จนเซียวเล้งนึ่งเห็นเตี่ยจี่เก่ง ชักนำจิวแป๊ะทงขึ้นเขา
นางก็ติดตามอยู่ด้านหลัง
.
แต่จิวแป๊ะทงย่อมทราบ แต่ไม่แยแสสนใจ
เตี่ยจี่เก่งกลับไม่รู้สึกตัว
พลันเห็นจิวแป๊ะทง ร้องว่าถูกงูพิษฉกกัด
นางจึงถามเตี่ยจี่เก่งซึ่งกำลับหลบหนีว่า
.
“แม้แต่ผู้อาวุโสร่วมสำนักก็ไม่สนใจหรือ ?”
.
ดังนั้นนางจึงล้วงถุงมือใยทองจากอกเสื้อ
แล้วสวมใส่ยกแขนจิวแป๊ะทงขึ้นดู อดใจเต้นมิได้
เห็นแมงมุมขนาดเท่าปากถ้วยสามตัว 🕷🕷🕷
.
แยกย้ายกัดนิ้วมือข้างซ้ายของจิวแป๊ะทงไว้
เป็นแมงมุมพันธ์ไช่เซาะตู (#แมงมุมหิมะลาย)
ถือกำเนิดจากยอดเขาหิมะ เป็นหนึ่งในสามพิษร้ายของแผ่นดิน
กิมลุ้นก๊กซือนำเข้ามาจุดประสงค์เพื่อพิสูจน์ฝีมือ
กับผู้ชำนาญการใช้พิษของแผ่นดินตงง้วน เช่น ลี้มกโช้ว
.
เซียวเล้งนึ่งพลันใช้เข็มผึ้งหยกซัดใส่แมงมุมหิมะลาย
เพื่อให้บังเกิดปฏิกิริยาต่อต้านพิษ พุ่งของเหลวเป็นภูมิต้านทานพิษ
ถ่ายเทเข้าสายเลือดจิวแป๊ะทง นับว่านางขจัดพิษ
ที่ไม่มียาใดขจัดรักษาได้ จิวแป๊ะทงจึงเกิดความสำนึกขอบคุณ
.
ยามติดอยู่ในถ้ำจึงบอกเล่าวิชาแบ่งภาคร่างแยกจู่โจม
สองมือพันตูกันเองให้ทราบโดยคร่าวๆ เซียวเล้งนึ่งฉุกคิดขึ้น
.
“หากแม้นเราเรียนรู้วิชานี้ มือซ้ายใช้เพลงกระบี่ช้วนจิน
มือขวาใช้เพลงกระบี่สุรางคนางค์ ไยมิใช่เท่ากับเป็นกระบี่คู่ผนึกจู่โจม
ใช้เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ออกมาได้ ⚔️⁉️
แต่เกรงว่าวิชาฝีมือนี้ไม่อาจเรียนรู้ในเวลาอันสั้น ”
.
ดังนั้นจึงสอบถามจิวแป๊ะทงว่าวิชานี้ยากเรียนรู้หรือไม่
จิวแป๊ะทงจึงเปรียบเทียบระหว่างอึ้งย้งกับก๊วยเจ๋งให้ฟังว่า
.
แม้อึ้งย้งฉลาดหลักแหลม แม้ก๊วยเจ๋งกลับโง่เขลายิ่ง
ก๊วยเจ๋งเมื่อเรียนรู้วิชาฝีมือสองมือขัดแย้ง แบ่งภาคร่างแยกกับตนเอง
เมื่อไปสอนภรรยา อึ้งย้งกลับไม่สามารถเรียนรู้วิชาฝีมือนี้ได้
ได้แต่บอกว่าก๊วยเจ๋งสอนไม่ถูกต้อง
.
มิคาดภายหลังเฒ่าทารกจิวแป๊ะทง สอนวิชานี้ด้วยตนเอง
บทเรียนแรกที่ว่ามือซ้ายวาดรูปสี่เหลี่ยม มือขวาขีดวาดวงกลม
นางกลับวาดไม่สำเร็จ ดังนั้นบางคนพอร่ำเรียนก็เรียนรู้
บางคนใช้เวลาชั่วชีวิตยังฝึกไม่สำเร็จ คล้ายกับยิ่งเฉลียวฉลาด
ยิ่งร่ำเรียนไม่สำเร็จ
...
เซียวเล้งนึ่งฟังแล้ว นางจึงคิดว่า หรือวิชานี้เพียงให้คนโง่เขลาเรียน
แต่จิวแป๊ะทงกลับกล่าวว่า ดูจากรูปโฉมนางและสติปัญญา
คงไม่ด้อยกว่าอึ้งย้ง พลังฝีมือก็ไม่อ่อนด้อยกว่า
จึงให้เซียวเล้งนึ่งลองใช้นิ้วชี้ข้างซ้ายวาดรูปสี่เหลี่ยมบนพื้น
.
ขณะเดียวกันใช้นิ้วชี้ข้างขวาขีดวาดเป็นวงกลม
เซียงเล้งนึ่งยามขีดครั้งแรก สี่เหลี่ยมที่วาดขึ้นคล้ายวงกลม
ส่วนรูปวงกลมคล้ายสี่เหลี่ยม จิวแป๊ะทงหัวร่อ ฮาฮา
.
กล่าวว่า “ใช่หรือไม่ เจ้าก็ทำไม่ได้? “
.
เซียวเล้งนึ่งยิ้มเล็กน้อย สำรวมสติสมาธิ ดวงจิตกระจ่างโปร่งใส
ยื่นนิ้วมือออกสองนิ้ว มือซ้ายวาดรูปสี่เหลี่ยม🟦 มือขวาขีดวาดวงกลม 🔵
รูปสี่เหลี่ยมนั้นพอดี รูปวงกลม ก็เป็นวงกลมเกลี้ยง
.
แม้แต่จิวแป๊ะทงยังฉงนสงสัยพลันถามว่า
เซียวเล้งนึ่งเคยร่ำเรียนมาหรือไม่ เมื่อนางตอบว่าไม่เคย
จิวแป๊ะทงยิ่งงุนงงว่าเหตุใดจึงวาดได้
.
เซียวเล้งนึ่งพลันบอกว่า
“ข้าพเจ้าก็ไม่ทราบ ในใจไม่ครุ่นคิดอันใด
พอยื่นนิ้วออกก็วาดได้”
.
จากนั้นใช้นิ้วซ้ายเขียนคำ”เฒ่าทารก”
นิ้วขวาเขียนคำ “เซียวเล้งนึ่ง”
นิ้วมือทั้งสองข้างขีดเขียนพร้อมกัน
ลายมือเป็นระเบียบเรียบร้อย
คล้ายเขียนด้วยมือข้างเดียวก็มิปาน
สร้างความยินดีแก่จิวแป๊ะทงยิ่ง
.
ครั้งแล้วสอนให้นางซ้ายรุกขวารับอย่างไร
ขวาจู่โจมซ้ายต้านทานอย่างไร
ถ่ายทอดบอกวิชาพิสดารที่คิดค้นได้
จากเกาะดอกท้อต่อนางจนหมดสิ้น
.
ซึ่งความจริงวิชา สองมือขัดแย้งแบ่งภาคร่างแยก
เคล็ดลับสำคัญอยู่ที่
“แบ่งแยกใจเป็นสองทาง”
.
ผู้ที่เฉลียวฉลาดปราดเปรื่อง มักมีความคิดอ่านสลับซับซ้อน
เรื่องแรกครุ่นคิดไม่จบสิ้น เรื่องที่สองก็ประดังเข้ามาในจิตใจ
โจสิดในสมัยสามก๊กสามารถแต่งกลอนเจ็ดก้าว
เล้าอุ้งสมัยห้าราชวงศ์เชี่ยวชาญกลยุทธ์ เดินหนึ่งก้าวนึกได้ร้อยอุบาย
บรรดาอัจฉริยบุรุษเหล่านี้หากให้ร่ำเรียน
วิชาสองมือพันตูกันเอง ไม่มีทางเรียนรู้ได้
.
เซียวเล้งนึ่งปรับพื้นฐานวิชาฝีมือขจัดอารมณ์ทั้งเจ็ด
และกามคุณทั้งหกตั้งแต่เล็ก เมื่ออายุได้ 8-9 ขวบ
ก็ฝึกจนมีจิตใจสงบราวกับน้ำก้นบ่อ
ภายหลังแม้หลงรักเอี้ยก่วย ทำให้วิชาฝีมือนี้เสื่อมโทรมลง
แต่ยามนี้ได้รับความกระทบกระเทือนทางใจ ทอดอาลัยตายอยาก
ยอดวิชาเมื่อกาลก่อนก็ฟื้นคืนมาแปดเก้าส่วน
วิชากำลังภายในสำนักสุสานโบราณที่นางฝึกปรือ
.
เป็นลิ้มเชี้ยวเอ็งบัญญัติขึ้นหลังจากพลาดรัก
กลับมีส่วนคล้ายคลึงกับอารมณ์ความรู้สึกของนางตอนนี้
เมื่อจิตสำนึกบังเกิด พลันได้คิดปรุโปร่ง จิวแป๊ะทงเพียงชี้นำ
นางก็เรียนรู้ในบัดดล ทั้งนี้ เพราะจิวแป๊ะทง ก๊วยเจ๋ง และเซียวเล้งนึ่ง
ล้วนมีนิสัยสัตย์ซื่อถือมั่น ก้นบึงหัวใจไร้กากตะกอน
หากเปลี่ยนเป็นอึ้งย้งหรือเอี้ยก่วย ไม่ว่าอย่างไรก็เรียนรู้ไม่ได้
ลิ้มเชี้ยวเอ้ง ปรมาจารย์สำนักสุสานโบราณ
บุกเดี่ยวสำนักช้วนจิน
.
เซียวเล้งนึ่งพบเห็นสำนักช้วนประสบเหตุความวุ่นวายภายใน
นักบู๊มองโกลยกมารุกราน สำหรับกับนางยึดถือว่า
ความผิดถูกทั้งหลายเฉกเช่นควันเมฆผ่านตา
ไม่นำพาปรารมภ์ แต่เห็นเต็กเช็งต๊กถือกระบี่คิดฆ่าอิงจี่เปี้ย
นางจึงปรากฏกาย ขึ้นขัดขวางคิดฆ่าอิงจี่เปี้ยเอง
.
เมื่อเตี่ยจี่เก่ง ให้ศิษย์เข้ากลุ้มรุม เซียวเล้งนึ่งจึงใช้วิชานำกระบี่
ที่ศิษย์เตี่ยจี่เก่งสะพายอยู่ข้างเอวทั้งสองเล่มไป
เพียงชั่วพริบตาข้อมือทั้งสองล้วนถูกกระบี่แทงใส่
กระดูกข้อมือหักครึ่งหนึ่ง โลหิตหลั่งไหลออกมา
ฝีมือของนางรวดเร็วยิ่ง มิว่าผู้ใดก็มิอาจเห็นชัดว่า
นางใช้กระบวนท่าอย่างไร เต็กเช็งต๊กจึงให้ทั้งหมด
บุกเข้าไปโดยพร้อมเพรียงเพื่อจัดการนาง
.
เซียวเล้งนึ่งขยับกระบี่สั่นพลิ้ว เพียงคราเดียว
ข้อมือซ้ายขวา เท้าซ้ายขวา เต็กเช็งต๊กล้วนถูกกระบี่แทงใส่
ล้มฟุบกลับพื้นสี่กระบี่ทิ่มแทงด้วยความรวดเร็วกว่าเดิม
แม้แต่ยอดฝีมือมองโกลยังอดมองหน้ากันด้วยความตระหนกมิได้
.
เซียวเล้งนึ่งพอได้รับถ่ายทอดวิชาแบ่งแยกกระแสจิต
สองมือขัดแย้งแบ่งภาคร่างแยกจากจิวแป๊ะทง
ก็มีฝีมือรุดหน้าเป็นเท่าตัว นางกับเอี้ยก่วยฝึกวิชากระบี่คู่ผนึกจู่โจม
ใช้ออกด้วยเพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์
ทั่วทั้งแผ่นดินความจริงยากมีคู่มือต้านติด
.
ยามนี้นางเพียงผู้เดียวใช้กระบี่พร้อมกันสองเล่ม อานุภาพยิ่งเข้มแข็ง
หากเป็นผู้คนสองคน ไม่ว่ามีกระแสจิตสัมพันธ์อย่างไร
ย่อมไม่เท่ากับคนๆ เดียวที่ใช้ความคิดรวดเร็วดุจสายฟ้า ⚡️
ยามนี้เพลงกระบี่และกำลังภายในที่นางใช้ออก
แม้ไม่เท่ากับผู้คนสองคนผนึกกำลัง
แต่ระดับความรวดเร็วกลับรวดเร็วกว่า
ผู้คนสองคนใช้ออกโดยพร้อมเพรียงหลายเท่าตัว
.
ยามนี้ทดลองออกใช้ พลันพบว่ากระบี่คู่ผนึกทรงอานุภาพถึงเพียงนี้
นางเองก็ยังตื่นตระหนกในฝีมือของตัวเอง
.
แม้ยอดฝีมือชาวมองโกล เช่นอีเคอซี นีมอชิง เซียวเซียงจื้อ
และยอดฝีมือสำนักช้วนจิน กลุ้มรุมกลับพ่ายแพ้แก่นาง
.
การต่อสู้บนเขาจงน้ำดำเนินไปอย่างดุเดือด
เมื่อเซียวเล้งนึ่งสัประยุทธ์กับกิมลุ้นก๊กซือ เงาจักรกระจัดกระจาย
พลังกระบี่แผ่ไพศาล จักรเงิน จักรทอง ทองเหลือง เหล็ก ตะกั่ว
ทั้งห้าพุ่งฉวัดเฉวียนวนเวียน คลื่นเสียงสั่นสะท้านแก้วหูผู้คนลั่นอึงอล‼️
.
กิมลุ้นก๊กซือแม้ใช้กระบวนท่าอย่างเกรี้ยวกราดใส่
ใจกลับร้องร่ำคร่ำครวญ ท่ากระบี่สองมือของเซียวเล้งนึ่ง
กลับผิดแผกแตกต่าง แต่ผสานสอดคล้องอย่างพิสดาร
.
กระบี่ซ้ายจู่โจมหน้า ขณะเดียวกันกระบี่ขวาต้องวกไปด้านหลัง
ทำให้กิมลุ้นก๊กซือรุกก็ใช่ที่ ถอยก็ใช่ที่ ท่ากระบี่ของกระบี่คู่
ล้วนจู่โจมใส่ตำแหน่งหลายแห่ง ทำให้ดูแลไม่ทั่วถึง
.
หากมิใช่กิมลุ้นก๊กซือมีกำลังภายในและภายนอกถึงขั้นสุดยอด
กอปรด้วยความอ่อนหยุ่นและแกร่งกร้าว
พริบตานี้คงถูกแทงใส่17-18 กระบี่แล้ว
.
ซึ่งความจริง เซียวเล้งนึ่งลำพังคนเดียวใช้เพลงกระบี่สองประการ
กระบวนท่าแม้รวดเร็ว จะอย่างไรอานุภาพไม่เท่าเทียม
กับผนึกกำลังกับเอี้ยก่วย พลังฝีมือแท้จริงยังห่างไกลจากกิมลุ้นก๊กซือ
เพียงแต่นางพอลงมือใช้กระบวนท่าดุจสายฟ้า ☄️
ทุกผู้คนล้วนไม่เคยพบเห็นมาก่อนในใจจึงบังเกิดจิตขลาดเขลา
.
โดยเฉพาะกิมลุ้นก๊กซือเคยพลาดท่าเสียที
ภายใต้เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์นี้
ทำให้เซียวเล้งนึ่งช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ
.
นางจึงแทงถูกกิมลุ้นก๊กซือสามกระบี่ หยาดโลหิตสาดกระเซ็น🩸
ต่อมาห้านักพรตช้วนจินได้แก่คู่ชู่กีและพวก ได้คิดค้นกระบวนท่า
.
“เจ็ดดาวร่วมชุมนุม (ฉิกแชจูห่วย) “ ดัดแปลงจากค่ายกลฟ้าดาวเหนือ
เน้นแนวทางรวมกำลังของคนทั้งห้าอยู่ที่จุดจุดเดียว
ห้านักพรตทราบดีว่า ศิษย์รุ่นที่สามและสี่ไม่มีความสามารถเด่นล้ำ
ได้แต่ใช้พวกมากเข้าเอาชัย
.
เมื่อทลายถ้ำออกมา หันกายไป
เห็นเซียวเล้งนึ่งต่อสู้กับราชครูกิมลุ้ม
และพวกอย่างดุเดือดพลันท้อแท้ว่า
ชั่วชีวิตนี้ไม่สามารถเอาชนะวิชาฝีมือสำนักสุสานโบราณ
.
เนื่องเพราะคู่ชู่กีและพวกทบทวนหวนนึกและฝึกซ้อมกันภายในถ้ำ
ล้วนยึดถือวิชาฝีมือที่เคยเห็นจากเอี้ยก่วยและเซียวเล้งนึ่งเป็นหลัก
หาคาดไม่ว่ากระบี่พิสดารที่แสดงอยู่ตรงหน้า
คิดชมดูให้กระจ่างยังทำไม่ได้ ไหนเลยต้านทานทำลายล้างได้?
.
ยามนางต่อสู้กับกิมลุ้นก๊กซือและพวกพลันคิดถึงเอี้ยก่วย
ทำให้เพลงกระบี่ของนางไม่สามารถแบ่งจิตเป็นสองทาง
พลันแปรเปลี่ยนเป็นจดจ่อจริงจัง สองมือใช่ท่ากระบี่เดียวกันปราศจากอานุภาพของเพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์อีก
.
กิมลุ้นก๊กซือเห็นดังนั้น จึงกระแทกจักรทองข้างขวาใส่กระบี่นาง
ได้ยินเสียงตังเบาๆ กระบี่ข้างซ้ายของเซียวเล้งนึ่งพลันหลุดจากมือ
บังเกิดเสียงเผียะ หักเป็นสองท่อน
กิมลุ้นก๊กซือความจริงเพียงทดสอบหยั่งดูกลับเหนือความคาดหมายนัก
.
นางจึงเหลือกระบี่เดียวต้านทานกิมลุ้นก๊กซือและพวก
เซียวเล้งนึ่งเผยอยิ้มเล็กน้อย ไม่ต้องการต่อสู้ดิ้นรนอีก
สายตาเหลือบเห็นข้างต้นสนที่ห่างไปสามวามีกุหลาบพุ่มหนึ่ง
กลับดอกงามสดใสปานจะหยด พลันนึกถึงเหตุการณ์ที่ฝึกเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ร่วมกับเอี้ยก่วย พลันครุ่นคิดขึ้น
.
“ 🍂เราเมื่อไม่ได้เห็นก่วยยี้ อย่างนั้นก่อ่นตายจะครุ่นคิดถึงเขา”
.
สีหน้านางปรากฏเค้าความอ่อนโยนนุ่มนวล
จมอยู่ในห้วงรำลึกนึกถึง
กิมลุ้มก๊กซือและพวกโอบล้อมมาจากสี่ด้าน
ความจริงสามารถสังหารนางได้ในคราเดียว
พลันเห็นสีหน้านางประหลาดพิกล
.
คล้ายลืมเลือนรับมือศัตรู ล้วนแตกตื่นสงสัย
ไม่ทราบว่านางคิดใช้เวทมนตร์คาถาอันใด
อาวุธทั้งสี่ชนิดล้วนยกชูอยู่กลางอากาศ ไม่กดลงไป
แต่เพียงหยุดชะงักวูบหนึ่ง อาวุธงูเหล็กของนีมอชิงพลันยื่นออกไปก่อน
.
เป็นอิงจี่เปี้ยเข้ามาต้านทานให้นาง และยื่นกระบี่ในมือส่งมอบแก่นาง
กิมลุ้นก๊กซือพลันผักอิงจี่เปี้ยให้ถอยห่าง
มือขวาควงจักรหวดกระแทกใส่เซียวเล้งนึ่ง
.
อิงจี่เปี้ยพลันโถมเข้าไปอย่างไม่คิดชีวิต
ใช้ส่วนหลังตัวเองต้านทานจักรทองของกิมลุ้นก๊กซือ
จักรทองนี้แฝงพลังป่นศิลาทลายหินผา อิงจี่เปี้ยไหนเลยต้านทานได้
.
เซียวเล้งนึ่งพอรับกระบี่ที่อีกฝ่ายหนึ่งส่งยื่นให้ ก็ถือกระบี่ยืนซึมเซา
ร่างของอิงจี่เปี้ยโถมเข้ามา พอดีปะทะกับปลายกระบี่
คมกระบี่ทะลวงทะลุร่างไป เซียวเล้งนึ่ง งงงันวูบหนึ่ง
.
ค่อยได้คิดว่าเป็นอิงจี่เปี้ยช่วยชีวิตนางไว้
เห็นส่วนหลังอีกฝ่ายหนึ่งถูกจักรทองกระแทกใส่ทรวงอก
ถูกกระบี่แทงทะลุ ล้วนเป็นอาการบาดเจ็บถึงแก่ชีวิต
พริบตานั้นความเคียดแค้นชิงชังกลายเป็นสมเพชเวทนา
กล่าวเสียงนุ่มนวลว่า
.
“ท่านไยต้องทำเช่นนี้?”
.
อิงจี่เปี้ยกล่าว่า เล้งโกวเนี้ยเราเสียใจต่อท่าน
กระทำความผิดสมควรตาย ท่านอภัยให้เราได้หรือไม่?
.
นางพลันคิดว่า เอี้ยก่วยที่เคยมีความรักต่อนางอย่างลึกล้ำ
เคยสาบานว่าจะไม่เปลี่ยนใจ แต่แล้วตกลงใจแต่งงานกับก๊วยโกวเนี้ย
ทอดทิ้งนางลืมเลือนโดยสนิทใจ ปราศจากความอาลัยอาวรณ์
คาดว่าคงล่วงรู้ว่า เราเคยถูกคนผู้นี้ย่ำยี
.
นางคิดรวบรัดดังนั้น กลายเป็นความเคียดขึ้ง😡
พลังแห่งความแค้นยังรุนแรงกว่ากาลก่อนหลายส่วน
ต้องกัดฟันกรอดแทงกระบี่ขว้างขวาใส่ทรวงอกอิงจี่เปี้ย
.
เพียงแต่ในชีวิตนางไม่เคยฆ่าคน มาตรแม้นแค้นคั่งแน่นอก
กระบี่พอแทงถึงเบื้องหน้าทรวงอีกฝ่าย กลับไม่อาจแทงเข้าไป
.
คู่ชู่กีเห็นศิษย์รักต้องจบชีวิต กอรปกับยึดถือเซียวเล้งนึ่งเป็นศัตรู
เห็นนางแทงกระบี่ซ้ำ ก็กระโดดปราดไปเบื้องหน้า
มือซ้ายปาดนิ้วทั้งห้าใส่ข้อมือนาง มือขวากระแทกใส่ใบหน้านาง
พลังฝ่ามือแกร่งกร้าวถึงที่สุด ข้อมือเซียวเล้งนึ่งพอถูกปาดใส่
ก็ไม่อาจถือกระบี่มั่น พลันหลุดลอยจากมือนาง
นางชิงยื่นมือคว้าจับไว้ จากนั้นยื่นกระบี่จ่อใส่ทรวงอกคูชู่กี
.
สี่บรรรพชิตที่เหลือเห็นดังนั้นจึงรีบเข้าช่วยเหลือคู่ชู่กี
พร้อมกับพวกกิมลุ้นก๊กซืออีก 4 คน กลุ้มรุมจู่จมเซียวเล้งนึ่ง
.
ยามนี้ยอดฝีมือ 9 คน รายล้อมเซียวเล้งนึ่งไว้ เมื่อกิมลุ้นก๊กซือ
และพวกสอดมือเข้ามา ห้าบรรพชิตช้วนจินก็หลุดพ้นจาการคุกคามของกระบี่คู่เซียวเล้งนึ่ง นักพรตทั้งพลันใช้ออกด้วยกระบวนท่า
เจ็ดดาวร่วมชุมนุม มีอานุภาพสุดเปรียบปาน
.
เซียวเล้งนึ่งพุ่งเฉียงๆ ถอยรุ่นไป เสียงโครมคราหนึ่ง
บนเนินทรายปรากฏผงคลีคละคลุ้ง💨 กระบวนท่านี้ถึงกับฟาดนีมอชิง
กลิ้งตีลังกาไป เมื่อนีมอชิงสู้กับห้าบรรพชิตช้วนจิน
เซียวเล้งนึ่งจึงไปกระบี่คู่ใส่กิมลุ้นก๊กซือหลายกระบวนท่า
.
พลันเซียวเล้งนึ่งส่งเสียงร้องกระบี่คู่ร่วงหล่นสู่พื้น
เหม่อมองพุ่มกุหลาบ🥀🥀🥀ข้างต้นสนร้องว่า
.
“ก่วยยี้ เป็นท่านจริงหรือ?”
.
ยามนั้นกิมลุ้นก๊กซือกระแทกจักรทองอย่างหักโหม
ห้าบรรชิตก็ใช่เจ็ดดาวร่วมชุมนุมจากด้านหลัง
กระบวนท่านี้ความจริงใช้ออกต้านทานนีมอชิง
.
แต่คนผู้นี้ลิ้มรสความเจ็บปวดจากกระบวนท่านี้แล้ว
ไม่กล้าต้านรับอย่างหักโหม ถลับหลบไปทางซ้าย
พลังของกระบวนท่านี้จึงบรรลุถึงกลางหลังเซียวเล้งนึ่ง
.
นางเมื่อพลันพบเห็นเอี้ยก่วยคล้ายถูกมารร้ายสิงสู่
ไม่รู้จักถลันหลบหลีก ที่กลางถูกพลังฝ่ามือ
ที่ทรวงอกถูกจักรทองทำร้าย ร่างอ้อนแอ้นถูกพลังมหาศาลทั้งสองสายกระแทกกระหนาบ สายตายังมองดูพุ่มกุหลาบ
.
พริบตานั้นจิตใจวาบหวิวหวั่นไหว
คล้ายกับว่าพลังทั้งสองสายนี้ไม่อาจทำร้ายนางแม้แต่น้อย
.
ทุกผู้คนถูกสายตานางดึงดูดไว้ อดเหลียวหน้าตามมิได้
ดูว่าในพุ่มกุหลาบมีความประหลาดพิกลอันใด
เห็นข้างต้นปรากฏเงาร่างสายหนึ่งพุ่งสาดออกมา 💥
สะอึกลงหว่างกลางกิมลุ้นก๊กซือและห้าบรรพชิตช้วนจิน
ยื่นแขนซ้ายโอบอุ้มร่างเซียวเล้งนึ่งขึ้น
ถลันวูบหนึ่งก็กระโดดออกจากวง ทรุดลงนั่งที่ใต้ต้นสนข้างพุ่มกุหลาบ
โอบรั้งเซียวเล้งนึ่งไว้ในอ้อมอก คนผู้นี้กลับเป็นเอี้ยก่วย
.
เซียวเล้งนึ่งถูกพลังสองสายทำร้ายอวัยวะภายในบาดเจ็บสาหัสนัก
พลันพบว่าเอี้ยก่วยแขนข้างขวาพลันว่างเปล่า จึงสอบถาม
“แขนขวาของท่านเล่า ไฉนไม่มีแล้ว ไฉนไม่มีแล้ว ?”
.
นางแม้มีชีวิตปางตาย ยังไม่คำนึงถึงตัวเองแม้แต่น้อย
ต้องถามไถ่เอี้ยก่วยให้กระจ่างชัดว่าไฉนแขนขาดไปข้างหนึ่ง
.
ทั้งนี้เพราะในจิตใจนาง บุรุษหนุ่มผู้นี้มีความสำคัญกว่าตัวเองร้อยเท่าพันทวี นางไม่ครุ่นคิดถึงตัวเองแม้แต่น้อย แต่ห่วงใยกังวลเอี้ยก่วยจนหมดใจ
นางจึงทราบว่าเป็นเพราะก๊วยพู้ฟันแขนชายอันเป็นที่รักนางขาดไป
#เคราะห์หามยามร้าย
หลังจากบาดเจ็บสาหัส หลายวันมานี้
เซียวเล้งนึ่งนั่งอยู่บนเตียงหยกเย็น
โคจรพลังบังคับชีพจรย้อนกลับตามแนวทางที่เอี้ยก่วยถ่ายทอดให้
.
กรุยจุดสำคัญตลอดทั้งร่าง 36 แห่งตามลำดับ
ยามนี้ทั้งสองกำลังใช้พลังลมปราณ ทะลวงจุดทั้งตง
ในชีพจรหยิมแมะของเซียวเล้งนึ่ง
.
ต่อมาลี้มกโช้วใช้ฝ่ามือเบญจพิษฟาดใส่เอี้ยก่วยที่กำลังทะลวงจุด
ทำให้เซียวเล้งนึ่งพลันเพิ่มผู้ช่วยอีกคนหนึ่ง ทะลวงผ่านจุดทั้งตง
พลังความร้อนที่ทรวงอกพลุ่งถึงท้องน้อยนางถึงกับคึกคักอักโข
ว่าอาการบาดเจ็บใกล้ทุเลาแล้ว
แต่อย่างไรก็ตามฝ่ามือของนางย่อมมีพิษ
เพราะนางใช้ฝ่ามือเบญจพิษ
.
....และเป็น #ก๊วยพู้ที่ซัดเข็มเงินใส่นาง ประจวบกับพิษภายในภาย
กำลังถ่ายเทออกมาตามลมปราณ แต่แล้วถูกทิ่มแทงอย่างรุนแรงเช่นนี้
พิษของฝ่ามือเบญจพิษล้วนไหลย้อนกลับ แทรกซึมจุดสำคัญทั่วร่าง
.
เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อให้มีใบไม้วิเศษโอสถทิพย์ ก็ไม่สามารถขจัดรักษได้อีก
เข็มเงินของลี้มกโช้วเพียงเป็นบาดแผลภายนอก
ขอเพียงรักษาทันเวลา ความจริงหาเป็นไรไม่
แต่เมื่อพิษแทรกซึมเข้าสู่ภายในก็ร้ายแรงสุดเปรียบปานแล้ว
#กาลเวลามิอาจกัดกร่อนพิษรัก 💟
เซียวเล้งนึ่งทราบว่าเมื่อเอี้ยก่วยเห็นนางถูกพิษยากรักษา
ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่ลำพัง นางจึงทบทวนหวนนึกว่า
มีแต่นางเองตายก่อน ทำลายความความคิดของเอี้ยก่วย
ค่vยมีหวังให้เอี้ยก่วยขจัดพิษดอกรักภายในกาย
แต่หากนางแม้นเปิดเผยวี่แววว่าจะฆ่าตัวตาย
รังแต่เร่งรัดให้เอี้ยก่วยตายก่อน
.
นางครุ่นคิดอยู่ครึ่งคืน จึงใช้ปลายกระบี่สลักข้อความ
บนผาลำไส้ขาดว่า
.
“สิบหกปีผ่านไปพบใหม่ ณ ทีนี้ 🍃
รักผูกพันนานปี อย่าให้มีผิดคำมั่น
เซียวเล้งนึ่งกำชับเอี้ยนึ้งผู้เป็นสามีถนอมตัวไว้หวังให้อยู่ร่วมสัมพันธ์ "
.🎋 🎋
นางจงใจกำหนดนัดหมายสิบหกปี จากนั้นค่อยกระโดดลงสู่ก้นหุบเหว
นางเห็นว่าหากแม้นเอี้ยก่วยโชคดีมีชีวิตรอด
หลังจากผ่านวันเวลาอันยาวนานสิบหกปี
ต่อให้ยังคิดถึงนางไม่เสื่อมคลาย คงไม่ถึงกับพลีชีพบูชารัก
.
นางหาคาดหมายไม่ว่า หลังจากสิบหกปีผ่านไป
เอี้ยก่วยยังกระโดดลงมาจนจนพบเจอนางอีกครั้ง⁉️
.
ยามนี้เอี้ยก่วยพลันถามว่า “ท่านไฉนนึกระยะเวลาสิบหกปี ?
หากแม้นท่านกำหนดนัดเป็น 8 ปี พวกเราไยมิใช่สามารถพบกันก่อน8ปี?
.
นางจึงกล่าวว่า “ข้าพเจ้าทราบว่าท่านบังเกิดความรัก
ต่อข้าพเจ้าอย่างลึกล้ำ เวลาสั้นๆ 8 ปี ไม่อาจชะล้างนิสัยอันร้องแรง
ปานเปลวเพลิงของท่าน โอคิดไม่ถึง แม้ห่างถึง 16 ปี
ท่านยังคงกระโดดลงมา
.
นางหลังจากกระโดดลงมาตกลงในบึงน้ำในสภาพสติเลอะเลือน
เมื่อลอยขึ้นมา ก็ถูกกระแสพัดพาเข้าสู่ถ้ำน้ำแข็งไหลฝ่ามายังที่ปัจจุบัน
.
ซึ่งนางอาศัย สถานที่นี้ไม่มีทวิชาติจตุบาท แต่ภายในบึงมีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ ผลไม้ที่ก้นหุบเหวรับประทานไม่หมด แพรพรรณ
ได้แต่ลอกเปลือกไม้มาจัดทำเป็นเสื้อผ้า
.
นางอาศัยอยู่หลายวันพิษในภายย่อมกำเริบขึ้น
ได้แต่อาศัยก้นบึงที่นี้ ซึ่งผนึกจากน้ำแข็งหมื่นปี ❄️❄️
ช่วยบรรเทารักษาแทนเตียงหยกเย็น
.
ต่อมามีผึ้งหลายตัวโบยบินลงมา🐝 ซึ่งเป็นผึ้งที่เฒ่าทารกเลี้ยงไว้
ที่หุบเขาสิ้นไมตรี นางจึงจัดสร้างรวงรังให้ผึ้งอยู่อาศัย
.
ภายหลังจึงรับประทานผึ้งหยก บวกกับปลาขาว🐟ที่มีอยู่ในบึง
กลับเป็นโอสถทิพย์ในการขจัดพิษ หลังจากนั้นนานครั้งพิษจึงกำเริบที
ห้าหกปีที่ผ่านมากลับไม่กำเริบแม้สักครั้งเดียว
นางคาดว่าทุเลาหายดีแล้ว
หลังจากสิบหกปีผ่านไปนางจึงพบเอี้ยก่วยที่ก้นหุบเหว
.
เอี้ยก่วยยิ้มพลางกล่าวว่า
.
“แสดงว่าคนผู้หนึ่งยังคงมีความรักลึกล้ำประเสริฐเลิศกว่า
หากแม้นความคิดถึงที่ข้าพเจ้ามีต่อท่านจืดจางเบาบาง
เพียงคร่ำครวญหวนไห้บนผาล้ำไส้ขาดเที่ยวหนึ่งแล้วผละจากไป
อย่างนั้นพวกเราจะไม่ได้พบกันอีกตลอดกาล
.
เซียวเล้งนึ่งกล่าวว่า
“ในห้วงจักรวาลอันเวิ้งว้าง ย่อมมีลิขิตแห่งฟ้ากำหนดไว้”🌈
.
หลังจากติดตามเอี้ยก่วยช่วยการศึกที่เมืองเซียงเอี้ยง
และขึ้นเขาฮั้วซัวเพื่อไว้พ่อบุญธรรมของเอี้ยก่วย นามอาวเอี้ยงฮงแล้ว
เอี้ยก่วยได้จูงมือเซียวเล้งนึ่งเดินเคียงคู่ลงจากเขา
.
ภายหลังคู่ชู่กีแต่งคำร้อยกรอง #บ้อซกเหนียม 🌕
(อโลกียานุสติ หมายถึงไร้โลกีย์คะนึง) ยกย่องชมเชยเซียวเล้งนึ่งว่า
วสันต์โอฬารเคลื่อนคล้อยผ่าน
ทุกปีของเทศกาลเช็งเหม็ง
ฤดูดอกสาลี่แบ่งบาน
.
ดุจแพรขาวเลื่อมเหลืองหอมจรุง
พฤกษ์หยกงามดอกตูมสุมหิมะ
ราตรีกาลเงียบสงบ
เงาอุทกเมฆหนาแน่น
.
อาบไล้แสงจันทร์เยียบเย็น
สุดฟากฟ้าแดนดินถิ่นมนุษย์
ประกายเงินผ่องผุดพรึ่งพร่าพราย
ไร้มลทินดั่งอริยนารี
.
ราศีพริ้งเพริศงดงาม
เจตจำนงสูงล้ำบริสุทธิ์
หมื่นบุบฝาแทรกแซมเรียงรายล้อม
มิร่วมวงรวมกลุ่มมุ่งประชัน
.
จิตผ่องแผ้วไพศาล
ธาตุเซียนล้ำสง่าศรี
ลงธรณียากแยกแยะ
คืนสู่วิมานทิพย์สถาน
จึงประจักษ์ความวิสุทธิ์โสภา
....
เซียวเล้งนึ่งควรคู่กับคำว่า “ไร้มลทินดั่งอริยนารี 🕊
ราศีพริ้งเพริศงดงาม เจตจำนงสูงล้ำบริสุทธิ์”
.
คู่ชู่กียังบรรยายว่านาง “จิตผ่องแผ้วไพศาล ธาตุเซียนล้ำสง่าศรีก”
มิหนำซ้ำยังเขียนว่า “มิร่วมวงรวมกลุ่มมุ่งประชัน”
.
ในชีวิตเซียวเล้งนึ่งชมชอบสวมใส่ชุดขาว
เฉกเช่นพฤกษ์หยกกลางสายลม
ดอกตูมที่ถูกหิมะสุมคลุม☃️ บวกกับมีนิสัยเย็นชา
นับว่าคู่ควรกับการรับคำ “อาบไล้แสงจันทร์เยียบเย็น”
สมควรรจนาถ้อยคำ “อโลกียานุสติ”
.
เพื่อสดุดีกำนัลแด่ทายาทสำนักสุสานโบราณนางนี้
นามเซียวเล้งนึ่งผู้งามสะคราญโฉมเป็นดั่งเทพธิดาสถิตจากฟ้าสุราลัย
🌷 🌹 🌷 🌹
...
ขอคารวะเหล่าสหายชาวยุทธทุกท่าน🙏
อนันตทวิ☯️
ขอบคุณภาพจากซีรีย์ มังกรหยก เอี้ยก่วยเจ้าอินทรี
โฆษณา