31 ต.ค. 2021 เวลา 08:18 • ความคิดเห็น
ต้องหมั่นสังเกตุ​ จากสถานการณ์​อื่นร่วมด้วยถึงจะตัดสินเด็ด​ขาดได้
ครั้งนี้... เขาอาจมีเหตุผลจริงๆแต่ปฏิเสธไม่เป็น
แต่ถ้า ท่าทางเฉยเมยของเขา ดูแล้วคือ ไม่ใยดีด้วยความใจร้าย ก็อาจต้องดูเรื่องที่เราให้เขาช่วยว่า หักหาญ​น้ำใจในยามยากของเขาหรือเปล่า เขาจึงน้อยใจเรากลับเช่นกัน
แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่(ในบรรทัดฐาน​สถานะของเขา ไม่ใช่เรา)​ อันนี้ก็ ห่างๆกันเลยจะดีกว่า เพื่อน อาจต้องคิดแทนกันให้มาก ว่าเพื่อนมีสภาพอย่างไร
ตัวอย่าง​: เพื่อนเราเอง เป็นเพื่อนคนละห้อง สมัยเรียน แต่กลับมาเจอกันตอนทำงานโดยบังเอิญ​ เลยได้ไปไหนมาไหนกันตอนโต วันนึงเราลาออกจากงานเงินเดือนสูงๆ มาเป็นแม่ค้า ชีวิตไม่ได้สวยหรูเหมือนก่อน เดือนนั้นเราขัดสนอย่างมาก แต่เพื่อนคนนี้ ก็ทักมายืมเงิน เพื้อนพูดประโยคนึงว่า"ชั้นก็รู้ ว่าแกลำบาก แต่ชั้นไม่กล้่ายืมใคร กล้ายืมแต่แก" ทั้งที่ เพื่อนที่ืำงานของมัน สนิทกับมันมากกว่า เวลามีความสุข นึกถึงแต่เพื่อนคนอื่น เวลาเดือดร้อน นึกถึงเรา ทั้งที่เราอธิบายแล้ว​ว่าเงินจะเอาไปให้แม่ ก็ไม่ฟัง
เพื่อนคนนี้ ก็เคยพาเราไปไหนมาไหนตอนเราหย่ากับแฟน สทัยยังไม่มีรถ มันก็พาเราไปเที่ยว แต่... พอมันเดือดร้อน เรากลับไม่อยู่ในสภาพที่อยากช่วยมัน แถมตอนนี้ ก็แทบเรียกได้ว่าเลิกคบไปแล้ว
เราไม่ได้ว่าคุณน้า แต่ว่า รายละเอียดอาจไม่ชัดเจน เลยได้แต่ยกตัวอย่างของส่วนตัว
ลองคุยกับเพื่อนตรงๆนะคะ ถ้าคุยได้ ถ้าไม่ประสบผล ก็ถอยห่างเลยค่ะ
โฆษณา