31 ต.ค. 2021 เวลา 12:48 • ประวัติศาสตร์
Day of The Dead คือเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงเพื่อน ครอบครัว บุคคลอันเป็นที่รักที่เสียชีวิตไปแล้ว และได้เริ่มต้นการเดินทางทางวิญญาณของชีวิตหลังความตาย ในลักษณะที่เต็มไปด้วยความร่าเริงสนุกสนาน (ในขณะที่ฮาโลวีนมาพร้อมความหวาดกลัว)
เทศกาลนี้เกิดต่อเนื่องมาจากพิธีกรรมของชาวแอซเท็ก (Aztec) โบราณที่จัดขึ้นเพื่อให้เกียรติผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว ผู้คนมารวมตัวกันสวดมนตร์เพื่อช่วยเหลือผู้ที่จากไปในการเดินทางบนเส้นทางแห่งวิญญาณของพวกเขา
Day of The Dead
ในช่วงเทศกาล ครอบครัวและผู้คนในชุมชนต่างๆ จะมารวมตัวกันเพื่อเฝ้าดูแลและจัดปาร์ตี้เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่จากไป ตกแต่งแท่นบูชาเพื่อรำลึกถึงผู้ตายด้วยอาหารจานโปรดหรือของใช้ส่วนตัวของที่ผู้เสียชีวิตด้วยความหวังว่าดวงวิญญาณเหล่านั้นจะอำนวยพรแก่คนที่เขารัก
ที่จริงการจัดปาร์ตี้ การเฉลิมฉลอง การตกแต่งตามประเพณีนั้นทำกันแต่ในบ้าน สวนหลังบ้าน เฉพาะในครอบครัวเท่านั้น แต่ขบวนแห่และพาเหรดการแต่งกายทั้งหลายเพิ่งจะมีในทีหลัง ในปี 2016 นี้เอง และได้รับความสนใจไปทั่วโลกด้วยสีสันความสวยงามจนทำให้งานแต่ละปีต่อ ๆ มา นั้นยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
การแต่งตัว แต่งหน้า สีสัน เครื่องประดับตกแต่งทั้งหลายนั้นเต็มไปด้วยความหมาย การตกแต่งบ้านเรือนหรือแม้กระทั่งการแต่งตัวประดับประดาด้วยดอกดาวเรือง (marigold) นั้นมีความหมายว่า กลิ่นหอมของดอกดาวเรืองจะช่วยนำทางจิตวิญญาณของญาติหรือคนรักที่เสียชีวิตไปแล้วให้กลับมายังที่บ้านได้ในช่วงเทศกาลนั้น ผีเสื้อจักรพรรดิเป็นตัวแทนของดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว หัวกระโหลกเป็นตัวแทนของวัฏจักรชีวิต
เทศกาลนี้แบ่งออกเป็น 2 วันหลัก ๆ
โดยวันที่ 1 พฤศจิกายน หรือวัน Día de los Inocentes (Day of the Innocents) หรือ Día de los Angelitos (Day of the Little Angels) เป็นวันที่เชื่อกันว่าวิญญาณของเด็กที่กลับมาจะใช้เวลาทั้งวันกับคนในครอบครัว ส่วนบ้านที่ไม่มีลูกหลานเสียชีวิตก็อาจจะมีการจัดเตรียมขนมและของเล่นไว้ต้อนรับวิญญาณเด็กเร่ร่อน หรือเด็กที่ไม่มีบ้านให้กลับ
ส่วนวันที่ 2 พฤศจิกายน หรือวัน Día de los Muertos (Day of the Dead) เป็นวันที่วิญญาณผู้ใหญ่กลับมาเยี่ยมบ้าน มีการจัดแท่นวางอาหาร และข้าวของไว้ต้อนรับที่บ้านเช่นเดียวกันกับการต้อนรับเด็ก ๆ และเนื่องจากคนในยุคหลังนิยมฝังศพสมาชิกในครอบครัวไว้ที่สุสานของชุมชนมากกว่าจะฝังไว้ใกล้บ้าน บางภูมิภาคของเม็กซิโกจึงมีธรรมเนียมที่สมาชิกครอบครัวจะพากันไปทำความสะอาดสุสานในช่วงเย็น มีการตกแต่งประดับประดาสุสานด้วยดอกไม้ รูปภาพ กลอนไว้อาลัย หรืออาจจะเปิดเพลงที่ผู้ตายชอบ บ้างก็มีการเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม พร้อมที่นอนหมอนมุ้ง เพื่อไปใช้เวลาร่วมกับวิญญาณของผู้ตายที่จะกลับมาที่สุสานให้ได้นานที่สุด
ความเชื่อเรื่อง ‘วันแห่งผู้ล่วงลับ’ เกิดขึ้นตั้งแต่หลายพันปีก่อนในยุคของชาว Aztec, Toltec และ Nahua ที่เชื่อว่าความตายเป็นแค่อีกระยะหนึ่งของชีวิต คนตายยังคงเป็นส่วนหนึ่งของสังคม เพียงแค่ย้ายไปอยู่ในโลกอื่น และพวกเขาจะกลับมาโลกเดิมปีละครั้ง
ความเชื่อนี้ฝังแน่นมาจนถึงอารยธรรมใหม่ เมื่อหลอมรวมกับความเชื่อทางคริสตศาสนาที่เข้ามาพร้อมชาวสเปนผู้ยึดครองเม็กซิโก เทศกาลที่ชื่อว่า Dia de los Muertos จึงถือกำเนิด และเหตุที่จัดขึ้นติดต่อกัน 3 วันนั้นก็ด้วยความที่ตรงกับ 3 วันสำคัญของชาวคริสเตียนคือ All Saints Eve, All Saints Day และ All Soul Day นั่นเอง
ด้วยความเชื่อว่าบรรดาญาติพี่น้องที่ตายไปแล้วจะดั้นด้นเดินทางกลับมายังบ้านที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่ในช่วงเทศกาลแห่งความตาย คนในครอบครัวจึงมักเตรียมอาหารโปรดมื้อใหญ่ไว้ต้อนรับบนแท่นบูชา (Ofrenda) เผื่อว่าเดินทางนั้นจะทำให้ญาติผู้ล่วงลับหิวโหยและเหนื่อยล้า พร้อมกับเตรียมสิ่งของที่คนตายชอบสมัยยังมีชีวิตอยู่ ทั้งหนังสือโปรด เครื่องดนตรีประจำตัว เพื่อเป็นเครื่องเอนเตอร์เทนต้อนรับการกลับมาในรอบปี
หลังจากการต้อนรับขับสู้เสร็จสิ้นก็ถึงเวลาของการปาร์ตี้ครั้งใหญ่ ครอบครัวจะพากันออกเดินทางไปยังสุสานของผู้ตาย เพื่อทำความสะอาดป้ายบนหลุมศพ ประดับประดาด้วยดอกไม้จนแทบมองไม่เห็นผืนดิน ร้องรำทำเพลง และพูดคุยกับญาติๆ ที่ตายไปแล้ว บางคนถึงกับพาลูกมาแนะนำตัวกับปู่ย่าที่ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าหลานก็มี
ปาร์ตี้ ณ สุสานเช่นนี้ไม่มีกำหนดเลิกแน่ชัด บางคนจึงจุดเทียนและนั่งคุยกับครอบครัวจนข้ามคืน ทำให้สุสานช่วงเทศกาล Day of the Dead เรืองรองด้วยแสงเทียนที่สะท้อนกับกลีบดอกดาวเรืองกลายเป็นค่ำคืนที่สดใสที่สุดเท่าที่สุสานจะเป็นได้ด้วยตัวของมัน
#สาระจี๊ดจี๊ด
เทศกาล Day of the Dead ไม่เหมือนเทศกาลฮาโลวีนอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจผิดเพราะสองเทศกาลนี้ มีจุดมุ่งหมายแตกต่างกัน เพียงแต่ลักษณะคล้ายคลึงกันเท่านั้น
#Wasabi ขอเพียงมีส่วนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คุณ!
"เจริญเติบโต ก้าวหน้า สำเร็จ อย่างภาคภูมิใจ"
#สาระจี๊ดจี๊ด #Wasabi #ความรู้ขึ้นสมอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา